
© 2017 Copyright - Haijai.com
เมื่อเป็นมะเร็งระหว่างตั้งครรภ์
ช่วงระหว่างการตั้งครรภ์แม่หลายท่านคงปฏิเสธไม่ได้ว่า มีความกังวลต่อเรื่องต่างๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเรื่องลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ หรือโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะกับโรคร้ายอย่าง “มะเร็ง” แม้ว่าเปอร์เซ็นต์การพบจะมีน้อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเสี่ยงเลย โดยพบว่าผู้หญิงตั้งครรภ์หนึ่งหมื่นคน เป็นมะเร็งเพียง 0.2-1% ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของมะเร็ง นับเป็นตัวเลขที่ไม่มาก แต่หากเป็นได้ ควรหาวิธีป้องกันก่อนที่จะสายเกินไปดีกว่า
มะเร็งยอดฮิตของผู้หญิงตั้งครรภ์
1.มะเร็งเต้านม ช่วงที่ไม่ตั้งครรภ์อาจจะคลำได้ง่าย เมื่อตั้งครรภ์เต้านมจะขยายใหญ่ขึ้น ทำให้กว่าจะคลำเจอ ก้อนก้มีขนาดใหญ่แล้ว หากพบเมื่อก้อนใหญ่ อาจมีการกระจายไปที่บริเวณอื่นได้ง่าย หรือเป็นระยะที่เยอะแล้ว หากมีอาการเต้านมมีรอยบุ๋ม หรือเป็นรอยลักยิ้มเข้าไป หรือมีน้ำเหลืองหรือเลือดออกทางหัวนม ควรรีบพบแพทย์
2.มะเร็งปากมดลูก แน่นอนว่าถ้าตรวจก่อนจะรู้ก่อนเป็นโรคแน่นอน แต่หลายคนละเลยไม่มาตรวจ ซึ่งมาเจออีกทีตอนตั้งครรภ์ อาจจะมีเลือดออก มีตกขาว ตรวจพบว่ามีรอยโรคผิดปกติ
3.มะเร็งชนิดอื่นๆ เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งผิวหนังบางชนิด
มะเร็งส่วนใหญ่มักจะเจอในผู้ที่อายุมาก แต่ปัจจุบันผู้หญิงเริ่มมีบุตรกันเมื่ออายุมากขึ้น และผู้ป่วยก็แนวโน้มอายุน้อยลง โอกาสที่จะเกิดมะเร็งในขณะตั้งครรภ์ก็มากขึ้นด้วย
เมื่อเป็นมะเร็งระหว่างตั้งครรภ์
จริงๆ แล้ว ตัวมะเร็งเองไม่ได้มีผลกับการตั้งครรภ์ และการตั้งครรภ์ก็ไม่ได้มีผลกับมะเร็งมากนัก ยกเว้นบางครั้งในมะเร็งปากมดลูกที่เป็นระยะเยอะแล้ว การคลอดอาจจะทำให้เกิดการฉีกขาดบริเวณปากมดลูก ทำให้อาจมีการเปลี่ยนแนวการคลอด หรือปัญหาในการตรวจวินิจฉัยบางอย่าง เช่น การตัดชิ้นเนื้อ ตรวจที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจจะทำให้มีเลือดออกมาก ซึ่งบางรายจะทำการรักษาก็ต้องดูอายุครรภ์ด้วย เพราะบางโรคอย่าง มะเร็งปากมดลูกบางระยะอาจจะรักษาด้วยการผ่าตัดได้หากพบระยะแรก ก็อาจจะรักษาได้ช่วงที่อายุครรภ์น้อยๆ แต่หากเจอเมื่ออายุครรภ์เยอะแล้ว ก็อาจจะต้องรอให้คลอดก่อน แล้วจึงมาทำการรักษา
ส่วนของมะเร็งเต้านมนั้น การผ่าตัดไม่ได้เกี่ยวข้องของการตั้งครรภ์ต่อหรือไม่ตั้งครรภ์ต่อ แต่ข้อเสียคือ ปัญหาในการต้องให้การรักษาเพิ่มเติม เช่น เคมีบำบัด รังสีรักษา อาจจะมีผลต่อเด็กในครรภ์ หรือมะเร็งปากมดลูกในระยะที่เป็นเยอะแล้ว ที่ต้องทำการฉายแสงมีโอกาสทำให้แท้งได้
ผลของมะเร็งกับลูกในครรภ์
เนื่องจากเชื้อมะเร็งเองไม่ได้ผ่านรก ไม่ได้มีผลต่อเด็กในครรภ์โดยตรง แต่จะมีผลกับ....
1.สุขภาพของตัวคุณแม่เอง
2.ผลจากการรักษา เช่น การใช้ยาเคมีบำบัด ที่ต้องดูเป็นระยะว่าควรจะให้การรักษาด้วยวิธีใด หรืออาจทำการเลื่อนการรักษาไปหลังคลอดก็ได้ ในบางกรณี
หลายครั้งที่มีผู้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งปากมดลูก ที่เป็นในระยะที่มากแล้ว ทำให้แพทย์จำเป็นต้องรีบทำการรักษา แม้จะตั้งครรภ์ได้ 1-2 เดือนก็ตาม
นอกจากนี้เคมีบำบัดก็เป็นอีกสิ่งที่เป็นอันตราย เนื่องจากมีผลทำให้เกิดการหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์บางชนิด การตั้งครรภ์จึงไม่ควรทำเคมีบำบัด เพราะเคมีบำบัดจะมีผลต่อเซลล์ที่เติบโตเร็วๆ ซึ่งทารกก็จะเป็นเซลล์ที่มีการเจริญเติบโตเร็วเช่นกัน
2 สิ่งที่คุณแม่ต้องทำขณะเป็นมะเร็งระหว่างตั้งครรภ์
1.ติดตามผลตรวจากแพทย์สม่ำเสมอ ว่าโรคมีการเจริญไปถึงไหน และมีผลข้งเคียงแค่ไหนอย่างไรบ้าง
2.การดูแลสุขภาพทั่วไป ทานอาหารที่มีประโยชน์ได้สารอาหารอย่างครบถ้วน พักผ่อนให้เพียงพอ
ตรวจก่อนรู้ก่อน
จริงๆ แล้วการเป็นมะเร็งระหว่างการตั้งครรภ์สามารถป้องกันได้ โดยการประเมินความเสี่ยงการตรวจสุขภาพก่อนจะเตรียมการตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม ซึ่งไม่ใช่เฉพาะพร้อมสำหรับโรคมะเร็งเท่านั้น แต่เป็นการป้องกันปัจจัยอื่นด้วย เช่น การทำงาน ผู้ที่สนามบินต้องเดินผ่านเครื่องเอ็กซเรย์บ่อยๆ หรือทำงานกับสารเคมีบ่อยๆ ซึ่งก็ควรจะหลีกเลี่ยง เป็นต้น
พล.ร.ต.โซ่สกุล บุญยะวิโรจ
สูตินรีแพทย์, มะเร็งนรีเวช, ผ่าตัดผ่านกล้อง
โรงพยาบาลพญาไท 1
(Some images used under license from Shutterstock.com.)