© 2017 Copyright - Haijai.com
ไลโคปีน ต้านพิษระบบสืบพันธุ์
ไลโคปีนเป็นสารแคโรทีนอยด์ที่พบมากในมะเขือเทศ แลที่แปลกกว่าสารธรรมชาติอื่นๆ คือ เมื่อนำมะเขือเทศไปผ่านกระบวนการปรุงอาหาร ไลโคปีนในมะเขือเทศจะกลายเป็นรูปที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ดีขึ้น แทนที่จะสลายตัวไป อาหารอื่นๆ ที่เป็นแหล่งของไลโคปีน ได้แก่ แตงโม ฝรั่งขี้นก (ฝรั่งเนื้อสีชมพู) และฟักข้าว ไลโคปีนทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้น จึงอาจจะช่วยลดความเสี่ยวต่อการเป็นโรคหัวใจ ต้อกระจก มะเร็ง ตลอดจนมีงานวิจัยว่าการเสริมไลโคปีนพร้อมกับเซเลเนียมและซอว์พาลเมตโต ช่วยลดความเจ็บปวดของผู้ที่มีอาการต่อมลูกหมากโตได้
นอกจากประโยชน์สุขภาพที่กล่าวมาข้างต้น งานวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ ยังแสดงให้เห็นว่าไลโคปีนช่วยลดการเกิดริ้วรอยและการเสื่อมสภาพของผิวหนัง จากการได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต การศึกษานี้ได้แบ่งหนูทดลองที่ถูกขจัดขนด้านหลังออกเป็น 7 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ไม่ได้รับการฉายรังสีอัลตราไวโอเลต กลุ่มที่ 2 ได้รับการฉายรังสีอัลตราไวโอเลต แต่ไม่ได้รับการรักษาใดๆ เป็นพิเศษ กลุ่มที่ 3, 4, 5, 6 และ 7 ได้รับการฉายรังสีอัลตราไวโอเลต แต่ได้รับการทาเจลที่หลัง ซึ่งประกอบด้วยสารต่อไปนี้ หลังการฉายรังสีอัลตราไวโอเลต ได้แก่ เดกซาเมทาโซน (0.01%) ไลโคปีน (10%) เดกซาเมทาโซน (0.005%) + ไลโคพีน (5%) เดกซาเมทาโซน (0.01%) + ไลโคพีน (10%) และเทรทิโนอินตามลำดับ หลังจากศึกษาครบ 12 สัปดาห์ หนูที่ได้รับการทาเจลที่ประกอบด้วยไลโคปีน และเทรทิโนอิน มีริ้วรอยน้อยกว่ากลุ่มที่ได้รับการฉายแสงอย่างเดียว หรือกลุ่มที่ได้รับเดกซาเมทาโซน นอกจากนี้ไลโคปีนยังลดการเกิดอนุมูลอิสระในผิวหนัง ช่วยลดการสลายตัวของคอลลาเจน และรักษาความหนาของชั้นหนังกำพร้าให้เป็นปกติ ในขณะที่การได้รับเดกซาเมทาโซนเดี่ยวหรือผสมกับไลโคปีนไม่แสดงให้เห็นถึงผลดีดังกล่าว
นอกจากนี้ในสังคมปัจจุบันที่ใช้พลาสติก เป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันนั้น สารบิสฟีนอล เอ (บีพีเอ) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของพลาสติกและสามารถปนเปื้อนสู่อาหารได้ อาจมีความเป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์ ไลโคปีนจะช่วยปกป้องระบบสืบพันธุ์จากพิษร้ายใกล้ตัว ดังงานวิจัยหนึ่งที่แบ่งหนูทดลองออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มควบคุมได้รับแต่น้ำมันข้าวโพด กลุ่มที่ได้รับน้ำมันข้าวโพด ซึ่งมีบีพีเอ (ขนาด 200 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม) ละลายอยู่ กลุ่มที่ได้รับน้ำมันข้าวโพดที่มีบีพีเอในขนาดดังกล่าวและไลโคปีน (10 มิลลิกรัมต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม) และกลุ่มที่ได้รับไลโคปีนเพียงอย่างเดียว หลังจากเวลาผ่านไป 30 วัน บีพีเอลดปริมาณและคุณภาพของอสุจิในขณะที่ไลโคปีน ช่วยลดความเสียหายจากบีพีเอตลอดจนช่วยรักษาความเป็นปกติของสารต้านอนุมูลอิสระ และเนื้อเยื่อในอัณฑะหนูทดลองด้วย
(Some images used under license from Shutterstock.com.)