การผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าด้วยเทคนิค Mini Face Lift

เทคนิคการผ่าตัดเล็กดึงหน้า ซ่อนแผลเป็น Mini Face Lift

ผู้หญิงเราสิ่งหนึ่งที่รับไม่ได้นั่นก็คือริ้วรอย ความเหี่ยวย่น ไม่ว่าจะเป็นรอยตีนกา รอยย่นของผิวหน้าและคอ ซึ่งเมื่อจะกำจัดริ้วรอยเหล่านี้ก็ต้องใช้วิธีการดึงหน้า โดยในสมัยก่อนนั้นการทำหน้าให้เต่งตึง จะต้องใช้วิธีการผ่าตัดดึงหน้าเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่และหลายต่อหลายคนกลัว แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน วิวัฒนาการทางการแพทย์ก็เปลี่ยนตาม มีการคิดค้นเทคนิคใหม่ๆ เพื่อช่วยให้เรากลับมาเป็นหนุ่มเป็นสาวกันอีกครั้งอย่างไม่ยากเย็นนัก

เมื่อพูดถึงริ้วรอย ผิวหนังหย่อนยาน แน่นอนว่าปัจจัยหลักที่ก่อเกิดความหย่อนยานของผิว มาจากหลากหลายสาเหตุ โดยหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องของตัวเลขของอายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุมากความเสื่อมโทรมของชั้นหนังแท้ก็มีมากตามลำดับ ส่งผลให้ความยืดหยุ่นของผิวจากคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นหนังแท้เสื่อมคุณสภาพ นอกจากนี้ยังเรื่องของสภาพอากาศที่ค่อยทำลายผิว โดยเฉพาะรังสี UV จากแสงแดด และปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเครียด อาหารการกิน การบริโภคสารอนุมูลอิสระเข้าไปมากๆ ทำให้ผิวหย่อนคล้อยก่อนวัยอันสมควรได้ด้วยเช่นกัน รวมไปถึงโรคกรรมพันธุ์บางชนิด เช่น โรคบางโรคที่คอลลาเจนสร้างไม่ปกติ ก็ส่งผลต่อการหย่อนคล้อยได้เช่นกัน ในส่วนของสาเหตุที่เกิดจากกรรมพันธุ์นี้ จะรักษาค่อนข้างยาก เมื่อเทียบกับกลุ่มสาเหตุอื่นๆ

ในส่วนของวิธีการรักษาอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าเทคโนโลยีทางการแพทย์มีความก้าวหน้าไปมาก ที่เข้ามาช่วยในเรื่องการดึงหน้า แก้ไขรอยเหี่ยวย่นได้ โดยที่ไม่ต้องมีรอยผ่าตัด ไม่มีรอยแผลเป็นที่ใบหน้า ล่าสุดมีเทคนิคการดึงหน้าการรักษาผิวหน้าที่หย่อนยาน Mini Face Lift ซึ่งเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าแบบใหม่ที่มีสามารถลดอายุ ย้อนวัย ไป 7-10 ปี ได้รับความนิยมสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาในทางการแพทย์ก็มีการรักษาได้หลายรูปแบบตามระดับความหย่อนคล้อย โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่เกิดรอยแผลเป็น

รู้จัก Mini Face Lift เทคนิคการผ่าตัดเล็กกระชากวัย

Mini Face Lift เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าแบบใหม่ สามารถลดอายุย้อนวัยไป 7-10 ปี รอยแผลบริเวณด้านหน้า และหลังใบหูไม่เป็นที่สังเกต และจะเย็บแผลด้วยไหมละลายทำให้แผลเป็น มีขนาดเล็กมาก และถูกซ่อนอยู่ในบริเวณไรผม หรือตำแหน่งที่มองไม่เห็น คนใช้จึงไม่ต้องกังวลกับเรื่องแผลเป็นหลังผ่าตัด นอกจากนี้การผ่าตัดประเภทนี้ ไม่มีการใส่สารแปลกปลอมเข้าไป หลังทำใบหน้าไม่บวม ไม่ช้ำ พักฟื้นระยะสั้น 4-5 สั้น สามารถไปทำงานได้ตามปกติ ข้อดี คือผลอยู่ได้ถึง 5-10 ปี

ทั้งนี้ Mini Face Lift เดิมในทางเทคนิคมักมีชื่อเรียกว่า Rhytidectomy ซึ่งการทำศัลยกรรมดึงหน้าที่ได้มาตรฐานจะทำการผ่าตัดบริเวณตำแหน่งหน้าของใบหูขยายไปตามไรผม Mini Face Life จะดึงบริเวณใดของใบหน้านั้น แพทย์จะประเมินตามปัญหาริ้วรอยที่แตกต่างกันของแต่ละคน การดึงหน้าแบบ Mini Face Lift ใช้หลักการในการดึงหน้าเหมือนเดิมคือดึงทั้งผิวหนังชั้นบน และดึงตึงในผิวหนังชั้นลึกชั้น SMAS แต่ Mini Face Lift จะเป็นการเปิดแผลสั้นเล็กๆ ในแต่ละจุดต่างจากการดึงหน้าแบบเดิมที่ต้งอเปิดแผลเลาะยาว

ในส่วนของขั้นตอนการผ่าตัดแก้ไขนั้น ศัลยแพทย์อาจจะแนะนำดมยาสลบหรือฉีดยาชา ถ้าเป็นการทำศัลยกรรมดึงหน้าบางส่วนที่ไม่มาก กรณีที่คิ้วตก แก้มย้อย หางตาหย่อน ร่องแก้ม ร่องจมูก ก็จะดึงส่วนบน 45 องศา จะเปิดแผลเล็กเปิดบริเวณขอบหูด้านหน้า และอาจจะเว้าขึ้นไปบริเวณติ่งหน้ารูหูเล็กน้อย จากนั้นจึงลากผ่านเข้าไปในผมอีกที เพื่อซ่อนแผลไว้ในเส้นผม โดยในสมัยก่อนแผลผ่าตัดจะยาวจากหูซ้ายถึงหูขวา กรณีที่หน้าผากที่เหี่ยวย่นก็จะเปิดแผลเล็กที่ด้านบนไรผมระดับกลางหน้าผาก และถ้าเหี่ยวย่นบริเวณคอหย่อนก็เปิดแผลดึงเก็บตรงไรผมท้ายทอย ในการผ่าตัดดึงคอจะเอาไขมันส่วนเกินออกแล้วเย็บกล้ามเนื้อที่แยกออก จนเห็นเป็นสันเข้มาหากัน และตัดหนังส่วนเกินออกทางด้านหลัง

ถ้าต้องการดึงหน้าก็สามารถทำได้โดย เปิดแผลในบริเวณดังกล่าวข้างต้นคือไรผมบริเวณขมับ ไรผมระดับหน้าผาก และไรผมด้านหลังบริเวณท้ายทอย แผลจะเป็นจุดสั้นๆ ไม่ต้องเปิดเลาะเป็นบริเวณยาวทั้งหน้าเหมือนสมัยก่อน เมื่อเปิดแผลแล้ว จะทำการเปิดผิวหนังบริเวณส่วนที่หย่อนยาวขึ้น ยกผืนพังผืดและกล้ามเนื้อขึ้นอีกชั้น เพื่อสามารถดึงให้ตึงเป็นสองชั้น (ตื้นและลึก) จากนั้นการแก้ไขชั้นกล้ามเนื้อต่างๆ ที่มีผลทำให้เกิดรอยย่น เพื่อเย็บให้กระชับพอสมควร ตัดผิวหนังและตัดกล้ามเนื้อส่วนเกินที่ทำให้เกิดรอยย่นและเย็บตึงในผิวชั้นในคือชั้น SMAS ซึ่งจะทำให้รอยเหี่ยวย่นทั้ง Fine และ Deep Wrinkle หายไป ผิวหน้าเรียบตึง และผลการดึงจะเทียบเท่ากับการดึงหน้าแบบ Full Face Lift เลยที่เดียว

ในส่วนของผลลัพธ์ที่ได้จากากรทำศัลยกรรมดึงหน้า จะทำให้ดูหนุ่มสาวและผิวหน้ากระชับมากกว่าเดิม การทำศัลยกรรมดึงหน้าจะขจัดและกระชับผิวหนังต่างๆ ที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้น ผลของการทำศัลยกรรมดึงหน้ามักคงอยู่ได้ประมาณ 5-10 ปี รอยแผลบริเวณด้านหน้าและหลังใบหูมักไม่เป็นที่สังเกต จึงจำเป็นอย่างมากที่คุณควรเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์อย่างสูง เพื่อให้ได้ผลที่น่าพึงพอใจ

ด้านภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าตัด คือ ใต้ผิวหนังมีเลือดค้าง ติดเชื้อ รู้สึกตึงหลังใบหู เกิดอการชาหรือการรับรู้ความรู้สึกเปลี่ยนไปชั่วคราว เมื่อเส้นประสาทถูกซ่อมแซมแล้วอาการเหล่านี้ก็จะหายไป ในส่วนของผลข้างเคียง ความรุนแรงและระยะเวลาของการเกิดผลข้างเคียงจะแตกต่างกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการผ่าตัดอีกชนิดร่วมด้วย   เมื่อผ่าตัดแล้วฟื้นตัวหลังการทำศัลยกรรมดึงหน้าลักษณะนี้ ส่วนใหญ่มักจะไม่สบายตัวหลังการทำศัลยกรรม รอยฟกช้ำ บวมจะเกิดขึ้นต่อไปราว 3 วัน จึงต้องอาศัยการฟื้นตัวจะใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน แต่การทำกิจกรรมปกติสามารถเริ่มได้หลังจากทำศัลยกรรม 2-3 วัน และสามารถตัดไหมออกได้ภายใน 5-8 วัน ขึ้นอยู่กับการทำศัลยกรรมแต่ละประเภท

การฟื้นคืนสภาพปกติจะใช้เวลาประมาณ 10-14 วัน ในขณะรอยช้ำลดลง งดกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อบาดแผล เพื่อลดโอกาสการเกิดแผลเป็นนั้นเอง ทั้งนี้ นอกจากการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าด้วยเทคนิค Mini Face Lift แล้ว ยังมีวิธีการอื่นๆ ที่ใช้ในการแก้ไข ความหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น ของใบหน้า ดังนี้

1.การดึงหน้าด้วย Sihouette Face Lift

เป็นการดึงหน้าด้วยไหมไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทคนิคและชนิดของไหม ถ้าหากสังดูวิธีการทำ และคุณสมบัติแต่ละชนิดของไหม อาจจะพบว่าได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน อย่างเช่นที่เราจะพูดถึงกันวันนี้นั่นก็คือตัวไหม aptos, และวิธีการดึงหน้าด้วย Sihouette Lift Suspension Sutures ที่สามารถใช้ทดแทนการผ่าตัดดึงหน้าได้ ซึ่งจะใช้ได้ในเฉพาะกรณีที่คนไข้มีริ้วรอยที่หย่อนยานไม่มากนักเท่านั้น ซึ่งไหม aptos เป็นไหมที่มีคุณสมบัติเหมือนไหมทั่วไป แต่ไม่มีปฏิกิริยากับผิวหน้าสักเท่าไร จะมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวนั่นก็คือมีลักษณะเป็นหนามเล็กๆ เมื่อสอดใส่ไหมเข้าไปในใต้ชั้นผิว จะใช้เข็มนำแล้วดึงไหมหนามเล็กๆ เหล่านี้ ซึ่งไหมหนามจะมีการแผ่ออกมาและในทิศทางที่เราดึงไหมผล คือผิวบริเวณนั้นจะตึงและกระชับขึ้น

ข้อดีของการใช้วิธีนี้ คือ ใช้เวลาในการทำค่อนข้างสั้นและเห็นผลของความตึงของผิวทันที โดยที่ไม่มีรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด อีกทั้งไม่จำเป็นต้องดูแลพิเศษ แต่ในคนไข้ที่ยังหย่อนยานไม่มากเท่านั้น แต่ข้อเสียของวิธีนี้ คือ ไม่สามารถใช้ในคนที่หย่อนยานมาก เพราะหนามของเส้นไหมจะไม่สามารถเกี่ยวเนื้อเยื่อได้ดีมากเท่าที่ควร อย่างไรก็ดี คนไข้ที่สูงวัยจำนวนมาก อยู่ในกรณีที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงและไม่เหมาะที่จะเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ก็อาจจะใช้ไหมซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้

2.การรักษาในกลุ่มของ Treatment RF-Radio Frequency, Cell Rejuvenation

กระตุ้นเซลล์ให้สามารถทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้ได้เห็นผลกับริ้วรอยเหี่ยวย่นที่ไม่มากนัก และต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง

3.การใช้อัลตร้าซาวด์ขั้นสูงที่ใช้รักษาแทนการผ่าตัด

คือ Ulthera จะส่งคลื่น Focused Ultrasound เน้นการออกฤทธิ์ในส่วนของชั้นหนังแท้และลึก เกิดการหดตัวและกระชับขึ้นส่งผลให้ผิวคืนรูปได้ดีขึ้น อยู่ได้ประมาณ 2 ปี

4.การฉีดสาร Botulinum toxin

ช่วยรักษารอยย่นบริเวณคิ้วหน้าผาก และกรอบของใบหน้าเพื่อให้กระชับขึ้น และสามารถเติมเต็ม (Filler) สำหรับเติมเต็มบริเวณริ้วรอยลึกบริเวณร่องแก้ม เบ้าตา อยู่ได้ประมาณ 8-10 เดือน  ต้องทำการฉีดเติมเต็มใหม่ ท้งนี้ความหย่อนคล้อยของผิวในระดับที่มาก ริ้วรอยเหี่ยวย่นค่อนข้างชัดเจนทั้งใบหน้ารวมไปถึงลำคอ ส่วนใหญ่เกิดกับอายุ 40 ปีขึ้นไปนั้น การรักษาที่ได้ผลดีมากระยะยาว

ในปัจจุบันคือเทคนิคการดึงหน้าแบบใหม่มินิ เฟซ ลิฟต์ (Mini Face Lift) ต่างจากการผ่าตัดดึงหน้าสมัยก่อนที่ต้องทำทั้งใบหน้า Total Face Lift เป็นผ่าตัดใหญ่ ค่อนข้างยุ่งยาก ต้องมีการระบายน้ำเหลืองหลังผ่าตัด เป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องพักฟื้นนานประมาณ 2-3 เดือน และมีแผลค่อนข้างใหญ่หลังการผ่าตัดอีกด้วย

ศัลยกรรมดึงหน้า มีวัตถุประสงค์ของการยกกระชับใบหน้าและลำคอ คือเพื่อลดริ้วรอยแห่งวัยที่เกิดขึ้น และเห็นได้ชัดเจนทั้งที่ใบหน้าและลำคอ โดยศัลยแพทย์จะกำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง ดึงกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวให้กระชับ ตึง ผิวหนังให้ตึงขึ้น การผ่าตัดแบบนี้สามารถทำควบคู่ไปกับศัลยกรรมแบบอื่นได้ ได้แก่ การยกกระชับ ดึงหน้าผากและคิ้ว ศัลยกรรมแก้ไขหนังตาตก ทำตาสองชั้น ดูดไขมันใต้ผิวหน้า และศัลยกรรมเสริมคางและตกแต่งรูปร่างของจมูก ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมาพบว่า การทำศัลยกรรมดึงหน้ากำลังเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นทั้งในผู้หญิงและชาย โดยส่วนมากจะมีอายุตั้งแต่ 40 ปี ขึ้นไป

พญ.ดารินทร์ ม่วงไทย

ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมตกแต่ง

The Sib Beauty Clinic