© 2017 Copyright - Haijai.com
พิสตาชิโอ กับกลุ่มอาการเมแทบอลิค
พิสตาชิโอเป็นถั่วเปลือกแข็งที่ไม่ใช่ถั่ว (คือวงศ์ทางพฤกษศาสตร์ไม่ได้อยู่วงศ์เดียวกับถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง หากแต่อยู่วงศ์เดียวกับมะม่วง) มีเนื้อแข็งๆ สีเขียว ยิ่งเขียวยิ่งมัน คนจีนเรียกพิสตาชิโอว่าไคซินกั่ว ไคซินแปลว่าสบายใจ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับความสุขกายสบายใจจากการเคี้ยวพิสตาชิโอหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เมื่อคุณได้อ่านงานวิจัยต่อไปนี้ คงจะเห็นว่าคุณค่าของพิสตาชิโอคู่ควรกับความสบายใจ โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยด้วยกลุ่มอาการเมแทบอลิค (อ้วนลงพุง ไตรกลีเซอไรด์สูง ความดันเลือดสูง น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันดีต่ำ)
นักวิจัยในประเทศอินเดียได้ให้ผู้ป่วยกลุ่มอาการเมแทบอลิคจำนวน 60 คน แบ่งออกเป็นกลุ่มควบคุม ซึ่งได้รับเฉพาะคำแนะนำในการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย และกลุ่มที่ได้รับการเสริมถั่วพิสตาชิโอ (ไม่ใส่เกลือ) จะได้รับประทานถั่วพิสตาชิโอในขนาดที่ให้พลังานร้อยละ 20 ของพลังงานทั้งหมดที่ได้จากอาหารต่อวันเพิ่มเติมจากการรับประทานอาหาร และใช้ชีวิตตามคำแนะนำของผู้วิจัย การศึกษาดำเนินไปเป็นเวลาหกเดือน
เมื่อสิ้นสุดการศึกษา นักวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับการเสริมถั่วพิสตาชิโอจะมีเส้นรอบเอว ชั้นไขมันใต้ผิวหนังหน้าท้องลดลงจากตอนเริ่มต้นการศึกษา นอกจากนี้ค่าทางชีวเคมีต่างๆ ได้แก่ คอเลสเตอรอลโดยรวม ไขมันตัวเลว กรดไขมันอิสระ และระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร ยังลดลงจากตอนเริ่มต้นการศึกษา นอกจากนี้ระดับของสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับการดื้อต่ออินซูลิน และการอักเสบในร่างกายของกลุ่มที่ได้รับพิสตาชิโอ ยังลดลงจากตอนเริ่มต้นการศึกษา ในขณะที่กลุ่มควบคุมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของค่าดังกล่าว การใช้ถั่วพิสตาชิโอเป็นของว่างควบคู่กับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย จึงนับเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งที่จะได้ผลดีแบบง่ายๆ และอร่อยด้วย
(Some images used under license from Shutterstock.com.)