Haijai.com


2 วิธีธรรมชาติสยบโรคสะเก็ดเงิน


 
เปิดอ่าน 7179

2 วิธีธรรมชาติสยบโรคสะเก็ดเงิน

 

 

ถ้าเช้าวันหนึ่งลืมตาตื่นแล้วพบว่า หนังศีรษะของคุณลอกเป็นขุยๆ จากนั้น อีกหนึ่งเดือนต่อมาผิวหนังเริ่มมีสะเก็ดสีขาวหลุดลอกทั่วร่างกาย นั่นอาจแสดงว่าคุณกำลังป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งสร้างความลำบากให้ผู้ป่วยทั้งด้านจิตใจและร่างกาย

 

 

นอกจากไม่กล้าเข้าสังคมเพราะกลัวคนทั่วไปรังเกียจ เนื่องจากเข้าใจผิดว่าสะเก็ดเงินเป็นโรคติดต่อแล้ว ผู้ป่วยต้องทนทุกข์กับรอยโรคทั่วทั้งตัว มิหนำซ้ำหมอยังฟันธงให้ช้ำใจอีกว่า สะเก็ดเงินไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ผู้ป่วยหลายท่านจึงทำได้เพียงดูแลสุขภาพ เพื่อประคองไม่ให้อาการกำเริบ

 

 

ลดน้ำหนักลดการกำเริบ

 

คุณนวลใย เชื้อคำ อายุ 44 ปี เข้ารับการรักษาโรคสะเก็ดเงินที่โรงพยาบาลศิริราช และได้รับคำแนะนำจากคุณหมอให้ลดน้ำหนักเพื่อคุมอาการ

 

 

“ดิฉันเป็นโรคสะเก็ดเงินตั้งแต่ พ.ศ.2545 ใช้ทั้งยากินและยาทาตามที่หมอสั่ง อาการก็ดีขึ้น แต่ไม่เห็นผล 100 เปอร์เซ็นต์ จนประมาณเดือนมิถุนายน พ.ศ.2557 ทางโรงพยาบาลศิริราชจัดกิจกรรมให้ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินแข่งขันลดน้ำหนัก เพื่อช่วยในการรักษาโรค ซึ่งดิฉันเป็นผู้ชนะของงานนี้ค่ะ”

 

 

“ก่อนหน้านี้ดิฉันไม่ออกกำลังกายเลย แต่เมื่อลงชื่อแข่งขันลดน้ำหนัก สิ่งแรกที่คิด คือ ต้องออกกำลังกายบ้างแล้วนะ”

 

 

หลังเลิกงานดิฉันไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน แต่วิ่งได้ไม่กี่สัปดาห์ก็รู้สึกปวดเมื่อยตัว จึงเปลี่ยนมาวิ่งบนลู่ในฟิตเนสแทนค่ะ ซึ่งดิฉันคิดว่าวิธีนี้เหมาะกับตัวเอง การวิ่งบนลู่ให้ความรู้สึกนุ่มกว่าพื้นถนน ทำให้วิ่งได้เร็วและนานขึ้น แถมยังไม่ค่อยปวดเข่าอีกด้วย”

 

 

“ทุกวันนี้วิ่งวันละ 45 นาที หากไม่ได้ไปฟิตเนสก็จะวิ่งเหยาะๆ อยู่ที่บ้านวันละ 10 นาที จากนั้นจึงเล่นฮูลาฮูปต่ออีกครึ่งชั่วโมง”

 

 

นอกจากนี้คุณนวลใยยังควบคุมอาหารในแต่ละมื้อ โดยเน้นกินผักต้มและปลาทะเลนึ่งเป็นประจำ รวมทั้งวดน้ำอัดลมและนมโดยเด็ดขาด

 

 

“จากน้ำหนัก 68 กิโลกรัม ตอนนี้เหลือเพียง 64 กิโลกรัม รูปร่างกระชับขึ้น รอยโรคลดลงอย่างเห็นได้ชัด ยาแผนปัจจุบันที่หมอให้ก็ใช้ได้ผลดี แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ การมีครอบครัวที่ดี มีเพื่อนร่วมงานที่เข้าใจ ที่รู้ว่าสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อและไม่แสดงท่าทางรังเกียจ กำลังใจจากคนใกล้ตัวนี้จะช่วยให้จิตใจของผู้ป่วยดีขึ้นได้ และคุณหมอมักย้ำกับดิฉันว่า เมื่อไม่เครียด อาการก็จะดีขึ้นค่ะ

 

 

แพทย์หญิงลีนา จุฬาโรจน์มนตรี ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช อธิบายเรื่องน้ำหนักตัวของผู้ป่วยที่ส่งผลต่อโรคสะเก็ดเงินว่า

 

 

“ผู้ป่วยจำเป็นต้องควบคุมน้ำหนัก ถ้าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ความรุนแรงของโรคจะเพิ่มขึ้น และมีงานวิจัยยืนยันด้วยว่า น้ำหนักตัวที่ลดลงจะช่วยลดความรุนแรงของโรคลงตามด้วย”

 

 

“นอกจากนี้โรคสะเก็ดเงินยังมีความสัมพันธ์กับโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และภาวะไขมันในเลือดสูง นั่นเพราะ สะเก็ดเงินมีกลไกของการอักเสบที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย จึงส่งผลเชื่อมโยงไปสู่โรคต่างๆ และสิ่งนี้เองที่ทำให้ผู้ป่วยต้องควบคุมน้ำหนัก

 

 

จากสถิติของโรงพยาบาลศิริราช พ.ศ.2557 พบว่า โรคสะเก็ดเงินจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกของโรค ที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์ในแผนกผิวหนัง ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งโรคผิวหนังที่คุณไม่ควรมองข้าม

 

 

กำหนดลมปราณเพื่อคุมอาการ

 

คุณพรรณทิพย์ เทิดพิทักษ์พงษ์ อายุ 60 ปี ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน เล่าว่า “ประมาณ 5-6 ปีก่อน พี่ชายวัย 65 ปี อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร ที่ดิฉันสนิทสนมป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงิน

 

“ไม่ว่าจะรักษาด้วยการทายาหรือฉายแสงอาทิตย์เทียม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาตามหลักแพทย์แผนปัจจุบัน  แต่อาการของโรคยังคงกำเริบ แม้จะรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่เห็นผล ค่อนข้างบั่นทอนจิตใจของผู้ป่วยมากค่ะ”

 

 

“กระทั่ง พ.ศ.2556 ได้รับคำแนะนำเรื่องการฝึกพลังลมปราณ (ชี่กง) จาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์พงษ์ศิริ ปรารถนาดี (อาจารย์พิเศษ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) หลังจากร่วมออกกำลังกายด้วยกันที่สวนสันติภาพใกล้กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ”

 

 

“ตอนแรกเราไม่ทราบหรอกว่าการฝึกลมปราณมีผลดีอย่างไร แต่เคยเห็นผู้เฒ่าผู้แก่หลายท่านฝึกกัน จึงคิดว่าอย่างน้อยๆ คงช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น”

 

 

“ดิฉันจึงเริ่มให้พี่ชายฝึกพลังลมปราณในสวนสาธารณะใกล้บ้านตอนเช้า ใช้เวลาฝึกวันละ 1 ชั่วโมง หลังจากฝึกอย่างต่อเนื่องประมาณ 2 เดือน เขาบอกว่ารู้สึกดีขึ้นมาก ร่างกายสดชื่น และหลับสบายกว่าเมื่อก่อน”

 

 

“เมื่อฝึกพลังลมปราณร่วมกับการใช้ยาแผนปัจจุบัน ทำให้อาการของโรคสะเก็ดเงินดีขึ้นตามลำดับ ผื่นลดลง โรคไม่ค่อยกำเริบค่ะ”

 

 

ทั้งนี้แพทย์หญิงลีนาให้ความเห็นเกี่ยวกับการฝึกพลังลมปราณเพื่อสุขภาพของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินว่า “เนื่องจากการหายใจที่ถูกต้อง ทำให้สมองผ่อนคลาย ความเครียดลดลง โรคจึงไม่กำเริบ

 

 

“แนะนำว่า ให้ผู้ป่วยเริ่มจากการฝึกหายใจออกให้ช้าและหายใจเข้าให้ลึก อาจกลั้นลมหายใจไว้สักครู่ แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออก โดยหายใจเข้าให้ท้องพอง แล้วหายใจออกให้ท้องยุบค่ะ”

 

 

จริงอยู่ที่โรคสะเก็ดเงินไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าผู้ป่วยรู้จักดูแลตนเองร่วมกับปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ ก็จะทำให้โรคไม่กำเริบ สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้

(Some images used under license from Shutterstock.com.)