Haijai.com


ทำไบโอรีเซ็ตฉีดสเต็มเซลล์เพื่อชะลอวัย


 
เปิดอ่าน 4474

ทำไบโอรีเซ็ตฉีดสเต็มเซลล์เพื่อชะลอวัย

 

 

ท่ามกลางกระแสรักสุขภาพที่กำลังมาแรง ผู้คนหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ทำให้สถาบันสุขภาพและความงามต่างๆ มีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนค่าบริการก็มีหลากหลายระดับ แพงบ้าง ถูกบ้าง ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจที่ทางสถานบันกำหนดขึ้นมา หรือโปรแกรมที่ลูกค้าเลือกด้วยตัวเอง แต่ไม่ว่าจะถูกหรือแพง ถ้าเพื่อสุขภาพแล้ว ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะอาจส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวได้

 

 

ครั้งนี้เราได้รับเกียรติจาก “ศจ.ดร.ไมเคิล เคลินทซ์” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการชะลอวัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมแพทย์ของธัญญปุระ เฮลท์ จะมาพูดคุยเกี่ยวกับโปรแกรมเพื่อสุขภาพและความงามแบบครบวงจร ที่ใช้การรักษาทางการแพทย์ที่ทันสมัยผสมผสานกับเวชศาสตร์ชะลอวัย โดยใช้สเต็มเซลล์ พร้อมฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ด้วยการดีท็อกซ์ บำบัดความเครียด และออกแบบโปรแกรมออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับการปรับปรุงด้านโภชนาการ เพื่อคืนความเยาว์วัยให้กับร่างกายอีกด้วย

 

 

ในการดูแลตัวเองทั้งสุขภาพภายในและภายนอก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดร.เคลนทซ์ แนะนำว่าควรเลือกใช้วิธีที่เหมาะกับสภาพร่างกายของตัวเอง ซึ่งปัจจุบันโปรแกรมเพื่อสุขภาพและความงามนั้นมีหลายวิธี ในที่นี้ขอยกตัวอย่างวิธีการกระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิดด้วยการทำไบโอรีเซ็ต (Bioreset Stem Cell Activation) ซึ่งเป็นการใช้สเต็มเซลล์มารักษาโรค และเสริมความงามนั่นเอง

 

 

“การกระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิดด้วยการทำไบโอรีเซ็ต เป็นการพัฒนาพิเศษมาจากการทำสเต็มเซลล์ทั่วไป โดยการเอาสเต็มเซลล์ของตัวเราเองออกมาทำเทคนิคบางอย่าง ซึ่งเป็สูตรลับเฉพาะ แล้วนำกลับเข้าไปในร่างกายอีกครั้ง โดยผ่านกระบวนการนี้ ซึ่งจะช่วยบอกได้ว่าสเต็มเซลล์เหล่านี้ จะไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอตรงส่วนไหนของร่างกายเราบ้าง  เช่น หากเราต้องการนำสเต็มเซลล์ไปซ่อมแซมที่หัวใจ เราก็สามารถใช้กระบวนการนี้ โดยนำสเต็มเซลล์ที่เอาออกมาแล้วฉีดเข้าไปที่กระดูกสันหลัง หรือขา เพื่อนำไปสู่หัวใจ เป็นต้น

 

 

ในการฉีดสเต็มเซลล์ทั่วไป ส่วนใหญ่มักมีปัญหา คือ สเต็มเซลล์เข้าไปในร่างกาย โดยไม่รู้ทิศทาง ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพที่ได้รับน้อยลง หนำซ้ำหากมีสเต็มเซลล์อยู่ในร่างกายเยอะๆ โดยที่ไม่ได้ทำปฏิกิริยาใดๆ กับร่างกายเลย เมื่ออายุเยอะขึ้น อาจทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นต่างๆ เพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ดีมนุษย์ทุกคนจะมีสเต็มเซลล์อยู่แล้วในร่างกาย แต่ถ้าไม่มีการกระตุ้นใดๆ หรือบอกทิศทางว่าควรไปซ่อมแซมในส่วนไหนบ้าง สเต็มเซลล์ที่มีอยู่ก็ไร้ประโยชน์ ฉะนั้นการทำไบโอรีเซ็ตจึงถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้สเต็มเซลล์ที่ฉีดเข้าไปมีประสิทธิภาพมากจขึ้น”

 

 

ปัจจุบันการฉีดสเต็มเซลล์ด้วยวิธีนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งในเอเชีย และยุโรปเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยรักษาโรค ยังช่วยชะลอวัยอย่างได้ผลอีกด้วย

 

 

“ประโยชน์ของสเต็มเซลล์ นอกจากจะช่วยรักษาโรค ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่างๆ ในร่างกาย ยังช่วยในเรื่องความสวยความงามอีกด้วย เพราะสเต็มเซลล์สามารถชะลอความแก่ ช่วยต่อต้านริ้วรอยเหี่ยวย่น ฟื้นฟูบำรุงผิวพรรณ รักษาแผลเป็น จุดด่างดำ และรอยไหม้จากแสงแดดได้ โดยมีการรักษาร่วมกับวิธีอื่นๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เช่น การใช้เลเซอร์ โบท็อกซ์ ทรีทเม้นต์ หรือใช้ครีมบำรุงที่ทำมาจากสเต็มเซลล์ เป็นต้น

 

 

สำหรับขั้นตอนการฉีดสเต็มเซลล์เพื่อชะลอวัย เริ่มต้นโดยการฉีดครั้งที่ 1 แล้วดูผลลัพธ์หลังจากที่ทำว่ามีปฏิกิริยาใดๆ เกิดขึ้นบ้าง มีอาการแพ้หรือไม่ ก่อนจะกลับมาฉีดอีกครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 เรียกว่าใช้ระยะเวลาไม่นาน สามารถเห็นผลแค่ 3 ครั้งที่ทำ สำหรับการผลิตสเต็มเซลล์ผ่านกระบวนการไบโอรีเซ็ต ต้องใช้เลือดเฉพาะบุคคลเท่านั้น ไม่สามารถใช้เลือดของคนอื่นได้ เพราะทุกอย่างต้องมาจากร่างกายของเราคนเดียว ส่วนการทำสเต็มเซลล์เป็นครีมบำรุง เมื่อผู้ใช้บริการมาทำครั้งแรก ก็สามารถนำครีมตัวนั้นกลับไปใช้เองที่บ้างได้เลย โดยมีหลักเกณฑ์เดียวกันกับการฉีดสเต็มเซลล์เข้าสู่ร่างกาย คือ ใช้ได้เฉพาะตัวเอง เท่านั้น คนอื่นๆ แม้กระทั่งญาติพี่น้องก็ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ ฉะนั้นจึงไม่มีการวางจำหน่ายสเต็มเซลล์ตามสถาบัน คลินิก หรือในโรงพยาบาลทั่วไป แต่ต้องไปใช้บริการที่แล็ปเท่านั้น

 

 

ปัจจุบันการใช้บริการฉีดสเต็มเซลล์ ได้รับความนิยมทั้งกลุ่มคนทั่วไป และพวกนักกีฬา เพราะกลุ่มคนประเภทหลังมักมีอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาค่อนข้างมาก หรือในกลุ่มคนที่เป็นโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ซึ่งมักจะมีแผลได้ง่าย สเต็มเซลล์ก็สามารถเข้าไปช่วยระงับไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นได้ รวมถึงโรคมะเร็ง ถึงแม้สเต็มเซลล์จะไม่สามารถรักษาได้โดยตรง แต่ก็สามารถเข้าไปสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยต้านทานไม่ให้เกิดการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้สเต็มเซลล์ยังสามารถฉีดได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นในกรณีที่ผู้ใช้บริการมีประวัติการแพ้ อาจต้องดูความเหมาะสมอีกที”

(Some images used under license from Shutterstock.com.)