
© 2017 Copyright - Haijai.com
เมล็ดแฟลกซ์ Flaxseed
เมล็ดแฟลกซ์หรือเมล็ดลินิน (Flaxseed) อุดมด้วยกรดอัลฟา-ไลโนเลนิค ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมกา-3 ลิกแนนและใยอาหาร จึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพระบบหลอดเลือดหัวใจ ช่วยแก้ท้องผูก เมล็ดลินินและผลิตภัณฑ์จากเมล็ดลินินถือว่าค่อนข้างปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่สุขภาพดี อย่างไรก็ตามไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหารได้ สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรไม่ควรรับประทาน ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเมล็ดแฟลกซ์หรือผลิตภัณฑ์จากเมล็ดแฟลกซ์ทุกครั้ง
เมล็ดแฟลกซ์เป็นเมล็ดของต้นลินิน ซึ่งเป็นพืชที่ให้น้ำมันและเส้นใยสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอที่สำคัญชนิดหนึ่งของโลก ปัจจุบันเมล็ดลินินมีจำหน่ายในรูปเมล็ดสารสกัดลิกแนนจากเมล็ดลินิน เราสามารถใช้เมล็ดลินินเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารชนิดต่างๆ เช่น ใช้เป็นส่วนผสมของขนมปัง มัฟฟิน เครื่องดื่ม เป็นต้น ส่วนน้ำมันเมล็ดลินินที่ได้จากการหีบเย็นนั้น ไม่ควรนำไปใช้ปรุงอาหาร แต่จะนำมาบริโภคในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
องค์ประกอบทางโภชนาการของเมล็ดลินิน
เมล็ดลินิน ¼ ถ้วย (57 กรัม) ให้พลังงาน 276 กิโลแคลอรี มีสารอาหารต่างๆ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต 19 กรัม ใยอาหาร 16 กรัม โดยใยอาหารในเมล็ดลินินประกอบด้วย ใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ (เซลลูโลสและลิกนิน) กับใยอาหารที่ละลายน้ำ (สารเมือก) โปรตีน 11 กรัม และไขมัน 19 กรัม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน โดยมีปริมาณสูงถึงร้อยละ 73 กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่พบมาก ได้แก่ กรดอัลฟา-ไลโนเลนิค ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมกา-3 วิตามินและแร่ธาตุที่พบในเมล็ดลินิน ได้แก่ วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 โฟเลต แมกนีเซียม โปแตสเซียม แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น
นอกจากนี้ เมล็ดลินินยังเป็นแหล่งของลิกแนน ซึ่งเป็นสารประกอบโพลีฟีนอลที่มีฤทธิ์เป็นเอสโตรเจนจากพืช โดยเมื่อเทียบกับพืชชนิดอื่นๆ แล้ว เมล็ดลินินให้ลิกแนนในปริมาณที่สูงมาก เมื่อเทียบจากปริมาณ 100 กรัม เมล็ดลินินให้ลิกแนนสูงถึง 335,002 ไมโครกรัม ในขณะที่เมล็ดงาให้ลิกแนน 132,275 ไมโครกรัม และข้างกล้อง 14 ไมโครกรัม
ผลของเมล็ดลินินต่อสุขภาพ
เนื่องจากเมล็ดลินินอุดมด้วยกรดอัลฟา-ไลโนเลนิค ลิกแนน และใยอาหาร จึงมีผลดีต่อสุขภาพในระบบต่างๆ ดังนี้
• ระบบหลอดเลือดหัวใจ กรดอัลฟา-ไลโนเลนิค ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมกา-3 เป็นกรดไขมันที่ดีต่อระบบหลอดเลือดหัวใจ ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด การเกาะตัวของเกล็ดเลือด และความดันฯ ในขณะที่เพิ่มไขมันตัวดี (HDL) นอกจากนี้ลิกแนนก็เป็นสารอีกชนิดหนึ่งที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของระบบหลอดเลือดหัวใจ โดยพบว่ายิ่งระดับเอนเทอโรแลกโทน (สารที่เกิดจากการย่อยสลายลิกแนนในร่างกาย) ในเลือดยิ่งสูงเท่าไหร่ ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจหลอดเลือดก็จะยิ่งลดลง การวิเคราะห์การศึกษาผลของการรับประทานเมล็ดลินินจำนวน 28 งาน พบว่า เมล็ดลินินและสารสกัดลิกแนนจากเมล็ดลินิน สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมและไขมันตัวเลว (LDL) ในเลือด โดยไม่มีผลต่อระดับไขมันตัวดี ส่วนน้ำมันเมล็ดลินินไม่แสดงให้เห็นถึงผลดีดังกล่าว นอกจากนี้เพศหญิงเห็นผลการลดคอเลสเตอรอลโดยรวมและไขมันตัวเลว ชัดเจนกว่าเพศชาย
• ระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากเมล็ดลินินอุดมไปด้วยใยอาหาร จึงสามารถแก้ท้องผูกได้
• ระบบภูมิคุ้มกัน มีการศึกษาพบว่าการรับประทานเมล็ดลินินช่วยทำให้ไตของผู้ป่วยโรคพุ่มพวงหรือโรคเอสแอลอี (เกิดจากภูมิคุ้มของตนเองต่อต้านอวัยวะในร่างกาย) ทำงานดีขึ้น
ความปลอดภัย
เมล็ดลินินและผลิตภัณฑ์จากเมล็ดลินินถือว่า ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่สุขภาพดี ถึงกระนั้นการรับประทานเมล็ดลินินในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้ เป็นต้น ข้อควรรู้อีกประการคือเมล็ดลินินดิบ หรือยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปที่เหมาะสมจะมีไซยาไนด์ (สารพิษชนิดเดียวกับที่พบในมันสำปะหลังดิบ) จึงห้ามรับประทานเมล็ดลินินดิบหรือยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปเด็ดขาด
อนึ่ง ลิกแนนในเมล็ดลินินมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงส่งผลต่อร่างกายของทารกในครรภ์ได้ ดังการศึกษาหนึ่งที่ได้ให้หนูที่มีท้องกินอาหารผสมเมล็ดลินิน แล้วพบว่าลูกหนูที่เกิดจากแม่หนูที่ได้รับอาหารผสมลินิน จะมีระยะห่างระหว่างทวารหนักและอวัยวะสืบพันธุ์สั้นกว่า เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เร็วขึ้น และมีน้ำหนักตัวตอนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ต่ำลง เมื่อเปรียบเทียบกับหนูที่ได้รับอาหารที่ไม่ผสมเมล็ดลินิน ส่วนลูกหนูตัวผู้ก็มีเซลล์ต่อมลูกหมากที่ผิดปกติ นอกจากนี้ลิกแนนยังสามารถเข้าไปอยู่ในน้ำนมของแม่หนูได้อีกด้วย ดังนั้น ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ห้ามรับประทานเมล็ดลินินหรือผลิตภัณฑ์จากเมล็ดลินิน
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาบางงานแสดงให้เห็นว่า เมล็ดลินินสามารถลดน้ำตาลในเลือดได้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันเลือดสูง ซึ่งรับประทานยาอยู่ จึงควรระมัดระวังเวลารับประทานเมล็ดลินินเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อีกทั้งเมล็ดลินินมีกรดไขมันโอเมกา-3 ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ผู้ที่มีปัญหาเลือดไหลออกง่ายหรือรับประทานยาต้านการทำงานของเกล็ดเลือด ยาละลายลิ่มเลือดจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเมล็ดลินิน หรือปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเมล็ดลินินทุกครั้ง
ปฏิกิริยาระหว่างยา
เนื่องจากลิกแนนจะต้องถูกย่อยสลายให้ได้สารออกฤทธิ์ด้วยแบคทีเรียในลำไส้ ดังนั้นยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อ จึงอาจจะลดประสิทธิภาพของเมล็ดลินิน สิ่งที่ควรคำนึงอีกประการหนึ่งคือลิกแนนมีฤทธิ์เป็นเอสโตรเจนจากพืช เมื่อรับประทานลิกแนนคู่กับยาที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจน ลิกแนนจะไปแย่งจับกับตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้การออกฤทธิ์ของยาไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ
เมล็ดลินินมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดและความดันเลือดได้ จึงสามารถเสริมฤทธิ์ยาเบาหวานและยาลดความดัน นอกจากนี้เมล็ดลินินอาจทำให้เลอืดแข็งตัวช้า จึงสามารถเสริมฤทธิ์ยาลดการแข็งตัวของเลือด เช่น วาร์ฟาริน แอสไพริน คลอพิโดเกรล เป็นต้น ผู้ป่วยที่ใช้ยาดังกล่าว จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเมล็ดลินิน หรือในกรณีที่ต้องการรับประทาน ควรปรึกษาแพทย์และเฝ้าติดตามอาการอย่างระมัดระวัง
(Some images used under license from Shutterstock.com.)