
© 2017 Copyright - Haijai.com
อารมณ์ดี ช่วยให้ลดน้ำหนักง่ายขึ้น
เรื่องการลดน้ำหนักกับผู้หญิงดูเหมือนจะเป็นเรื่องคู่กันมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว ทั้งที่หลักการในการลดน้ำหนักมีเพียงอย่างเดียวคือ การสมดุลกันระหว่างการบริโภคกับการนำไปใช้เผาผลาญเป็นพลังงาน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าการลดน้ำหนักที่ดือไม่ควรกินอะไรมาก เพราะร่างกายจะได้ไม่มีอะไรเข้าไปสะสม และจากการที่มีความเชื่อเรื่องการลดน้ำหนักแบบผิดๆ นี่เอง ที่ทำให้การลดความอ้วนก่อให้เกิดปัญหาลุกลามไปถึงสภาวะทางจิตใจด้วย
เคยสังเกตตัวเองหรือคนใกล้ตัวกันบ้างไหม ว่าเวลาที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็ทำให้สมองของเราประมวลผลออกมา เป็นความรู้สึกนึกคิดในด้านลบมากกว่าด้านบวกเสียอีก เช่น หงุดหงิด วิตกกังวล ใจร้อน กระวนกระวาย โดยเฉพาะเพศหญิงที่มีพื้นฐานกลไกในร่างกายซับซ้อนกว่าเพศชาย สิ่งหนึ่งเป็นเพราะฮอร์โมนเพศ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงเรามักจะรู้สึกว่าตัวเองอ้วน และน่าเกลียดอยู่ตลอดเวลาขณะที่ผู้ชายมักรู้สึกว่าตัวเองหล่อและรูปร่างดี ส่วนหนึ่งมาจากพื้นฐานทางจิตวิทยาด้าน Self-Esteem หรือการเคารพตัวเองที่ผู้หญิงมักจะมีความมั่นใจในตัวเองต่ำกว่าผู้ชายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อรู้สึกว่าร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ก็นำไปสู่ความเครียดและมักจะมีอารมณ์ร้ายเห็นได้ชัด คือ อารมณ์ของผู้หญิงในช่วงที่ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมนเพศ เช่น ตั้งครรภ์ เป็นต้น
ใครที่เคยทรมานตัวเองด้วยการอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก ย่อมต้องเคยผ่านช่วงเวลาที่อารมณ์แปรปรวนและมีอาการโมโหร้ายกันบ้าง ทั้งนี้เป็นเพราะความคิดจากจิตใต้สำนึกเป็นตัวไปกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ในแง่ลบนั่นเอง หากใครนึกภาพไม่ออกให้นึกถึงอาการของคนมีความเครียด แล้วชดเชยด้วยการกินอาหารเข้าไปทีละมากๆ เมื่อมารู้สึกตัวเองอีกทีก็พบว่าตัวเองน้ำหนักขึ้นจากการกินไม่หยุดเพราะเครียด ส่งผลให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดอย่างต่อเนื่องและพฤติกรรมด้านลบก็จะเวียนซ้ำไปมาในลักษณะนี้ ดังนั้นหนึ่งในวิธีการหยุดวงเวียนความอ้วนแบบไม่รู้จบได้โดยการควบคุมอารมณ์ตนเอง
ส่วนหนึ่งของการลดน้ำหนักที่เห็นผลไวก็คือ การควบคุมสภาวะจิตของตนเองไม่ให้คิดหมกมุ่นอยู่กับการกิน เรื่องเครียด เรื่องเศร้าหดหู่ หรือแม้แต่การส่องกระจกดูสัดส่วนตัวเองเป็นเวลานานๆ ควรเบี่ยงแบนความรู้สึกด้านลบด้วยการหันไปหาสิ่งบันเทิงเริงใจแทน เช่น การออกไปพบปะเพื่อนๆ ทำงานอดิเรกที่ชอบเป็นต้น ที่สำคัญคือเราต้องเปลี่ยนความคิดตัวเองให้ได้ก่อนว่า เรามีรูปร่างที่ไม่ได้ดูแย่ การเริ่มต้นคิดแบบนี้ ทำให้เราสามารถต่อยอดกำลังใจในการลดน้ำหนักได้อีกหลายวิธีตามมา
ตามทฤษฎีทางจิตวิทยาแล้วการเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองนั้น ประการแรกคือเราต้องเตือนสติตัวเองให้คิดเข้าข้างตัวเองให้ได้ก่อน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีถามคนอื่นเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองและ เมื่อได้คำตอบที่ไม่ดีนักก็จะเก็บกลับมากลุ้มใจ เกิดความรู้สึกอยากผอมเร็วๆ โดยการไดเอ็ทแบบหักดิบคืออดอาหาร ผลที่ตามมาคือร่างกายเกิดกระบวนการ การรับรู้ที่ไวมากกว่าจะไม่มีอะไรมาหล่อเลี้ยงร่างกาย ทำให้เมื่อร่างกายได้อาหารไปแล้วมื้อหนึ่ง อาการอยากอาหารก็จะเกิดตามมา เป็นเพราะร่างกายต้องการเอามาสะสมไว้แทนที่จะเอามาใช้ประโยชน์ไว้หล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ เมื่อระบบร่างกายรวนย่อมส่งผลกระทบถึงระบบประสาทและสมองที่คอยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากกินมากขึ้นเรื่อยๆ เกิดความรู้สึกหงุดหงิดเมื่อไม่ได้กิน ผลคือกลายเป็นคนอารมณ์แปรปรวน ขี้โมโห
กระบวนการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนบางชนิดก็มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึก ที่อาจกลายเป็นตัวการทำให้น้ำหนักเพิ่มง่ายขึ้น เช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอล ผลิตโดยต่อมหมวกไตและฮอร์โมนเพศหญิง มีผลการวิจัยหนึ่งพบว่า ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในเพศหญิงนั้น มีความซับซ้อนมากทีเดียว โดยเฉพาะในการเกิดอารมณ์เครียด ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนอะดรีนาลีนในระดับความดันโลหิตสูบฉีดอย่างรวดเร็ว เราจึงมีความอยากอาหาร กระบวนการทั้งหมดเป็นผลมาจากการที่ร่างกายอยู่ในช่วงเครียด วิตกกังวล ซึ่งในการสมดุลฮอร์โมนควรเลือกกินอาหารช่วยเพิ่มฮอร์โมนเลปตินหรือฮอร์โมนอิ่ม ก็จะช่วยลดระดับฮอร์โมนเครียดในร่างกายได้ ฮอร์โมนเลปติน (Leptin) คือฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างจากเซลล์ที่ทำหน้าที่สะสมไขมัน หลังจากสร้างแล้วก็จะไปออกฤทธิ์ที่สมองส่วนไฮโปธาลามัสกระตุ้นสมองให้รู้สึกอิ่ม
นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยอื่นที่พูดถึงประเด็นนี้ด้วย คือ ผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร International Jounal of Public Health เผยว่าผู้หญิงที่มีความสุขจะมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น ผลการวิจัยในอาสาสมัครเพศหญิงประมาณ 3,000 คน ติดตามผลตลอด 7 ปี พบว่าค่าดัชนีมวลกายของพวกเธอนั้น เพิ่มขึ้นแต่ยังคงอยู่ในระดับที่ปกติ มีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น มีเพิ่มขึ้นสูงอย่างผิดปกติและสัมพันธ์กับความรู้สึกไม่มีความสุขในชีวิต
ผลการวิจัยนี้แสดงถึงอิทธิพลการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวที่สัมพันธ์กับทางด้านจิตใจอย่างแท้จริง และค้นพบว่าการที่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นสูงสุดหรือลดลงต่ำสุดนั้น มีจิตใจเป็นตัวกำหนดและมีสถานการณ์แวดล้อมเป็นตัวกระตุ้นเสริมด้วย ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าเมื่อผู้หญิงเรารู้สึกมีความกดดันในชีวิตหรือรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิต พวกเธอจะระบายความอัดอั้นด้วยการกิน ขณะเดียวกันผู้หญิงที่ความสุขกับชีวิตดีจะถ่ายเทจิตใจไปทางออกกำลังกาย การนั่งสมาธิ ทำงานอดิเรก เป็นต้น เห็นได้ว่าหากเราสามารถบาลานซ์อารมณ์ให้อยู่ในระดับปกติและค่อนไปทางบวก เราก็จะสามารถลดน้ำหนักได้ง่ายกว่าที่คิด โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย
(Some images used under license from Shutterstock.com.)