
© 2017 Copyright - Haijai.com
ห้ามด่าและตบตีพ่อแม่
คนโบราณท่านห้ามบุตรธิดาด่าว่าและตบตีบิดามารดา
โบราณกล่าวไว้ว่า บุคคลใดอกตัญญูต่อพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นทางวาจาหรือด้วยการกระทำ จะทำให้ผู้นั้นมีบาปติดตัวอันใหญ่หลวง
ผู้ใดที่ด่าพ่อแม่เมื่อตายไปจะกลายเป็นเปรต จะมีปากเท่ากับรูเข็ม และทุกข์ทรมานอยู่อย่างนั้น เป็นเวลายาวนาน หรือผู้ใดทำให้พ่อแม่เสียใจ หรือบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย เมื่อตายไป จะกลายเป็นเปรตเช่นเดียวกัน และจะมีแขนและขาใหญ่โตเท่าใบตาล ต้องทนทรมานอยู่ในอบายภูมินานเท่านาน
ความมุ่งหมายที่แท้จริง (ห้ามด่าและตบตีพ่อแม่)
เรื่องนี้ที่โบราณท่านห้ามไว้อย่างนั้น ก็เพื่อให้ทุกคนเกิดความเกรงกลัวต่อบาป ผู้ใดด่าและตบตีพ่อแม่ถือว่าเป็นคนชั่วช้าหาที่เปรียบมิได้ ลูกที่กล้าอกตัญญูต่อพ่อแม่ ย่อมจะไม่มีคุณความดีอะไรหลงเหลืออยู่อีก สังคมไหนๆ ก็ไม่ยอมรับ
เป็นลูกควรปฏิบัติต่อบิดามารดาต่อไปนี้
๑.ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
๒.ช่วยเหลือในกิจการงานต่างๆ ของท่าน
๓.ดำรงวงศ์สกุล
๔.ประพฤติตนให้เป็นคนเหมาะควรแก่การไว้เนื้อเชื่อใจของพ่แม่ ที่จะรับทรัพย์มรดกสืบต่อวงศ์สกุลให้ได้
๕.เมื่อบิดามารดาทำกาลกิริยาจากไป (ตาย) ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้
ในหน้าที่ ๕ ประการนี้ พระเทพดิลก (ระแบบ ฐิตญาโณ ป.ธ.๙)
๑.ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ ให้ความสุขกายสบายใจแก่ท่าน แม้เป็นลูกยังเล็กอยู่ในวัยเป็นนักเรียนนักศึกษาอยู่ ก็สามารถเลี้ยงดูน้ำใจของท่าน อย่าให้ท่านทุกข์ใจ เสียใจ กลุ้มใจ เพราะการกระทำของเรา
๒.ช่วยเหลือในกิจการงานต่างๆ ของท่าน โดยการปฏิบัติการทำงานตามที่ท่านใช้ให้ทำ การแบ่งเบาภารกิจของท่านด้วยการรับงานอันเป็นภาระหนักของท่านไปทำ เป็นต้น
๓.ดำรงวงศ์สกุล สกุลนั้นมีบุคคลเกี่ยวข้องอยู่เป็นอันมาก บุตรธิดาแห่งสกุลใด เมื่อเกิดมาร่วมวงศ์สกุลกับบุคคลอื่น จะต้องมีความสำนึกรับผิดชอบต่อสกุลวงศ์ ให้ตั้งใจไว้ว่าถ้าตระกูลจะเสื่อมทรามหรือตกต่ำลงไป ก็ต้องไม่ใช่เกิดจากการกระทำของตน ฉะนั้นบุตรธิดาที่พึงปรารถนาก็คือ บุตรธิดาที่ดำรงวงศ์สกุลกับบุตรธิดาที่เชิดชูวงศ์สกุลทำสกุลให้สูงขึ้น ดำรงวงศ์สกุล ก็คือ การรักษาสิ่งที่ดีงามต่างๆ ของสกุลเอาไว้ ไม่ให้เสื่อมในยุคในสมัยของตน
๔.ประพฤติตนให้เป็นคนเหมาะควรแก่การไว้เนื้อเชื่อใจของพ่แม่ ที่จะรับทรัพย์มรดกต่อวงศ์สกุลให้ได้ ให้พ่อแม่มีความมั่นใจว่า แม้ท่านจะตายไปแล้ว ฐานะทางสกุลก็คงไม่ตกต่ำ ลูกสามารถรักษาไว้ได้
๕.เมื่อบิดามารดาทำกาลกิริยาจากไป ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้ เป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีท่านผู้เป็นมารดาบิดา ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าเป็นการแสดงออกซึ่งญาติธรรม เป็นการบูชาต่อความดีของมารดาบิดา เป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เป็นการสะสมบุญให้เพิ่มพูนขึ้นมาอีกเป็นอันมาก แต่ละคนนั้นมีพ่อแม่ ฉะนั้น หน้าที่เหล่านี้จึงเป็นหน้าที่โดยกำเนิดของทุกชีวิตที่เกิดมาในโลกนี้ ถ้าไม่ประพฤติปฏิบัติก็ได้ชื่อว่า คนอกตัญญูต่อบุพการี
(Some images used under license from Shutterstock.com.)