ช่วยอย่างไรเมื่อลูกจมน้ำ ปฐมพยาบาลเด็กจมน้ำ

จอมซน จมน้ำซะแล้ว

วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง เดือนนี้มีวันลอยกระทง เดือนที่ขึ้นชื่อว่า น้ำท่าน่าเล่นอีกเดือนหนึ่ง หลังจากที่ผ่านหน้ามรสุมมาแล้ว แต่สิ่งที่ต้องระวังในช่วงนี้คือ เด็กๆ กับน้ำ ซึ่งลับหูลับตาผู้ใหญ่ทีไรเป็นได้มีเรื่องทุกที

ปลอดภัยก่อนเล่นน้ำ

• ผู้ใหญ่ควรอยู่ด้วยเสมอเมื่อเด็กๆ ต้องเล่นน้ำ และแม้จะว่ายน้ำเป็นก็ควรมีห่วงยางติดไว้ใกล้ๆ ตัวเสมอ

• เด็กๆ ที่มีโรคประจำตัวจะต้องระวัง เช่น โรคทางด้านหัวใจ หอบหืด เพราะเวลาเล่นน้ำแล้วโรคเหล่านี้อาจแสดงอาการออกมาได้ และอาจจะทำให้เด็กที่เป็นโรคนี้จมน้ำ

• สระว่ายน้ำ ควรมีความปลอดภัย พื้นรอบสระจะต้องไม่ลื่นซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายจากการลื่นล้มได้ด้วย

• ก่อนเล่นน้ำเด็กๆ ที่เพิ่งทานอาหารอิ่มมาใหม่ๆ  ควรรอให้ย่อยอาหารเสียก่อน เพราะการว่ายน้ำในขณะที่ท้องอิ่มมากๆ นั้นจะทำให้ จุกเสียดและเป็นตะคริวได้

ช่วยอย่างไรเมื่อลูกจมน้ำ

เด็กๆ ที่จมน้ำ หลังจากที่ช่วยขึ้นมาจากน้ำได้ ควรสังเกตดูการหายใจของลูก ไม่ควรอุ้มเด็กพาดบ่าแล้วกระทุ้งเพื่อหวังจะให้น้ำออก อาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อเด็กได้ เมื่อสังเกตการหายใจของลูกแล้วพบว่า เด็กยังหายใจเองให้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย จากนั้นนำส่งโรงพยาบาล

ปฐมพยาบาลเด็กจมน้ำ

ส่วนเด็กที่หลังจากที่ช่วยขึ้นมาแล้วอาการหนัก หยุดหายใจ ให้เรียกผู้ที่เชี่ยวชาญมาให้ความช่วยเหลือ หรือหากจะทำเองให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

• ให้เด็กนอนราบ กดหน้าผากลงและเชยคางขึ้นเบาๆ เพื่อเปิดทางเดินหายใจ

• จากนั้นช่วยเหลือการหายใจ ด้วยการประกบปาก ในเด็กเล็กต่ำกว่า 1 ขวบ ให้ประกบปากครอบทั้งจมูกและปาก

• เป่าลมหายใจออกสองครั้ง โดยแต่ละครั้งให้ยาว 1 – 2 วินาที  ให้หน้าอกขยายตามการเป่าลม

• ถ้าเด็กยังไม่หายใจแต่ชีพจรยังเต้นอยู่ ให้ช่วยด้วยการเป่าลมอย่างเดียว เป่า 1 ครั้งต่อ 3 วินาที

• เมื่อเด็กรู้สึกตัวแล้วให้อบอุ่นร่างกายแล้วนำส่งโรงพยาบาล

การปฐมพยาบาลคนจมน้ำนั้น โดยส่วนใหญ่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญจึงจะทำได้ถูกต้อง เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่จำเป็นจะต้องเรียนรู้ การปฐมพยาบาลเอาไว้ในเบื้องต้น ก็จะสามารถช่วยชีวิตลูกเอาไว้ได้ทันท่วงที

Tim Possible