
© 2017 Copyright - Haijai.com
ไดเอท (Diet) สูตรไหนดี?
สงครามต่อสู้กับความอ้วน นอกจากจะไม่น้อยลงแล้ว นับวันจะมากขึ้น ผู้หญิงทุกวันนี้ เฉลี่ยน้ำหนักตัว รอบเอว รอบสะโพกใหญ่ขึ้นกว่าเมื่อ 20 ปีก่อน และมีแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีผู้คิดค้นตำรับตำราไดเอทใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ก็เพราะสูตรไดเอทเดิมไม่เห็นผลนั่นเอง ลองมาดูกันซิว่าตำราไดเอทสูตรไหน มีผลดีผลเสียอย่างไรกันบ้าง จะได้เลือกลองให้ถูก
Sugar-Free Diet สูตรไดเอทที่ปลอดน้ำตาล (ซึ่งน่าจะดีที่สุด)
อาหารในปัจจุบันนี้มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมค่อนข้างสูง คนยุคนี้ทานน้ำตาลมากกว่าเมื่อ 50 ปีก่อน อย่างน้อย 10 เท่า ทั้งขนมหวานที่มีให้เลือกทานตลอด 24 ชั่วโมง เครื่องดื่มน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชานมไข่มุก กาแฟเย็น และอาหารคาวที่หวานขึ้นทุกวัน ทำให้คนยุคนี้น้ำหนักขึ้นเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและมะเร็งเพิ่มมากขึ้น เพราะนอกจากน้ำตาลจะให้แคลอรีส่วนเกินแล้ว น้ำตาลยังลดความเป็นด่างในเลือดเพิ่มความเป็นกรด ก็เพิ่มการอักเสบในหลอดเลือด และในทุกอวัยวะ ทำให้เกิดโรคหลากหลาย รวมทั้งแก่เร็วขึ้น หากรับประทานอาหารไร้น้ำตาล งดขนมหวาน และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลได้ รับรองผอมสวย รูปร่างดี และสุขภาพแข็งแรง ที่สำคัญอยากดื่มเครื่องดื่มหรือทานอาหารที่ไร้น้ำตาล แต่ใช้น้ำตาลเทียมแทน เพราะน้ำตาลเทียมเป็นสารเคมีสังเคราะห์ แม้ไม่ให้แคลอรี ไม่ทำให้คุณอ้วนขึ้น แต่ก็มีผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าผลดี น้ำตาลเทียมบางชนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งได้ด้วย คุณจึงควรหลีกเลี่ยง
Vegan Diet การปฏิเสธเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด
ทั้งนม เนย ชีส ไข่ น้ำผึ้ง และเจลลาตินที่ทำจากสัตว์ วิธีนี้ทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้เร็ว และยิ่ง เป็น Raw Vegan Diet ยิ่งผอมเร็วยิ่งขึ้น เพราะจะทานแต่อาหารสดหรือดิบ ไม่ทานอาหารแปลงสภาพ คือ ทานผัก ทานผลไม้สด ทานส้มตำไม่ใส่ปู ไม่ใส่กุ้ง ทานสลัดผัก ทานถั่ว แต่จะไม่ทานขนมปัง หรือเส้นก๋วยเตี๋ยวที่แปลงสภาพจนไม่รู้แล้วว่าทำมาจากอะไร ข้อดีคือ น้ำหนักลดลงง่ายและเร็ว แต่ข้อด้อยก็คือ ทำได้ยาก ต้องมีกำลังใจและความมุ่งมั่นสูง และการกินแต่พืชผัก แม้จะได้วิตามิน และเกลือแร่หลากหลาย แต่ก็ขาดกรดอะมิโนหรือโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะมนุษย์เราเป็นสัตว์กินพืชและกินสัตว์ ร่างกายเราต้องการสารอาหารที่สำคัญจำเป็นทั้งจากพืชและจากสัตว์ การไม่กินเนื้อสัตว์เลย มักมีผลให้ขาดธาตุเหล็ก ซีด ร่างกายขาดออกซิเจน รู้สึกอ่อนเพลีย และร่างกายอ่อนแอลง ติดเชื้อและเจ็บป่วยบ่อย ทั้งยังเสี่ยงต่อการที่จะขาดไอโอดีนจากอาหารทะเล ขาดธาตุเหล็ก สังกะสีและซีลิเนียม นอกจากนี้การขาดโปรตีนและไขมันจากสัตว์ ทำให้ขาดฮอร์โมนเพศทั้งหญิงและชาย และขาด Growth Hormone ที่จำเป็นต่อการชะลอความเสื่อมความชรา
Atkin’s Diet สูตรดั้งเดิม โดย นพ.แอทคิน
โด่งดังเมื่อ 10 ปีก่อน เป็นสูตร Low-Carb คือไม่ทานคาร์โบไฮเดรต ทั้งแป้ง น้ำตาล รวมทั้ง ผัก และผลไม้ ซึ่งก็ให้น้ำตาลเหมือนกัน เช่น อาหารเข้าอนุญาตให้ทานเบคอน ไข่ดาว ไส้กรอกได้ แต่ห้ามทานขนมปัง ข้าวหรือแม้แต่น้ำส้ม หรือมะละกอ การไม่กินน้ำตาลและแป้งเลย แต่ทานเนื้อสัตว์ และไขมันสัตว์ได้ ทำให้ร่างกายเป็นกรดมากขึ้น ลด pH ในเลือด เกิดภาวะที่เรียกว่า ‘Keto-Acidosis’ ทำให้ปฏิกิริยาในร่างกายผิดปกติ เมตาบอลิซึมแปรปรวน เพราะตามธรรมชาติร่างกายเราจะใช้พลังงานอันดับแรกจากคาร์โบไฮเดรต ใช้แป้งและน้ำตาลเป็นพลังงานอันดับแรก แต่พอไม่กินแป้งและน้ำตาลเลย ร่างกายก็จะไปดึงเอาพลังงานจากไขมันที่สะสมไว้ และจากกล้ามเนื้อ แม้วิธีนี้จะช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงแรก แต่เป็นวิธีที่ไม่ธรรมชาติ เมื่อร่างกายเป็นกรดมากขึ้น ทุกอวัยวะ และทุกระบบจะทำงานผิดปกติ ภูมิต้านทานลดลง เสี่ยงต่อการติดเชื้อและเสี่ยงต่อโณคหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้น และการไม่กินผักสดและผลไม้ หรือกินน้อยมาก ทำให้คุณขาดวิตามิน แร่ธาตุสารอาหารที่จำเป็น ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ (หมายเหตุ คุณหมอแอทคินเสียชีวิตแล้วด้วย ภาวะเส้นเลือดแตกในสมอง)
Gluten-Free Diet กลูเตนคือโปรตีนที่พบได้ตามธรรมชาติในข้าวสาลี หรือ วีต (Wheat), ข้าวไรย์ (Rye) และข้าวบาร์เลย์ (Barley)
เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการแพ้ หรือ ภูมิต้านทานไว หรือมีปัญหาลำไส้ทำงานผิดปกติ อาหารไม่ย่อย ท้องผูกสลับท้องเสีย ฯลฯ เลยมีการผลิตแป้งข้าวสาลีที่ดึงเอากลูเตนออกไป แล้วนำมาทำเป็นขนมปัง ขนมเค้ก ปลอดกลูเตน ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่แพ้กูเตน แต่ถ้าคุณไม่มีปัญหานี้ ไดเอทตำรับนี้ก็คงไม่ช่วยในการควบคุมหรือลดน้ำหนักแต่อย่างใด
ลองเลือกสักไดเอท ที่ปลอดภัยได้ผล คุณก็จะสามารถมีสุขภาพดีและมีรูปร่างที่สวยงาม
แพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน
(Some images used under license from Shutterstock.com.)