
© 2017 Copyright - Haijai.com
ไหมขัดฟัน จำเป็นหรือฟุ่มเฟือย
หมอจิ้มจิ้มได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการจัดการทางการเงินเล่มหนึ่ง เนื้อหาภายในตอนหนึ่งแนะนำให้เราพิจารณาข้าวของต่างๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ โดยดูว่าเป็นสิ่งของจำเป็นหรือไม่ ถ้าไม่จำเป็นแสดงว่ามันเป็นของฟุ่มเฟื่อย พร้อมยกตัวอย่างประกอบ “แปรงสีฟันและยาสีฟันเป็นสิ่งจำเป็น แต่ไหมขัดฟันเป็นของฟุ่มเฟือย” ด้วยจรรยาบรรณของทันตแพทย์ หมอจุ้มจิ้มจึงรีบแจ้งให้พพี่โอ (นามสมมติ) ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ทราบทันที
หมอจุ้มจิ้ม : สวัสดีค่ะพี่โอ นี่หมอจุ้มจิ้มนะคะ เป็นแฟนหนังสือของพี่ค่ะ อ่านแล้วได้ประโยชน์มากเลย
พี่โอ : ขอบคุณมากค่ะ
หมอจุ้มจิ้ม : แต่จุ้มจิ้มมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบนิดหนึ่งค่ะ คือว่า ในหนังสือช่วงหนึ่งที่พี่เขียนว่าไหมขัดฟันเป็นของไม่จำเป็นนั้น ในฐานะหมอฟัน จุ้มจิ้มอยากจะขออนุญาตให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพี่ ในเรื่องนี้สักเล็กน้อยค่ะ พี่พอมีเวลาไหมคะ
พี่โอ : ได้เลยค่ะ ยินดีมากๆ ค่ะ
หมอจุ้มจิ้ม : เนื่องจากฟันแต่ละซี่ที่อยู่ในปากของเราจะมีด้านที่ติดกับฟันซี่ข้างเคียงอยู่สองด้าน ซึ่งบริเวณที่ติดกันนี้ล่ะค่ะ เป็นบริเวณที่การแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำความสะอาดตรงบริเวณนี้ได้ ไม่ว่าจะขนแปรงเรียวเล็กบางเฉียบแค่ไหนก็ตาม และจะเห็นได้ว่าเศษอาหารต่างๆ ก็มักจะไปติดบริเวณนี้จนบางคนก็ต้องใช้ไม้จิ้มฟัน เพื่อเขี่ยเศษอาหารออก ซึ่งในความเป็นจริงก็ออกได้แต่ชิ้นใหญ่ๆ เท่านั้น พวกเศษอาหารเล็กๆ คราบน้ำตาล ผ่นคราบจุลินทรีย์ต่างๆ จะยังอยู่ค่ะ แต่เรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ต้องใช้ไหมขัดฟันนี่ล่ะค่ะ จึงจะเข้าไปทำความสะอาดตรงบริเวณนี้ได้ แต่คนส่วนใหญ่มักจะไม่ทราบและไม่ได้ใช้ไหมขัดฟัน จึงมักจะพบว่าเวลามาหาหมอฟัน อาจจะมาด้วยรู้สึกมีกลิ่นปาก เพราะมีเศษอาหารหมักหมมเน่าอยู่บริเวณนี้ แปรงเท่าไหร่ก็ไม่หาย หรืออาจจะพบว่ามีฟันผุบริเวณซอกฟันทั้งๆ ที่ตัวเองก็รู้สึกว่าแปรงฟันเป็นประจำ ได้อย่างสะอาดดีแล้ว ยิ่งโดยเฉพาะพวกที่ฟันไม่เรียบและซ้อนเกเนี่ย เจอประจำเลย
พี่โอ : ตายล่ะ พี่ก็เป็นเหมือนกัน ฟันผุตรงระหว่างซี่ฟันทั้งๆ ที่พี่ก็ว่าแปรงฟันดีแล้วนะ แปรงทุกครั้งหลังอาหารเลย สงสัยเป็นเพราะไม่ได้ใช้ไหมขัดฟันนี่เอง
หมอจุ้มจิ้ม : ใช่ค่ะ แล้วจุ้มจิ้ม ก็เห็นที่พี่โอเขียนไว้ในหนังสือว่าการพบทันตแพทย์ เพื่อดูแลช่องปากเป็นประจำนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เราควรกันนเงินไว้ดูแลรักษาตรงนี้ แต่ถ้าเราใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดอย่างถูกวิธีเป็นประจำทุกวันแล้วละก็ ค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้ในการรักษาฟันก็จะลดลงอย่างมาก ประหยัดเงินในกระเป่าได้อีกเยอะเลยล่ะค่ะ
พี่โอ : ดีจังเลยค่ะ แต่พี่โอยังไม่เคยใช้ไหมขัดฟันเลยค่ะ มันมีแบบไหนบ้าง แล้วใช้ยากไหมคะ
หมอจุ้มจิ้ม : ไหมขัดฟัน (Dental Floss) เป็นเส้นใยสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้น เพื่อใช้ทำความสะอาดบริเวณซอกฟันหรือฟันที่ติดกัน จะมีลักษณะเป็นเส้น แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
• ไหมขัดฟันชนิดที่เคลือบขี้ผึ้ง (ข้างกล่องจะเขียนว่า Waxed)
• ไหมขัดฟันที่ไม่ได้เคลือบขี้ผึ้ง (ข้างกล่องจะเขียนว่า Unwaxed หรือ No waxed)
วิธีเลือกใช้สำหรับพี่โอที่ไม่เคยใช้มาก่อน แรกๆ อาจจะยังไม่คล่อง ขอแนะนำให้ใช้แบบมีขี้ผึ้งก่อนนะคะ เพราะการมีขี้ผึ้งเคลือบอยู่บนไหมขัดฟัน จะช่วยทำให้เส้นไหมขัดฟันเข้าไปในซอกเหงือก ซอกฟันได้ง่ายกว่า หรือเข้าไปได้ลื่นสะดวกกว่า ไม่ติดซอกฟัน พอใช้เก่งคล่องมือคลองปากแล้ว ค่อยพัฒนามาเป็นแบบไม่เคลือบขี้ผึ้ง ซึ่งไหมชชนิดนีน้จะมีความหยาบมากกว่า จึงสามารถกำจัดเศษอาหารและคราบหินปูนได้ดีกว่าชนิดเคลือบขี้ผึ้ง ซึ่งไหมชนิดนี้จะมีความหยาบมากกว่า จึงสามารถกำจัดเศษอาหารและคราบหินปูนได้ดีกว่าชนิดเคลือบขี้ผึ้ง
แต่สำหรับบางคนที่มีฟันที่ชิดติดกันแน่นมาก ให้ใช้ไหมขัดฟันแบบมีขี้ผึ้งเคลือบไปเลยค่ะ เนื่องจากเส้นไหมที่มีขี้ผึ้ง จะสามารถเข้าไปในระหว่างซี่ฟันได้ง่ายแม้ฟันจะติดกันแน่น เพราะถ้าใช้แบบไม่มีขี้ผึ้ง นอกจากไหมจะเข้ายากแล้ว ยังอาจจะขาดติดระหว่างใช้ได้ค่ะ
พี่โอ : โอเคค่ะ แสดงว่าพี่ต้องเลือกใช้แบบมีขี้ผึ้งนะคะ แล้วต้องมีลักษณะอย่างอื่นเพิ่มเติมไหมคะ
หมอจุ้มจิ้ม : ก็ไม่มีอะไรมากแล้วค่ะ ที่เหลือเป็นข้อมูลทั่วไป เช่น ไหมขัดฟันที่ดีควรมีลักษณะแบน เพราะเข้าไปในระหว่างซี่ฟันได้ง่าย และถนอมเหงือกมากกว่า ซึ่งไหมขัดฟันมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนค่ะ บางยี่ห้อเขาก็ใส่รสชาติลงไป เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกสบาย เช่น รสมิ้นต์ เป็นต้น หลังใช้ไหมขัดฟันจะรู้สึกเย็นซ่าสบายฟัน ใครชอบชนิดไหน เส้นใหญ่ เส้นเล็ก แล้วแต่ถนัด ความสำคัญอยู่ที่การใช้ให้ถูกวิธีมากกว่า ยังไงก็ค่อยๆ ลองใช้แต่ละยี่ห้อดูนะคะว่าชอบแบบไหน
ส่วนวิธีการใช้นั้น เวลาจะใช้ก็ดึงออกมาความยาวประมาณ 1 ฟุต หรือตามถนัด แล้วตัดกับอุปกรณ์ตัดที่มีติดอยู่ที่กล่อง วิธีใช้ไหมขัดฟันมี 2 วิธี ได้แก่
วิธีผูกไหมขัดฟันเป็นวง คือ การนำไหมขัดฟันออกมา จากนั้นให้เอาปลายไหมผูกเข้าด้วยกัน เราจะได้ไหมขัดฟันที่เป็นวงๆ เวลาใช้ก็เอามือซ้ายขวาช่วยกัน กดไหมขัดฟันผ่านซอกฟัน แล้วให้โอบไหมขัดฟันรอบตัวฟัน พร้อมๆ กับดึงถูไหมไปมา (เหมือนเวลาเราใช้ผ้าเช็ดตัวถูหลังน่ะค่ะ) โอบไปทางซี่ข้างหน้า ถูเสร็จแล้วก็โอบมาทางซี่ที่อยู่ด้านหลังแล้วก็ถู โดยเราสามารถเอาไหมขัดฟันลงไปใต้เหงือได้ประมาณ 1 มิลลิเมตร หรือมากกว่านั้น แล้วแต่สภาพเหงือกของแต่ละคน พอทำซี่หนึ่งเสร็จเราก็ขยับเปลี่ยนตำแหน่งไหมไปเรื่อยๆ รอบวงค่ะ อย่าไปใช้ซ้ำนะคะ เพราะบริเวณนั้นมันสกปรกไปแล้ว ทำไปเรื่อยๆ จนครบรอบวงค่ะ
วิธีใช้นิ้วพัน เมื่อตัดไหมขัดฟันมาแล้ว ให้พันปลายไหมไว้กับนิ้วชี้มือซ้ายและขวา แล้วนำไหมไปผ่านซอกของฟันเช่นเดียวกับวิธีที่ 1 ต่างกันแค่ไหมไม่ถูกผูกเป็นวง แล้วแต่ความถนัดค่ะ ซึ่งวิธีนี้พอใช้ที่หนึ่งเสร็จ ต้องพันนิ้วใหม่เอาบริเวณที่ยังไม่ได้ใช้มาทำความสะอาดไปเรื่อยๆ เหมือนเดิมค่ะ
เริ่มทำครั้งแรกอาจจะไม่ถนัด เก้ๆ กังๆ อยู่สักหน่อย แต่พอทำบ่อยๆ เข้าก็จะคล่องไปเองค่ะ
พี่โอ : ต้องทำตอนไหนบ้งคะ ทุกครั้งหลังอาหารเหมือนพี่แปรงฟันเลยรึเปล่า แล้วต้องทำก่อนหรือหลังแปรงฟันคะ
หมอจุ้มจิ้ม : แนะนำให้ทำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งก่อนนอนจะดีมากค่ะ ส่วนจะก่อนหรือหลังแปรงฟันก็แล้วแต่เลยค่ะ โดยส่วนตัวจุ้มจิ้มคิดว่าทำก่อนแปรงฟันน่าจะดีกว่า เพราะเราใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดบริเวณซอกฟันก่อน แล้วคราบต่างๆ มันเลอะออกมาข้างๆ ฟันกับไหม ก็ตามด้วยการแปรงฟันซ้ำอีกที รับรองว่าฟันสะอาดเอี่ยมอ่องไม่ผุง่าย ไม่ต้องเจ็บปวดจากฟันผุ แถมยังประหยัดไม่ต้องเสียค่ารักษาฟันผุอีกด้วย ตรงกับหลักบริหารการเงินในหนังสือเล่มนี้ของพี่โอเป๊ะเลยค่ะ
ทพญ.กิตติลักษณ์ จุลลัษเฐียร
ทันตแพทย์
(Some images used under license from Shutterstock.com.)