
© 2017 Copyright - Haijai.com
ปัญหารอยแดงจากสิว รักษาอย่างไรดี
ในช่วงชีวิตหนึ่งเชื่อว่าหลายคนต้องเคยพบเจอปัญหาสิวมาแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นมากเป็นน้อยต่างกัน ซึ่งแน่นอนเราสามารถรักษาสิวให้หายได้ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ ดังนั้น ปัญหาต่อมาที่สร้างความหนักใจไม่แพ้ปัญหาสิว คือ ปัญหาของร่องรอยแดงและดำ ที่สิวเหล่านั้นฝากประทับตราอยู่บนใบหน้าเรานั้นเอง
จริงๆ แล้ว รอยแดงที่เกิดจากสิว (post-acne erythema) นั้น เกิดขึ้นเนื่องจากการอักเสบของสิว และมักจะทิ้งแผลเป็นไว้เสมอ ที่สำคัญหากปล่อยทิ้งไว้นานวันเข้า หรือไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง บวกกับพฤติกรรมชอบบีบ แกะ เกา ก็จะยิ่งทิ้งรอยมากขึ้นตามมา ทั้งนี้ เมื่อเราต้องการจะกำจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป สิ่งที่ควรทราบคือ ลักษณะของรอยแดงนั้นแท้จริง มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดใหญ่ๆ คือ รอยแดงตามหลังสิวอักเสบ ที่มีและไม่มีแผลเป็นสิวร่วมไปด้วย โดยรอยแดงสิวบางรอยอาจจะมีลักษณะผิวหนังบริเวณนั้นบุ๋มลงไป โดยมากมักเกิดจากสิวที่อักเสบแต่ไม่เรื้อรัง สามารถเกิดได้ทั่วบริเวณใบหน้า โดยทั่วไปคนที่ผิวขาว มีโอกาสเกิดรอยแดงนานกว่าคนผิวคล้ำที่มักเกิดรอยดำมากกว่า
เมื่อปัญหาเหล่านี้เกิดแล้ว ก็จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา ซึ่งถึงแม้ว่ารอยแดงสิวส่วนหนึ่งจะสามารถหายได้เองตามกาลเวลา แต่มักใช้เวลานาน โดยปกติรอยแดงอาจเป็นอยู่นานประมาณ 2-6 เดือน แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และรอยแดงสิวส่วนหนึ่งอาจคงอยู่นานกว่านั้น (persistent acne erythema) ทำให้คนไข้เกิดความไม่มั่นใจ การรักษาปัญหารอยแดงสิวเหล่านี้
อย่างไรก็ดีจำเป็นต้องใช้แสงเลเซอร์ เนื่องจากการรักษาด้วยยาทาไม่ค่อยได้ผล การใช้ยากลุ่มลดเม็ดสี อาจทำใหรอยดำจากสิวจากลงได้ แต่มักไม่ค่อยได้ผลในรอยแดงสิว ซึ่งเลเซอร์ที่นำมาใช้รักษาในปัจจุบัน ได้แก่ กลุ่มของเลเซอร์ที่ใช้รักษาเส้นเลือดผิดปกติ (vascular laser) เช่น pulsed dye laser, 585-595 nm Q-switched Nd:YAG, pulsed KTP (Potassium Titanyl Phosphate), intense pulsed light, diodes laser, long-pulsed alexandrite, long-pulsed Nd:YAG เป็นต้น
ทำความรู้จักเลเซอร์ spectra gold toning เทคโนโลยีรักษารอยแดงจากสิว
เทคโนโลยี Spectra Gold Toning เป็น เลเซอร์ชนิด Q-switched Nd:YAG ที่มีความยาวคลื่น 585 nm ซึ่งกำเนิดมาจากการเปลี่ยนคลื่นแสงเลเซอร์จาก 532 nm frequency-doubled KTP/Nd:YAG ไปเป็นคลื่นที่มีความยาวคลื่น 585 nm ผ่าน solid-dye handpiece เนื่องจากช่วงความยาวคลื่น 585 nm นี้ ถูกดูดซับได้ดีด้วยฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ดังนั้น จึงสามารถใช้รักษารอยโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดเช่น รอยแดงสิวได้
จากการศึกษาวิจัย และประสบการณ์การรักษารอยแดงสิวด้วย Spectra Gold Toning พบจะว่าได้ผลดีมากเป็นที่น่าพอใจ รอยแดงจากลง และจำนวนรอยแดงสิวลดลงหลังจากรักษาเพียง 1 ครั้ง และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้น เมื่อทำการรักษาครบ 3-5 ครั้ง ทั้งนี้การรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดนี้ปลอดภัย และไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง ที่สำคัญคือไม่เจ็บ และไม่ทำให้เกิดจ้ำเลือดหรือรอยช้ำแดงหลังเลเซอร์ ซึ่งพบได้บ่อยจากการใช้เลเซอร์รักษารอยแดงสิวชนิดอื่น นอกจากนี้พบว่าเลเซอร์ Spectra Gold Toning ยังสามารถทำให้รอยแผลเป็นสิวเริ่มแรกดีขึ้น และสิวอักเสบลดลงได้อีกด้วย
นอกจากนี้ เลเซอร์ Spectra Gold Toning ได้ผลดีในการรักษารอยแดงสิว สิวอักเสบ และหลุมสิวระยะแรก แล้วเลเซอร์ชนิดนี้ยังใช้รักษารอยโรคที่มีความผิดปกติของเส้นเลือดได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็นรอยแดงตามหลังจากอุบัติเหตุ แผล่ผาตัดที่แดง แผลเป็นนูน (hypertrophic and keloid scar) หน้าแดงจากเส้นเลือดฝอยขยาย (facial flushing), โรค Rosacea (telangiectatic type of rosacea) รวมไปถึงฝ้าเลือด (melasma with overlapped vascular prominence) และภาวะรอยดำตามหลังการอักเสบ (post-inflammatory hyperpigmentation) เป็นต้น
คำถามคาใจต่อมาที่ รอยแดงจากสิวที่หายแล้วกับรอยแดงที่มากับสิวยังไม่หาย จะรักษาต่างกันหรือไม่ คำตอบคือไม่ต่างกัน คือรอยแดงที่มีสิวอักเสบร่วมด้วย นอกจากการรักษาด้วยยารักษาสิวตามาตรฐานแล้ว เลเซอร์รักษารอยแดงสิว ก็สามารถช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้อีกด้วย เรียกได้ว่ายิงนกครั้งเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว เราสามารถรักษาด้วยเลเซอร์ได้โดยที่ไม่ต้องรอให้สิวอักเสบหายแล้วทั้งหมด ส่วนในรอยแดงสิวที่สิวอักเสบดีขึ้นบ้างแล้ว คนไข้ก็ควรจะใช้ยารักษาสิวทาต่อเนื่องไประยะหนึ่งจนกว่าจะควบคุมสิวได้ดี
ขั้นตอนการรักษาปัญหารอยแดงจากสิว
ในส่วนของวิธีการและขั้นตอนการรักษา คนไข้ควรทำความสะอาดใบหน้าหรือบริเวณที่จะทำการรักษาให้สะอาดเสียก่อน ไม่ควรมีเครื่องสำอางติดอยู่ แพทย์จะทำการปิดตาด้วยแว่นป้องกันสำหรับผู้ป่วย และรักษาด้วยเลเซอร์ Spectra Gold Toning ใช้เวลารักษาประมาณ 10-20 นาทีแล้วแต่พื้นที่ ซึ่งการรักษาไม่เจ็บ จึงไม่จำเป็นต้องแปะยาชา โดยหลังทำอาจจะมีอาการบวมแดงบริเวณที่ทำการรักษาได้ แต่อาการจะทุเลาลงได้เองภายใน 10-60 นาที จากทำเลเซอร์คนไข้สามารถล้างหน้า ทาครีม ทายารักษาสิว และแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ก็ควรเลี่ยงแสงแดดจัด และใช้ครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 30 เป็นประจำ โดยเราสามารถเห็นผลการรักษารอยแดงสิวที่จางลง และจำนวนรอยแดงสิวลดลงหลังจากรักษาเพียง 1 ครั้ง และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้น รอยแดงจางลง จำนวนรอยแดงลดลง แผลเป็นหลุมสิวตื้นขึ้น และรูขุมขนกระชับขึ้น หลังจากเมื่อทำการรักษาครบ 3-5 ครั้ง ทั้งนี้การรักษาด้วยวิธีการนี้ไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่นจุดจ้ำเลือด ผิวหนังไหม้หรือสีผิวผิดปกติ หลังทำการรักษาสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และสามารถทำได้กับทกคน และมไต้องเตรียมวันหยุด สามารถกลับไปทำงานต่อได้เลย
ปัญหาของรอยแดงจากสิว ถือว่าเป็นปัญหาหนักใจปัญหาหนึ่ง แต่สามารถแก้ไขรักษาให้ดีขึ้นได้ ซึ่งรอยแดงจากสิวเกิดการอักเสบของหลอดเลือดเล็กๆ บริเวณผิวหนังที่เป็นสิว ตามปกติรอยแดงสิวชนิดนี้สามารถหายเองได้แต่ใช้เวลานาน อาจนานถึง 6 เดือน ดังนั้น จึงได้มีการนำแสงเลเซอร์ในช่วงคลื่นที่เหมาะเจาะจงกับการรักษาเส้นเลือดคือจุดที่ 585-595 nm มาใช้ โดยเลเซอร์ชนิดนี้จะไปทำให้เส้นเลือดที่ผิดปกติเหล่านี้ถูกทำลายหายไป ส่งผลให้รอยแดงจากลงนั้นเอง
พญ.รัชต์ธร ปัญจประทีป
แผนกผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
(Some images used under license from Shutterstock.com.)