Haijai.com


อาหารรสเค็มเสี่ยงกับมะเร็งกระเพาะอาหาร


 
เปิดอ่าน 2531

กินเค็ม เสี่ยงมะเร็ง?

 

 

ความเค็มเป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของคนและสัตว์ อย่างไรก็ตามความเค็มที่มากเกินไปนั้น ย่อมทำให้เกิดความผิดปกติขึ้น อย่างเบาก็กระหายน้ำ อย่างหนักก็เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆ เชื่อหรือไม่ว่าไม่เพียงแต่ความดันเลือดสูงเท่านั้นที่สัมพันธ์กับความเค็ม อุบัติการณ์ของมะเร็งในกระเพาะอหารก็สัมพันธ์กับความเค็มเช่นกัน

 

 

ความเค็มกับมะเร็งกระเพาะอาหาร

 

ปัจจุบันยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนของความสัมพันธ์ระหว่างอาหารเค็มกับมะเร็งกระเพาะอาหาร แต่ได้มีผู้เสนอแนวคิดต่างๆ ถึงผลของการได้รับเกลือแกง (โซเดียมคลอไรด์) ในปริมาณสูงต่อความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งดังนี้

 

 ทำให้เชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pyroli ซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหาร เจริญเติบโตในกระเพาะอาหารได้ดีขึ้น

 

 

 เสริมฤทธิ์สารก่อมะเร็งให้ทำลายเซลล์ในกระเพาะอาหาร

 

 

 ทำให้เกิดการอักเสบที่ผนังกระเพาะอาหาร เพิ่มความเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์ของเซลล์บริเวณนั้น

 

 

อาหารดองเค็มหลายชนิดนอกจากจะมีเกลือแกงในปริมาณสูง อาจจะพบสารประกอบเอ็น-ไนโตรโซ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่งอีกด้วย แต่การทำให้อาหารหมักดองสุกด้วยความร้อน สามารถลดพิษจากสารดังกล่าวได้

 

 

ผลการศึกษา

 

การศึกษาทางระบาดวิทยาหลายงาน โดยเฉพาะบริเวณเอเชียตะวันออกพบความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคเกลือ หรืออาหารที่ใช้เกลือเป็นส่วนประกอบ กับการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร คณะนักวิจัยชาวเกาหลีและญี่ปุ่น ซึ่งนำโดยคิมฮุนจาได้วิเคราะห์ข้อมูลจากงานวิจัยต่างๆ ที่ศึกษาระหว่างความสัมพันธ์ของการบริโภคผักดองและผักสดของชาวญี่ปุ่น หรือเกาหลีกับการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารแล้วพบว่าการบริโภคผัดอง (ซึ่งมีเกลือเป็นองค์ประกอบในสัดส่วนที่สูง) เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเพราะอาหาร ในขณะที่การบริโภคผักสดจะลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร

 

 

หยางว่านกว่างและคณะนักวิจัยชาวจีนได้ศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารในชาวจีน และพบว่ายิ่งชอบรับประทานอาหารรสเค็มมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยในประเทศเกาหลี โดยคิมและคณะได้สำรวจข้อมูลจากชาวเกาหลีจำนวน 2,248,129 คน โดยเก็บข้อมูลที่จุดเริ่มต้นการศึกษาด้วยแบบสอบถาม จากนั้นติดตามผลอีกประมาณ 6-7 ปี ให้หลัง ซึ่งมีผู้ชายป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร 9,620 คน และผู้หญิงป่วยด้วยโรคนี้จำนวน 2,773 คน ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าความชอบอาหารรสเค็มเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารถึง 10% เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ชอบรสเค็ม การศึกษาหนึ่งที่ญี่ปุ่นก็ให้ผลคล้ายคลึงกัน เพียงแต่มีความแตกต่างระหว่างเพศ โดยผ้ชายที่รับประทานอาหารดองเค็มตั้งแต่อาทิตย์ละ 2-4 ครั้งขึ้นไป จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารเป็น 2 เท่าของผู้ชายที่รับประทานอาหารดองเค็มเดือนละ 2-4 ครั้งหรือน้อยกว่า ส่วนในผู้หญิงไม่พบความเสี่ยงของการรับประทานอาหารดองเค็ม กับการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร

 

 

นอกจากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกแล้ว ยังมีงานวิจัยที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาหารเค็มกับการเป็นกระเพาะอาหารในภูมิภาคอื่นๆ เช่น การศึกษาปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งกระเพาะอาหารในชาวอิหร่านเชื้อสายตุรกีที่อาศัยทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่าน ซึ่งพบว่าการบริโภคเมล็ดพืชคั่วเกลือหรือผ่านการอบด้วยอุณหภูมิสูงๆ เป็นปัจจัยเสี่ยงประการหนึ่งต่อการเป็นโรคนี้หรือการศึกษาจากเมืองคาลี ประเทศโคลอมเบียที่พบว่า การปรุงรสอาหารด้วยเกลือโดยไม่ “ชิมก่อนปรุง” ก็เป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

 

 

การรับประทานอาหารเค็มไม่เพียงส่งผลต่อความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร หากยังมีผลต่อความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูก เจียเว่ยหัวและคณะนักวิจัยชาวจีได้ศึกษาปัจจัยเสี่ยงของการเป็นมะเร้งชนิดนี้ในประชาชนที่อาศัยในมณฑลกวางตุ้ง และพบว่าการรับประทานอาหารเค็ม ได้แก่ ปลาเค็ม ผักดองเค็ม เนื้อเค็ม เป็นปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งดังกล่าว เช่นเดียวกับงานวิจัยจากมาเลเซียที่พบว่าการรับประทานอาหารดองเค็มอยู่เสมอๆ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งชนิดนี้

 

 

มะเร็งคอหอยส่วนปากก็เป็นมะเร็งอีกชนิดหนึ่งที่มีความเค็มเป็นปัจจัยเสี่ยง การศึกษาในประเทศอุรุกวัยพบว่าการรับประทานเนื้อเค็มในปริมาณมาก เพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งบริเวณดังกล่าวเกือบ 5 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไมรับประทานเนื้อเค็ม มะเร็งชนิดอื่นๆ ที่มีความเค็มเป็นปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ มะเร็งหลอดอาหาร ดังผลจากการศึกษาในชายไต้หวันที่แสดงให้เห็นว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์ถั่วหมัก อาหารเค็ม (ปลาเค็ม ผักดองเค็ม และซอสปรุงรส) และผักดองตั้งแต่สัปดาห์ละครั้งขึ้นไป (โดยเฉพาะเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป) เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหลอดอาหารและมะเร็งรังไข่ ซึ่งแสดงให้เห็นจากผลการศึกษาในจีนที่พบว่าการรับประทานผักดองเค็มในปริมาณมาก จะไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งรังไข่

 

 

อย่างไรก็ตามการศึกษาบางงานก็ไม่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างการรับประทานอาหารเค็มกับมะเร็ง เช่น งานวิจัยในนอร์เวย์ที่ศึกษาผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 73,133 คน ติดตามผลเป็นระยะเวลาประมาณ 15.4 ปี พบว่าการรับประทานอาหารดองเค็ม (เนื้อเค็ม/ปลาเค็ม) และการเหยาะเกลือเพื่อปรุงรสอาหารไม่มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร งานวิจัยในโปแลนด์ที่ไม่พบความสัมพันธ์ของการบริโภคผักดองเค็มกับการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นต้น สาเหตุของความแตกต่างของผลการศึกษาอาจจะมาจาก

 

 

 ความแตกต่างกันของปริมาณเกลือที่บริโภคในแต่ละภูมิภาค ปริมาณเกลือที่จัดว่าสูงสุดของอีกภูมิภาคอย่างเช่น การศึกษาหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นที่ระบุว่า การบริโภคอาหารดองเค็มสัปดาห์ละหนึ่งครั้งเป็นความถี่ที่ต่ำสุด ในขณะที่ความถี่ดังกล่าวกลับเป็นความถี่สูงสุดของการศึกษาหนึ่งในตุรกี จึงเป็นไปได้ว่าการที่งานวิจัยในญี่ปุ่นแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาหารรสเค็มกับมะเร็งในกระเพาะอาหาร เพราะชาวญี่ปุ่นบริโภคเกลือมากกว่าหลายภูมิภาค และผลของเกลือต่อกระเพาะอาหารก็ขึ้นอยู่กับขนาดของเกลือ ที่ได้รับจากอาหารในทิศทางเดียวกัน

 

 

 ความแตกต่างด้านชาติพันธุ์ที่ศึกษา จากตัวอย่างงานวิจัยที่ยกมา จะเห็นได้ว่างานวิจัยที่พบความสัมพันธ์ระหว่างอาหารเค็มกับมะเร็ง จะทำการศึกษาในภูมิภาคเอเชียตะวันออก (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น) เป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่งานวิจัยที่ไม่พบความสัมพันธ์ที่ยกมานั้น จะทำการศึกษาในทวีปยุโรป จึงเป็นไปได้ว่าชาติพันธุ์ที่แตกต่างกัน อาจจะมีผลต่อพันธุกรรมและการตอบสนองต่อสารก่อมะเร็งที่แตกต่างกัน ซึ่งมีการศึกษาที่ยืนยันถึงความแตกต่างกันของชาติพันธุ์ ต่ออุบัติการณ์มะเร็งกระเพาะอาหาร เช่น การศึกษาหนึ่งซึ่งเก็บข้อมูลจากผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการวินิจฉัยจากโรงพยาบาลในประเทศอังกฤษพบว่า ชาวอังกฤษผิวสีที่บรรพบุรุษมาจากแคริบเบียน มีความเสี่ยงของมะเร็งกระเพาะอาหารมากกว่าชาวอังกฤษผิวขาว หรือการศึกษาในมาเลเซียที่พบว่า ชาวมาเลย์เชื้อสายจีน มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมากกว่าเชื้อสายมลายู

 

 

ปริมาณโซเดียมในเครื่องปรุงรส และอาหารชนิดต่างๆ ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุงรส/อาหาร

โซเดียม (มิลลิกรัม)

น้ำปลา

1,160-1,490

ซีอิ๊วขาว

960-1,460

ซอสหอยนางรม

420-490

กะปิ

1,430-1,490

ผงชูรส

492

น้ำพริกเผา

410

น้ำพริกตาแดง

560

ข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

 

 

สำหรับประเทศไทย ข้อมูลปี พ.ศ.2555 จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เปิดเผยว่าเมื่อสำรวจในประชากรไทยทุกเพศ มะเร็งกระเพาะอาหารเป็นมะเร็งที่พบได้เป็นอันดับที่ 13 มะเร็งหลอดอาหารพบได้เป็นอันดับที่ 8 มะเร็งหลังโพรงจมูกอันดับที่ 9 และมะเร็งรังไข่อันดับที่ 10 ประกอบกับอาหารไทยมีการใช้เครื่องปรุงที่มีรสชาติจัดจ้านถึงใจ ซึ่งแน่นอนว่าต้องได้รับเกลอืในปริมาณพอสมควร (แสดงในรูปของโซเดียมตามข้อมูลในตาราง) ข้อมูลจากกรมอนามัยที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยแต่ละคนได้รับโซเดียมจากอาหาร และเครื่องปรุงรสสูงถึง 12,000 มิลลิกรัมต่อวัน (ซึ่งสูงกว่าปริมาณสูงสุดที่ควรได้รับ คือ 2,400 มิลลิกรัมต่อวันซึ่งเท่ากับเกลือแกง 1 ช้อนชา) ดังนั้นแต่ละคนจึงควรลดเค็ม ลดโรค จำกัดปริมาณอาหารที่มีรสเค็มจัด ตลอดจนเพิ่มการบริโภคผักและผลไม้สด ซึ่งหลายการศึกษาแสดงให้เห็นว่า สามารถช่วยลดคาวมเสี่ยงของการเป็นมะเร็งได้ เมื่อทำเช่นนี้ก็จะทำให้ชีวิตของพวกเราห่างไกลโรคภัยต่างๆ ที่เกิดจากความไม่พอดี ลดภาระที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราเอง สังคม และประเทศชาติในที่สุด

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





สิวอุดตันเกิดจาก สิวฮอร์โมน คอลลาเจน สิวไขมัน สิวหัวแข็ง AviClear AviClear Laser สิวไต สิวเสี้ยน หน้าขาวใส หน้าแพ้สาร สิวข้าวสาร หน้าใสไร้สิว หน้าไหม้แดด สิวหัวขาว หน้าแห้ง อาการนอนกรน วิธีลดไขมันทั้งตัว ผิวขาว ผิวหน้า ผู้หญิงนอนกรน หน้ากระจ่างใส วิธีลดไขมันในร่างกาย หน้าเนียนใส หน้าเนียน หน้าหมองคล้ำเกิดจาก กดสิวใกล้ฉัน กดสิวเสี้ยน กดสิว หน้าใส สิวอุดตัน หน้าหมองคล้ำ สิวอักเสบ สิว สิวหัวช้าง หน้าขาว สิวขึ้นคาง สิวผด ครีมลดรอยสิว วิธีแก้การนอนกรนผู้ชาย แก้อาการนอนกรนผู้หญิง วิธีลดหน้าท้องแบบเร่งด่วน Sculpsure ลดไขมันในร่างกาย วิธีลดไขมัน ลดไขมันต้นขา สลายไขมันหน้า ไตรกลีเซอไรด์ เซลลูไลท์ วิธีแก้นอนกรน ลดไขมัน Coolsculpting ทำกี่ครั้ง Sculpsure กับ Coolsculpting นอนกรนเกิดจาก Morpheus8 สลายไขมันหน้าท้อง วิธีลดพุงผู้หญิงเร่งด่วน 3 วัน Body Slim ลดไขมันทั้งตัว วิธีลดพุงผู้ชาย Morpheus8 กับ Ulthera ลดพุงเร่งด่วน วิธีลดไขมันต้นขา ลดพุง ดูดไขมัน วิธีลดหน้าท้อง สลายไขมันด้วยความเย็น คอเลสเตอรอล วิธีลดไขมันหน้าท้อง ไขมัน วิธีลดพุงผู้หญิง Coolsculpting Elite CoolSculpting vs Emsculpt วิธีลดพุง สลายไขมันต้นขา ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt CoolSculpting บทความน่ารู้ บทความกระชับสัดส่วนรูปร่าง บทความดูแลรูปร่างและสุขภาพ บทความรักษาอาการนอนกรน บทความ Morpheus บทความ Coolsculpting บทความโปรแกรมดูแลผิวหน้า ข่าวและกิจกรรม romrawin รมย์รวินท์ Plinest Pico หลุมสิว เลเซอร์ฝ้า เลเซอร์ฝ้า กระ IV Weight Loss Thermage Body Pico Laser ราคา สิว กลืนบอลลูนราคา วิธีลดน้ำหนัก วิธีแก้อาการนอนกรน อาการนอนกรน บทความโปรแกรมรักษาอาการนอนกรน เลเซอร์รีแพร์ ดึงหน้าที่ไหนดี ผ่าตัดดึงหน้าราคา Thermage FLX ผ่าตัดดึงหน้า ดึงหน้าราคา ผ่าตัดดึงหน้าที่ไหนดี ดึงหน้า vs ร้อยไหม ศัลยกรรมดึงหน้าราคา เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น Ultraformer MPT ราคา ลดเซลลูไลท์ ฟิลเลอร์แก้มตอบราคา CoolSculpting vs Emsculpt ลดน้ำหนัก วิธีสลายไขมัน สลายไขมัน Alexandrite Laser Dynamic Tech Morpheus Pro สารเติมเต็ม ฟิลเลอร์แท้ ฟิลเลอร์ปลอม เลเซอร์ขนหน้าอก Coolsculpting vs Coolsculpting Elite Morpheus8 ราคา สลายไขมันด้วยความเย็นราคา สลายไขมันด้วยความเย็น ฟิลเลอร์ใต้ตาราคา ดึงหน้า Ultherapy Prime vs Ulthera SPT IPL เลเซอร์ขนแขน YAG Laser Diode Laser ไฮยาลูรอน ฟิลเลอร์น้องชายอันตรายไหม ฉีดสิว Emtone 1 week 1 Kilo ลดน้ำหนัก กลืนบอลลูน Exo Hair Reborn หลังฉีดฟิลเลอร์คาง ดูดไขมัน ดึงหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น เสริมจมูก ยกคิ้ว เสริมหน้าอก บทความศัลยกรรม วีเนียร์ บทความทันตกรรม Coolsculpting Fit Firm Emsculpt Coolsculpting Elite บทความลดน้ำหนัก ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน บทความดูแลสุขภาพ Vaginal Lift P-SHOT O-Shot บทความสุขภาพเพศ Meso Hair LLLT ปลูกผมด้วยแสงเลเซอร์ ปลูกผมผู้ชาย ปลูกผมสำหรับผู้หญิง ปลูกผมถาวร ปลูกผม FUE ปลูกผม รักษาผมร่วง บทความรักษาผมร่วง ผมบาง บทความดูแลเส้นผม เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขน บทความเลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Reepot Laser Reepot บทความโปรแกรมหน้าใส NCTF 135 HA Rejuran Belotero Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra vs ฟิลเลอร์ Sculptra บทความ Sculptra Radiesse บทความ Radiesse บทความฉีดหน้าใส UltraClear AviClear Laser AviClear Accure Laser Accure บทความโปรแกรมรักษาสิว ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ บทความฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย บทความโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio บทความยกกระชับใบหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม บทความร้อยไหม Apex