Haijai.com


การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนสามารแก้ได้หรือไม่


 
เปิดอ่าน 1669

การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนสามารแก้ได้หรือไม่

 

 

Q : ได้อ่านรีวิวการเสริมจมูกจากอินเตอร์เน็ตมามากมาย จนวันหนึ่ง ผมได้มีโอกาสไปเสริมจมูกด้วยซิลิโคนกับสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งผ่านมาได้เกือบ 6 เดือนแล้ว สิ่งที่สังเกตเห็นนั่นก็คือ จมูกผมเบี้ยวครับ และดูแข็งไม่เป็นธรรมชาติ ผมเลยอยากปรึกษาคุณหมอว่า การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนสามารถแก้ได้ใหม่หรือไม่ครับ แล้วถ้าแก้คราวนี้ อยากได้จมูกทรงหยดน้ำที่กำลังเป็นที่นิยมได้หรือไม่ครับ หรือต้องฉีดเสริมเพื่อให้ได้รูปทรงที่เข้าที่มากขึ้นครับ

 

 

A : สามารถแก้ไขใหม่ได้เลยครับ และสามารถทำทรงหยดน้ำได้ด้วย การเสริมจมูกมีการใช้วัสดุหลายชนิด มีทั้ง Autologous demis graft (เนื้อเยื่อจากตัวคนไข้เอง) เช่น กระดูกอ่อน ไขมัน หรือจากสารสังเคราะห์ เช่น ซิลิโคน GORE-TEX เป็นต้น สำหรับคนเอเชีย การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเป็นที่นิยมทำกันมากที่สุด เนื่องจากให้ผลลัพธ์ออกมาดี คือ สามารถเหลาและปรับรูปตามความต้องการได้ง่าย รวมไปถึงภาวะแทรกซ้อนมีไม่มาก ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความชำนาญและความถนัดของแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้วย

 

 

ข้อดีของซิลิโคนแท่ง คือ สามารถควบคุมรูปร่างได้ดี และมีเรื่องของบาดแผลจากการผ่าตัดน้อย ไม่มีการยุบสลายหรือถูกดูดซึมไป ซึ่งซิลิโคนก็มีหลายชนิด หลายคุณภาพ ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ ส่วนข้อกังวลต่อภาวะแทรกซ้อนนั้นอาจเกิดขึ้นได้ เช่น ติดเชื้อ เขียว เบี้ยว เคลื่อนที่ หรือเกิดการทะลุ ซึ่งถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่แย่ที่สุดครับ สำหรับในกรณีที่ถามมา สามารถแก้ไขได้ และปรับรูปทรงให้เป็นไปตามความนิยมได้ครับ แต่ก็ต้องควรเข้ามาให้แพทย์ตรวจและวางแผนการรักษา ในส่วนของวิธีการอื่น ในเรื่องของการฉีดนั้น อาจจะอยู่ในกลุ่มที่เป็นองค์ประกอบของผิวหนัง เช่น กลุ่ม Hyalulonic acid, Collagen ซึ่งสารพวกนี้จะถูกดูดซึมจนหมดในระยะเวลาหนึ่ง เฉลี่ยประมาณ 6 เดือน และไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการแพ้เกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าหากมีเรื่องของผลข้างเคียงการแก้ไขจะเป็นไปอย่างลำบาก เพราะจริงๆ แล้วสารเหล่านี้ก็ไม่ได้ถูกออกแบบมา เพื่อนำมาใช้เสริมจมูกครับ ทางที่ดีคือเข้าพบแพทย์แล้วให้แพทย์ตรวจพิจารณาในการรักษาหรือแก้ไขต่อไปจะดีที่สุดครับ

 

 

นพ.ธนวรรฒน์ โชติมา

ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมความงาม

TNC (ทีเอ็นซี คลินิก)

(Some images used under license from Shutterstock.com.)