ฝึกไท้เก๊ก เพิ่มพูนคุณภาพชีวิต

ฝึกไท้เก๊ก เพิ่มพูนคุณภาพชีวิต

ภาพที่คุ้นชินหลายต่อหลายคนเวลาไปสวนสาธารณะ เป็นต้นว่าสวนลุมพินีในยามเช้า ก็คือหมู่คณะทุกวัยแต่มีผู้สูงวัยมากสักหน่อย กำลังฝึกมวยไท้เก๊ก ซึ่งเป็นท่ารำมวยที่ช้าๆ จนบางคนก็อาจจะตั้งคำถามว่าการบริหารแบบช้าๆ ไม่ใช้แรงแบบนี้จะให้ประโยชน์แก่ร่างกายได้อย่างไ แต่งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปีนี้ได้ยืนยันถึงผลดีของการฝึกรำมวยไท้เก๊กในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Archives of Physical Medicine and Rehabilitation ได้ทดสอบผลของการฝึกมวยไท้เก๊ก การออกกำลังกายตามโปรแกรม SiverSneakers และการดูแลโดยทั่วไปที่มีการให้คำปรึกษาแนะนำเป็นเวลา 12 สัปดาห์ แก่ผู้ที่รอดชีวิตจากการป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองจำนวน 145 คน อายุประมาณ 70 ปี ที่อาศัยในเมืองทูซอน มลรัฐแอริโซน่า สหรัฐอเมริกา ผลการวิจัยพบว่าการส่งเสริมสุขภาพทั้ง 3 รูปแบบช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่สิ่งที่การฝึกมวยไท้เก๊กเหรือกว่าอีก 2 วิธีก็คือ มวยไท้เก๊กสามารถลดการหกล้มได้มากกว่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ฝึกมวยไท้เก๊กมีการทรงตัวในขณะเดินดีขึ้น

นอกจาผลดีทางกายแล้ว การฝึกมวยไท้เก๊กยังแสดงผลดีต่อการรับรู้ ดังงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร Archives of Gerontology and Geriatrics ซึ่งผู้วิจัยได้แบ่งผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 46 คน ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มที่ฝึกมวยไท้เก๊กที่ถูกปรับปรุงสำหรับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะ (Tai Ji Quan: Moving for Better Balance) เป็นเวลา 14 สัปดาห์ ส่วนกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มควบคุม ซึ่งจะไม่มีการออกกำลังกายพิเศษ ผู้วิจัยวัดผลด้านการรับรู้และการเคลื่อนไหว ที่ตอนเริ่มต้นการศึกษาและตอนสิ้นสุดการศึกษา ผลปรากฏว่าผู้สูงอายุที่ฝึกมวยไท้เก๊กมีคะแนนการรับรู้และผลการทดสอบการเคลื่อนไหวดีขึ้น จากตอนเริ่มต้นการศึกษาในขณะที่กลุ่มควบคุมไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ดังนั้นมวยไท้เก๊กที่เป็นมรดกอันล้ำค่าจากแดนมังกร จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการหาวิธีการออกกำลังกายที่ไม่หักโหมจนเกิดอันตรราย และให้ผลดีแก่สุขภาพและใจอย่างแท้จริง สามารถฝึกได้ทุกเพศทุกวัย ผู้ที่สนใจการออกกำลังกายด้วยวิธีดังกล่าว สามารถไปเดินดูตามสวนสาธารณะ เช่น สวนลุมพินีในตอนเช้า ซึ่งจะมีกลุ่มที่ศึกษาและฝึกมวยไท้เก๊กอยู่ เมื่อเจอกลุ่มไหนที่คิดว่าใช่ก็ลองศึกษาดูได้