
© 2017 Copyright - Haijai.com
ทริคใหม่ของสาวอยากผอมในยุคนี้ สลายไขมันด้วยความเย็น Get RID of “FAT” with cool sculpting
ต้องยอมรับว่าสมัยนี้แทบจะตามเทรนด์ความสวยความงามกันไม่ทัน ทั้งวิธีลดน้ำหนัก อาหาร การออกกำลังกาย หรือแม้แต่เทคโนโลยีเพื่อความงามใหม่ๆ ทีมักจะเป็นสิ่งล่อใจให้สาวๆ หนุ่มๆ ที่รักสุขภาพอยู่เสมอ หากพูดถึงการกำจัดไขมัน หลายคนก็จะนึกถึงพวกสลิมมิ่ง ทรีทเม้นต์ การดูดไขมัน และการผ่าตัดเก็บหน้าท้อง ที่ต้องมาพร้อมกับการเจ็บตัว และคงเป็นทางออกสุดท้ายที่ใครหลายๆ คนคิดจะทำ แต่ในเมื่อถึงจุดๆหนึ่งที่อยากผอมดูดี แต่คุมอาหารไม่รอด หรืออยากหุ่นดีแบบเร่งด่วน ลองมาอัพเดทเทคโนโลยีลดหุ่นใหม่ๆ กัน
4 ทางลัดกำจัดไขมันให้อยู่หมัด
1.สลิมมิ่ง ทรีทเม้นต์
เป็นลักษณะหัวนวด หรือหัวดูด เป็นการปล่อยพลังงานเข้าไป ทำให้เซลล์ไขมันมีการสลายไป แต่ไม่ถึงกับขนาดทำให้เซลล์ไขมันตาย เป็นเพียงการกระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญได้เร็วขึ้น ทำให้ไขมันมีขนาดเล็กลง เป็นการลดสัดส่วนเฉพาะที่ ซึ่งปัญหาของกลุ่มนี้คือ หากรับประทานอาหารเข้าไปอีก ก็จะเกิดการสะสมของไขมันอีก
2.การฉีด
หรือที่รู้จักกันดีว่า “คาร์บ็อกซี่” เป็นการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อสลายเซลล์ไขมันให้เป็นอณูขนาดเล็กและขับออกจากร่างกาย พบว่ามีไขมันบางส่วนมีการตายด้วย และไขมันมีลักษณะเล็กด้วยเป็น 2 กลไกร่วมกัน
3.การดูดและการผ่าตัด
วิธีนี้เป็นการนำเซลล์ไขมันออกได้ทันที แต่เนื่องจากเป็นการผ่าตัด จึงเจ็บตัวมากกว่า ต้องดมยา หรือเช็คความเสี่ยงต่างๆ อย่างละเอียดใช้ระยะเวลาพักฟื้น และมีข้อจำกัดในกิจกรรมต่างๆ มากกว่าชนิดอื่นๆ
3 วิธีหลักๆ ที่พูดมานี้ หากใครยังไม่โดน ไม่อยากเจ็บตัว อยากได้ผลลัพธ์ที่เร็วและปลอดภัยกว่านี้ล่ะก็ ต้องวิธีนี้เลย
4.COOLSCULPTING หรือการสลายไขมันด้วยความเย็น
สลายไขมันด้วยความเย็น (Cool Sculpting) คืออะไร
มาทำความรู้จักกับนวัตกรรมนี้กันเสียก่อน ที่มาที่น่าสนใจเกิดจากความช่างสังเกตของ นายแพทย์ Dieter Manstein และนายแพทย์ R.Rox Anderson แห่งมหาวิทยาลัย Harvard ที่พบว่าเด็กๆ ที่ชอบรับประทานไอศกรีมแท่งมักเกิดรอยบุ๋มของชั้นไขมันที่แก้มแบบลักยิ้ม
นอกจากนี้ยังมีภาวะทางการแพทย์ที่เรียกว่า Equestrian cold panniculitis ซึ่งมักเกิดกับผู้ที่ออกไปขี่ม้าในช่วงที่อากาศหนาวเย็นจัด และไม่ได้ใส่เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ป้องกันความเย็นที่มากพอ จะเกิดผื่นจากการอักเสบของชั้นไขมันบริเวณต้นขาส่วนบนด้านนอกที่ปะทะกับความเย็น ข้อมูลเหล่านี้สนับสนุนความรู้พื้นฐานเดิมที่ชี้ว่า เซลล์ไขมันมีความไวต่อการโดนทำลายด้วยความเย็นมากกว่าเซลล์อื่นๆ และดึงดูดความสนใจให้เกิดการศึกษาต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าความเย็นในระดับที่เหมาะสมและควบคุมได้ สามารถนำไปสู่นวัตกรรมในการลดไขมันสะสมใต้ผิวหนัง การศึกษาขั้นต้นในหมู โดยการปล่อยความเย็นผ่านผิวหนังไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ให้ผลที่น่าพึงพอใจ โดยพบว่าความหนาของชั้นไขมัน สามารถลดลงได้ถึง 1 ใน 3 ของความหนาเดิม โดยผลจากการตรวจชิ้นเนื้อไม่พบความเสียหายต่อเซลล์ชนิดอื่นๆ ของผิวหนัง
เห็นผลได้จริงหรือ
หลังการศึกษาและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ได้มีการศึกษาและทดลองในคน โดยการใช้เครื่องมือที่มีการส่งผ่านความเย็นในระดับที่เหมาะสมผ่านหัวดูดผิว (Vacuum) หัวนี้จะทำการดูดทั้งผิวหนังและไขมันสะสมใต้ผิวหนัง จากนั้นจะปล่อยความเย็นเพื่อไปทำลายเซลล์ไขมัน การรักษาจะกินเวลาต่อเนื่อง 60 นาที หลังการรักษาพบว่า เซลล์ไขมันมากถึง 20-25% จะถูกทำลาย ซึ่งนับเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า Slimming Treatment อื่นๆ ที่เน้นการเผาผลาญให้ปริมาณไขมันสะสมในเซลล์ลดลงเป็นหลัก แต่มีผลน้อยต่อการทำลายเซลล์ เซลล์ไขมันที่ตายแล้วเหล่านี้จะค่อยๆ ถูกกำจัดออกผ่านกระบวนการตามธรรมชาติ โดยผลการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างจะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ 3 สัปดาห์ และให้ผลสูงสุดหลังการรักษา 3-4 เดือน
เครื่องมือ-อุปกรณ์
Cool Sculpting มีหัวดูด (Vacuum ที่แตกต่างกันหลายชนิด เพื่อตอบสนองต่อรูปแบบการสะสมของไขมันในแต่ละบริเวณที่แตกต่างกัน เช่น Cool Max, Cool Core, Cool Curve และ Cool Fit โดยหลักการ คือ แพทย์จะพยายามเลือกหัวดูดที่เหมาะสมกับขนาดและรูปร่างของไขมันสะสมในแต่ละบริเวณ ทั้งนี้เพื่อให้สามารถดูดผิวหนังบริเวณที่มีไขมันสะสมให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้การกำจัดเซลล์ไขมันเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไขมันแบบไหนได้ผลดี
Cool Sculpting เหมาะกับไขมันสะสมใต้ผิวหนังเฉพาะบริเวณ ยิ่งบริเวณที่เห็นเป็นก้อนหรือเป็นชั้นไขมันชัดเจน ยิ่งตอบสนองต่อการรักษาได้ดี เช่น ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องส่วนบนหรือใต้อก ไขมันหน้าท้องส่วนล่าง (ท้องน้อย) ไขมันสะสมข้างลำตัวที่เห็นเป็นชั้นหรือก้อนเหนือและใต้ รอยต่อแนวบราไขมันบริเวณเอว (Love handles) ไขมันบริเวณต้นขาด้านในที่เป็นก้อนและทำให้ผิวเสียดสีกันเวลาเดินจนเกิดเป็นแผล รวมถึงไขมันที่ท้องแขน การรักษาด้วยเครื่อง Cool Sculpting ทำได้ทั้งในเพศชายและหญิง และยังสามารถใช้ทำการรักษาไขมันสะสมบริเวณหน้าอกและข้างเอวในเพศชายได้ผลดีอีกด้วย
ขั้นตอนการรักษาและผลข้างเคียง
หากท่านเริ่มเบื่อหน่ายและหมดกำลังใจกับการลดไขมันสะสมในบริเวณต่างๆ Cool Sculpting เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ท่านสามารถพบแพทย์เพื่อทำการซักประวัติและตรวจร่างกาย จากนั้นแพทย์จะให้คำแนะนำ รวมถึงวางแผนการรักษาที่เหมาะสม อธิบายขั้นตอนการรักษา และติดตามผล เมื่อทราบตำแหน่งที่จะทำการรักษาแล้ว จะเริ่มด้วยการวางแผ่นเจลปกป้องผิว จากนั้นจะประกบหัวดูด (Vacuum) เข้ากับผิว เมื่อเครื่องเริ่มทำงานท่านจะรู้สึกตึง รั้ง หรือบีบรัดในช่วงแรก หลังผ่านไป 5-10 นาที อาการเหล่านี้จะทุเลาลง และเริ่มรู้สึกเย็นร่วมกับชาบริเวณที่ทำการรักษา การรักษาจะใช้เวลาต่อเนื่อง 60 นาที หรือหนึ่งชั่วโมงต่อหนึ่งพื้นที่ของหัวดูด
หลังเสร็จสิ้นการรักษาผิวหนังบริเวณนั้น จะเย็นและมีรอยแดงช้ำ บางท่านอาจะรู้สึกผิวหนังแข็งตึงกว่าปกติ อาการเหล่านี้มักเกิดร่วมกับอาการชา ซึ่งจะพบได้ในช่วง 3 สัปดาห์แรก ระหว่างนี้ผู้รับบริการควรงดการทำทรีทเมนต์อื่น รวมถึงการประคบร้อนหรือนวดชั่วคราว ผลข้างเคียงอีกประการที่พบได้บ่อยคือ อาการคันหรือรู้สึกว่าผิวแห้งตึงมากกว่าปกติ ซึ่งสามารถบรรเทาได้ โดยการทาครีมให้ความชุ่มชื้นและลดการขัดถู หรือระคายเคืองต่อผิว บางท่านอาจมีอาการเจ็บบริเวณที่ทำการรักษาได้ อย่างไรก็ตามอาการเหล่านี้จะเป็นอยู่เพียงชั่วคราวและค่อยๆ หายเป็นปกติ
ข้อจำกัด
สำหรับเครื่อง Cool Sculpting แพทย์จะทากรประเมินก่อนให้การรักษาว่า ท่านเป็นผู้ที่เหมาะสมและจะได้รับประโยชน์จากการรักษานี้ อย่างไรก็ตาม อาจมีบางภาวะที่ถือเป็นข้อจำกัดต่อการรักษาหรืออาจทำให้เกิดผลข้างเคียงจากการรักษาได้แก่ ผู้ที่มีน้ำหนักมากจนทำให้ค่า BMI อยู่ในช่วงยี่สิบปลายๆ ไปจนถึงมากกว่าสามสิบ เพราะปริมาณไขมันสะสมจะมีมากเกินไปทำให้เห็นผลน้อยและช้า การสะสมไขมันแบบ Visceral fat เองก็ไม่เหมาะจะรักษาด้วยวิธีนี้ ส่วนภาวะทางการแพทย์ที่ถือเป็นข้อจำกัด ได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคแพ้ความเย็น โรคเลือดที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เมื่อสัมผัสกับความเย็น ผู้ที่ทานยาละลายลิ่มเลือดหรือยาที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัวตามปกติ หญิงตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าอาจตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอดบุตรหรือผู้ที่รับการผ่าตัดมายังไม่เกิน 6 เดือน ผู้ที่มีแผลเปิด ผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อในบริเวณที่จะทำการรักษาหรือบริเวณใกล้เคียง ผู้ที่ใส่อุปกรณ์ควบคุมการเต้นของหัวใจ และควรงดการรักษาบริเวณหน้าท้องในผู้ที่เป็นไส้เลื่อน หรือหญิงระหว่างมีประจำเดือน เพราะอาจทำให้อาการปวดประจำเดือนเป็นมากขึ้น
Cool Sculpting มีดีอะไร
• เป็นการรักษาที่เน้นทำลายเซลล์ไขมันต่างจาก Slimming treatment อื่นๆ ที่เน้นการลดขนาดของเซลล์หรือเร่งการเผาผลาญ
• เห็นผลการรักษาได้ตั้งแต่หลังรับการรักษาครั้งแรก เพียงครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเวลามารับการรักษาบ่อยๆ แบบ Slimming treatment อื่นๆ ที่ต้องทำต่อเนื่องเป็นคอร์ส
• เซลล์ไขมันลดลงได้มากถึง 20-25% จากการรักษาในแต่ละครั้ง การทำซ้ำในตำแหน่งเดิมที่ยังมีไขมันสะสมสามารถลดเซลล์ไขมันลงได้อีก (หากต้องการรับการรักษาในตำแหน่งเดิม ควรเว้นระยะห่างระหว่างการรักษาอย่างน้อย 2 เดือน)
• ไม่มีความเสี่ยงเรื่องการดมยาแบบการผ่าตัดอื่นๆ
• ไม่มีความเสี่ยงเรื่องการเกิดแผลหรือแผลเป็นเพราะเป็น Non Invasive Lipolysis
• ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จก็สามารถกลับไปปฏิบัติภารกิจประจำวันได้ทันที
• บรรยากาศการรักษาแสนสบายและเป็นส่วนตัว ระหว่างการรักษาท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับการดูหนัง เล่น social media หรือติดต่องานผ่าน free wifi
• ปลอดภัย ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ทั้งของสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย
แพทย์หญิงนิรมล วัชระรังสี
ตจวิทยา (ผิวหนัง)
โรงพยาบาลยันฮี
(Some images used under license from Shutterstock.com.)