
© 2017 Copyright - Haijai.com
ผิวขาวใสแบบครบสูตร
ผู้หญิงส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับผิวพรรณที่เรียบเนียบขาวใส เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็อาจจะเป็นเพราะว่าผู้ชายไทยส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงผิวขาวเนียน ถ้ายิ่งหุ่นดี ตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารักด้วยแล้ว ยิ่งใช่สเป็ค ดังนั้น เราจึงเห็นได้ว่าบรรดาสาวๆ ส่วนใหญ่จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อมีผิวที่ขาวขึ้น แต่บางคนก็ชอบผิวสีแทนนิดๆ ดูสวยเป็นธรรมชาติ อ่ะ ของแบบนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัว แต่สำหรับสาวๆ ที่อยากขาว เราแนะนำให้ขาวขึ้นด้วยวิธีธรรมชาติอย่างยั่งยืน เพราะใครที่อยากให้ผิวขาวไวๆ ก็อาจจะได้อย่างอื่นมาเป็นของแถม นอกจากความขาวที่อยู่กับเราแค่ประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น
ทำไมเราจึงมีผิวต่างกัน
สาเหตุที่ทำให้แต่ละคนแต่ละเชื้อชาติมีสีผิวที่แตกต่างกันออกไปนั้น เกี่ยวข้องกับเรื่องของเชื้อชาติและกรรมพันธุ์มาเป็นอันดับหนึ่ง เช่น คนคอร์เคเชียนหรือคนยุโรปมักจะมีผิวขาว ส่วนคนมองโกลอยด์หรือคนเอเชียมักจะมีผิวเหลือง และคนนิโกรหรือคนแอฟริกาใต้จะมีผิวสีดำ และในบางครั้งคนที่มาจากเชื้อชาติเดียวกัน แต่อยู่คนละภูมิภาคก็มีสีผิวต่างกัน เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อม โดยเฉพาะการโดนแสงแดด ซึ่งมีส่วนทำให้ผิวคล้ำได้มาก แต่ในบางคนสีผิวที่คล้ำนั้นก็มาจากโรคบางอย่าง เช่น โรคไต โรคเกี่ยวกับฮอร์โมน การรับประทานยาหรือการได้รับยาบางชนิด เช่น กรดวิตามิน A ที่ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น จึงทำให้ผิวคล้ำเสียได้ง่าย นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้ผิวคล้ำได้อีกเช่นกัน เช่น พฤติกรรมการรับประทานอาหาร เป็นคนไม่ค่อยทานผักผลไม้ นอนดึก พักผ่อนน้อย ดื่มน้ำน้อย ความเครียด สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ เป็นต้น
ซึ่งคนที่อยากจะมีผิวขาวนั้นต้องเข้าใจก่อนว่า ขีดจำกัดที่ผิวจะสามารถขาวขึ้นได้นั้น มีมากน้อยแค่ไหนและอย่างไร โดยผิวอาจจะขาวได้มากที่สุดเท่ากับผิวส่วนที่ขาวที่สุด ที่อยู่ในร่มผ้าของเรา แต่บางคนก็มีปัญหาคือตอนเด็กๆ มีผิวขาว แต่พอโตมากลับดำขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักมีสาเหตุมาจากการโดนแดดเป็นเวลายาวนานนั่นเอง ส่วนคนที่ดำมาแต่กำเนิดจะทำให้ผิวขาวแบบคนที่ผิวขาวอยู่แล้ว ก็คงไม่สามารถทำได้ แต่หากปฏิบัติตามวิธีการต่างๆ อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอแล้ว ผิวของคุณก็จะขาวขึ้นจนมีสีผิวเท่ากับบริเวณผิวที่ขาวมากที่สุดในร่างกาย เช่น หน้าอก ขาอ่อน ท้อง แขน เป็นต้น โดยวิธีการต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในการปรับสีผิว ต้องอาศัยการดูแลอย่างถูกวิธี เพื่อทำให้ผิวดูขาวใส ผุดผ่อง เรียบเนียน ไม่มีจุดด่างดำ สุขภาพผิวโดยรวมดูดีขึ้น
ป้องกันก่อนผิวดำคล้ำเสียจะมาเยือน
ก่อนที่ผิวคุณจะดำคล้ำมากไปกว่านี้ การป้องกันเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการคงความขาวใสให้กับผิว เพื่อให้ผิวสวยสุขภาพดีอยู่กับเรานานๆ โดยการป้องกันปัญหาผิวไม่ให้ดำคล้ำต้องเป็นการป้องกันจากภายใน และดูแลเรื่องภายนอกควบคู่กันไป เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
1.การป้องกันจากภายใน
ข้อปฏิบัติที่ทุกคนทำได้ไม่ยากเลยก็คือ การดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว เพราะภายในร่างกายของเราเซลล์ต่างๆ ประกอบไปด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ ควรเข้านอนไม่เกิน 5 ทุ่ม เพื่อให้การหลั่งฮอร์โมนในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ ควรรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น โดยการเพิ่มผักในเมนูโปรด หรือเพิ่มผลไม้ในระหว่างมื้ออาหาร และข้อสำคัญคือต้องจัดการในเรื่องของภาวะความเครียด โดยเฉพาะสังคมเมืองในปัจจุบัน ที่เป็นสังคมเร่งรีบแข่งขันกับเวลาและเงินทอง รวมทั้งสภาวะแวดล้อมทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเครียดได้ง่ายๆ หากมีการสะสมความเครียดเข้าไปทุกวัน โดยไม่มีการจัดการหรือสลัดความเครียดนั้นออกไป ก็จะส่งผลให้ผิวหมองคล้ำหน้าดำคร่ำเครียดได้ หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดต่อผิว เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ซึ่งส่งผลให้ผิวหมองคล้ำขึ้นได้ การรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมร่วมด้วยก็ช่วยได้มาก เช่น วิตามินซี ซึ่งทำให้ผิวเราต่อต้านแสงแดดได้มากขึ้น หรือ แอล-ซิสเตอีน (L-Cysteine) เมื่อรับประทานเข้าไปร่างกายจะเปลี่ยนเป็นกลูตาไธโอน (Glutathione) สารสกัดจาเปลือกสน (Pine Bark Extract) มีประโยชน์ในเรื่องของการช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และยังยั้งการทำงานของเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ รวมถึงน้ำมันปลา (Fish Oil) ซึ่งช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้ หากรับประทานควบคู่กันไปก็จะได้ผลดียิ่งขึ้น
2.การดูแลจากภายนอก
การป้องกันแสงแดด โดยการทาครีมกันแดดเป็นประจำ การเลือกใช้ครีมกันแดดควรมี SPF 50 PA+++ โดยดูค่าทั้งยูวีเอและยูวีบี คือ สามารถป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอและยูวีบีในแสงแดด หากต้องการป้องกันให้ได้เต็มที่ไม่ควรทาครีมกันแดดบางเกินไป เพราะอาจทำให้ค่า SPF ลดลงได้ (ในผิวคนเอเชียค่า SPF 1 สามารถป้องกันได้ 15 นาที) และอาจต้องมีการทาซ้ำ โดยขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำ เช่น ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เที่ยวทะเล อาจต้องทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง (ถ้าโดนน้ำควรใช้ครีมกันแดดที่สามารถกันน้ำหรือ Waterproof ได้ด้วย) รวมทั้งการเข้าและออกอาคารโดยเฉพาะสาวๆ ออฟฟิศ ควรมีการทาซ้ำอีกครั้งตอนเที่ยง เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันผิวที่ดีขึ้น เลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ Whitening เพื่อช่วยลดการทำงานของเม็ดสีให้น้อยลง รวมถึงการทาครีมบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าปิดมิดชิด สวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวเวลาที่ต้องออกแดด กางร่ม สวมหมวก ปกป้องผิวจากแสงแดด รวมทั้งการเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพ ไม่เสื่อมสภาพ สามารถป้องกันแสงแดดได้จริง
ทางเลือกจัดการกับปัญหาผิวดำคล้ำ
สำหรับคนที่กำลังประสบกับปัญหาผิวดำคล้ำ เรามีทางเลือกแบบเอาชนะผิวดำอย่างขาดลอยมาฝาก รวมถึงคนที่ป้องักนจากภายในและดูแลจากภายนอกแล้ว แต่อยากจะมีผิวที่ขาวขึ้นมาอีกระดับ ก็สามารถเลือกทำตามวิธีการดังต่อไปนี้ได้
• ผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้
เนื่องจากผิวที่หมองคล้ำนั้น เกิดจากเม็ดสีที่ถูกสร้างขึ้นและสะสมอยู่เป็นจำนวนมากในเซลล์ผิวชั้นนอก ดังนั้น จึงต้องมีการผลัดเซลล์ผิวออกไปบ้าง โดยการใช้กรดผลไม้เข้มข้น ซึ่งคลินิกต่างๆ ในปัจจุบันจะมีการให้บริการทรีตเม้นท์นี้ด้วย โดยอาจทำประมาณเดือนละหนึ่งครั้ง หรืออาจทำเองที่บ้านได้ แต่ใช้กรดผลไม้ที่มีความเข้มข้นน้อยกว่าที่คลินิกใช้ ซึ่งข้อดีของการทำเองที่บ้านคือ ประหยัดและสามารถทำซ้ำได้บ่อยๆ ประมาณสัปดาห์ละครั้ง การใช้กรดผลไม้มีข้อดี คือ เป็นการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดลอกออก มีค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก แต่ข้อเสียคือหากมีการใช้กรดผลไม้เข้มข้น หรือการผลัดเซลล์ผิวบ่อยเกินไป ผิวอาจบางลงได้ หรือการทำโดยไม่ได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ เปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นอาจสูงเกินไป ซึ่งทำให้ผิวไหม้หรือเบิร์นได้
• กรอผิวด้วยเกร็ดเพชรหรือเกร็ดอัญมณี
การใช้เครื่องมือเกร็ดเพชรหรือเกร็ดอัญมณีในการกรอผิว เพื่อทำให้เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพหลุดลอกออกนั้น วิธีนี้มักเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ เพราะผิวเสื่อมสภาพที่ถูกผลัดออกไปนั้น ถูกกรอด้วยหัวเพชรที่มีความละเอียด ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. มีความปลอดภัย ไม่ทำร้ายผิว ถากผิว หรือทำให้ผิวบางลง โดยอาจค่อยๆ เลือกทำเฉพาะส่วน เช่น แขน หรือบริเวณที่มีรอยด่างดำมากๆ ก่อน ร่วมกับการใช้เครื่องมือผลักไวท์เทนนิ่ง (Electroporation) ที่ช่วยทำให้เห็นผลการรักษาที่รวดเร็วขึ้น ความถี่ในการทำอยู่ที่ประมาณสัปดาห์ละครั้ง ทำต่อเนื่องประมาณ 10 ครั้ง ข้อดีของการกรอผิวคือ เป็นวิธีที่เห็นผลชัดเจน ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากนัก ส่วนข้อเสียคือหากเครื่องมือที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน อาจเป็นการทำร้ายผิว ทำให้ผิวถูกถาก เกิดบาดแผลและเลือดออกได้
• ผลักไวท์เทนนิ่งเข้าสู่เซลล์ผิว
การใช้เครื่องผลักไวท์เทนนิ่งหรือที่เรียกว่า Electroporation นั้น เป็นการผลักตัวยาต่างๆ เข้าสู่เซลล์ผิว ซึ่งสามารถซึมลึกได้กว่าการทาครีมบำรุงผิวแบบธรรมดา ซึ่งอาจลงลึกได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่การทาสามารถซึมลึกได้ 5 เปอร์เซ็นต์หรือน้อยกว่า เนื่องจากโดยปกติแล้ว ผิวหนังของเราจะไม่ยอมให้อะไรผ่านไปง่ายๆ และการที่ตัวยาต่างๆ ลงลึกเข้าสู่ผิวได้มากเท่าไหร่นั้น ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้มากขึ้นเท่านั้น สิ่งสำคัญคือ การเลือกใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก FDA และ อย. ของไทย เพราะหากเครื่องมือที่ใช้ไม่มีคุณภาพ ก็อาจจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ และไม่ค่อยเห็นผลการรักษาเท่าไหร่นัก เนื่องจากขึ้นอยู่กับไวท์เทนนิ่ง หรือตัวยาที่เลือกใช้ด้วย ความถี่ในการทำอยู๋ที่ประมาณสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ทำต่อเนื่องประมาณ 10 ครั้ง ข้อดีของการผลักไวท์เทนนิ่งเข้าสู่ผิว คือ เป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่ทำให้ผิวบางลง และถ้ายิ่งทำควบคู่กับกรผลัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพออกไปด้วยแล้ว ก็จะยิ่งทำให้เห็นผลในระยะเวลาอันสั้นมากขึ้น
• เลเซอร์ปรับผิวขาว
หลายคนที่อยากมีผิวขาวมักจะนึกถึงเครื่องมือทางการแพทย์ชนิดนี้เป็นอันดับแรก เรียกได้ว่าเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันดีกับวงการความสวยความงาม เลเซอร์ชนิดที่นำมาใช้ในการปรับสีผิวให้ขาวขึ้น ได้แก่ IPL Laser (Intensed Pulse Light) ซึ่งเป็นการรักษาด้วยแสงความเข้มสูงพิเศษ ให้ผลการรักษาที่ดี ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูขาวใสขึ้น ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย สามารถเลือกทำเฉพาะส่วนได้ เช่น แขน รักแร้ ขาหนีบ โดยความถี่ในการทำอยู่ที่ประมาณ 2 สัปดาห์ ต่อ 1 ครั้ง และทำอย่างต่อเนื่องประมาณ 10 ครั้ง เลเซอร์ชนิดต่อมาคือ Medlite Laser เป็นเครื่องมือที่อยู่ในกลุ่มของ Q-Swicth ND : Yag laser มีความยาวคลื่น 1064 nm และ 532 nm เป็นกลุ่มของเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษาเม็ดสีหมองคล้ำ ซึ่งได้ผลดีพอสมควร ควรทำ 2 สัปดาห์ / ครั้ง และต่อเนื่องประมาณ 10 ครั้ง ข้อเสียคือการทำในบริเวณกว้าง อาจมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และหากทำทั้งตัวอาจไม่คุ้มในเรื่องของค่าใช้จ่าย
หากต้องการสวยก็ต้องเป็นการสวยแบบยั่ง และหากต้องการขาวก็ต้องขาวอย่างปลอดภัยและยั่งยืนด้วย ไม่ใช่เดี๋ยวขาวเดี๋ยวดำ คนที่ต้องการมีผิวขาว หากใช้วิธีที่ทำให้ขาวรวดเร็วดั่งใจ แต่ว่ามีความเสี่ยง ไม่ปลอดภัย เช่น การฉีดผิวด้วยกลูตาไธโอนหรือสารต่างๆ ก็เกิดความเสี่ยงอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และหยุดทำไปแล้วก็กลับมาทำอยู่ดี นั่นเท่ากับว่าเงินที่ลงทุนไปไม่คุ้มค่าเลย ดังนั้น อันดับแรกเราต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกตกี่ยวกับกระบวนการในการทำให้ผิวขาว สวย และแข็งแรงเสียก่อน โดยต้องเริ่มจากการทำให้ผิวแข็งแรงจากข้างใน ด้วยการดูแลตัวเองง่ายๆ ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานผักผลไม้ ออกกำลังกายให้เลือดไหลเวียน ทานวิตามินหรืออาหารเสริมที่มีประโยชน์ต่อผิว หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวดำและหมองคล้ำ เช่น แสงแดด แอลกอฮอล์ บุหรี่ ความเครียด เป็นต้น
หากต้องการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้าช่วย ควรศึกษาหลักการทำงานและข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี และทำทุกอย่างให้พอดี เมื่อทำหลายวิธีร่วมกันแล้ว หลังจากนั้นก็ต้องดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้ความขาวนั้นอยู่กับเราไปนานๆ
(Some images used under license from Shutterstock.com.)