
© 2017 Copyright - Haijai.com
รักแร้ดำ สัญญาณเตือนภัยจากร่างกาย
หลายคนอาจกำลังกลุ่มใจกับปัญหาใต้วงแขน ที่นอกจาเรื่องกลิ่นอันไม่พึงประสงค์แล้ว ยังมีปัญหาอรอยดำคล้ำที่อาจทำให้คุณรู้สึกขาดความมั่นใจ นอกจาปัญหาเรื่องความสวยงาม คุณทราบหรือไม่ว่าปัญหาผิวใต้วงแขนอาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงอีกด้วย
การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังบริเวณรักแร้อาจบ่งชี้ปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น พบปื้นหนาคล้ายผ้ากำมะหยี่สีดำบริเวณรักแร้ (acanthosis nigricans, AN) ในผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหาร การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังหนาและดำเกิดจากมีสารกระตุ้นการแบ่งตัวเซลล์ผิวหนังจากเซลล์มะเร็ง ผื่นรอยดำลักษณะนี้จะกระจายเหมือนกันทั้งสองด้านของร่างกาย บริเวณรัแร้ ด้านข้างคอ ขาหนีบ ข้อพับแขนขา ในรายที่มีมะเร็งแอบแฝงรอยผื่นจะกระจายเป็นบริเวณกว้าง อาจพบผื่นลามเข้าในเยื่อบุตา ผื่นหนาของริมฝีปากลามเข้าในช่องปาก บางรายมีผื่นหนาที่ฝ่ามือฝ่าเท้าร่วมด้วย รอยผื่นอาจเป็นอาการนำมาพบแพทย์ โดยพบในเพศชายเท่ากับเพศหญิง มะเร้งส่วนใหญ่เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารชนิด adenocarcinoma ส่วนมะเร็งอื่นที่อาจพบร่วม ได้แก่ มะเร็งหลอดอาหาร ปอดทวารหนัก ทางเดินปัสสาวะ ท่อน้ำดี และต่อมไทรอยด์ อาการผื่นอาจนำก่อนพบมะเร็งนาน 5 ปี แต่โดยทั่วไปมักพบในเวลาใกล้เคียงกัน และเมื่อรักษามะเร็งดีขึ้น ผื่นจะจางหาย
นอกจากนี้ยังพบรอยผื่นดำลักษณะนี้ได้ในโรคผิวหนังชนิดถ่ายทอดทางพันธุกรรม ที่พบบ่อยคือโรคความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ ได้แก่ โรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 และโรคอ้วน ซึ่งจะมีระดับอินซูลินและสารต่อต้านอินซูลินในเลือดสูง สารินซูลินจะกระตุ้นสารที่ทำให้เซลล์ผิวหนังและเซลล์ไฟโบรบลาสต์บริเวณผื่นแบ่งตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นการเกิดรอยผื่นดำจึงอาจเป็นอาการนำก่อนพบความผิดปกติของระดับน้ำในร่างกาย
ปัจจุบันโรคอ้วนพบเพิ่มขึ้น เพราะปัญหาน้ำหนักเกิดระบาดไปทั่วโลก พบว่าผู้ป่วยโรคอ้วนรอยละ 74 มีรอยผื่นดำร่วมด้วย ในคลินิกผิวหนังก็พบผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาโรคผิวหนังมีโรคอ้วนร่วมเพิ่มขึ้น และเมื่อตรวจพบผื่นดำ แพทย์จะแนะนำการควบคุมน้ำหนัก เพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนที่จะตาม ผื่นดำในโรคเบาหวานและโรคอ้วนกระจายบบริเวณรักแร้ ด้านข้างคอ และโหนกคอ ถ้าผู้ป่วยสามารถลดน้ำหนักได้ รอยผื่นจะหายไป
ในผู้ป่วยที่มีปัญหารอยดำเฉพาะบริเวณรักแร้ ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น ซึ่งมีสารระงับเหงื่อกลุ่มสารส้ม สารฆ่าเชื้อ และกลิ่นหอมในปริมาณสูงเพื่อดับกลิ่น เมื่อทาผิวหนังบริเวณรักแร้ ซึ่งบอบบางทับซ้อนและอับชื้น อันเป็นปัจจัยช่วยเพิ่มการดูดซึม จึงก่อให้เกิดการระคายเคืองและยังกระตุ้น การสร้างสีผิวตามมา รอยดำมีผลทางใจเพราะแฟชั่นการแต่งกายนิยมเปิดเผยผิวส่วนนี้ หลายท่านไม่มีปัญหากลิ่นตัว แต่เมื่อเห็นการโฆษณาส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ในสื่อซ้ำซาก ถ้ามีความวิตกกังวล เกิดความไม่มั่นใจถ้าไม่ใช้ การใช้ผลิตภัณฑ์กันอย่างฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น จึงก่อให้เกิดปัญหารักแร้ดำตามมาให้แก้ไขต่อ
กลิ่นตัวเกิดจากเชื้อแบคทีเรียดิฟทีรอยด์ย่อยเหงื่อ เกิดสารมีกลิ่น โดยเฉพาะเหงื่อที่ขับมาจากต่อมกลิ่นอะโปครายจะได้สารซึ่งมีกลิ่นรุนแรงมาก ในบริเวณรักแร้มีต่อมเหงื่อขนาดโตกระจายหนาแน่น และบริเวณรักแร้ยังเป็นซอกผิวหนังที่ทับซ้อนทำให้เหงื่อและความร้อนระบายออกไม่ได้ ทำให้เกิดความอับชื้นและอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย รักแร้จึงกลายเป็นแหล่งสร้างกลิ่นตัวหลัก
การกำจัดกลิ่นตัวต้องลดเหงื่อและจำนวนแบคทีเรีย จากการศึกษาพบว่าการทาสารกลุ่มสารส้มจะเกิดการอุดตันของท่อเหงื่อ ซึ่งการทาเพียงครั้งเดียว สามารถลดการสร้างเหงื่อได้นาน 2-3 สัปดาห์ ส่วนเชื้อดิฟทีรอยด์ก็เป็นเชื้อที่ไวต่อยาฆ่าเชื้อ สารสำคัญในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นคือสารกลุ่มสารส้มและยาฆ่าเชื้อเท่านั้น ส่วนน้ำหอมเป็นส่วนเกินและเป็นสารหลักที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง กระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้สัมผัสและกระตุ้นการสร้างสีสผิว พบว่าผลิตภัณฑ์นี้เป็นต้นเหตุสำคัญของการแพ้น้ำหอม
ดังนั้นถ้าชอบความหอมควรทาน้ำหอมในบริเวณอื่น การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นควรแก้ปัญหาตามเหตุ ในกรณีมีกลิ่นตัวและเกิดรอยดำบริเวณที่ทา ถ้าเหงื่อออกมาก ควรใช้สารกลุ่มสารส้ม ถ้าเหงื่อไม่มากให้ใช้แค่สารฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์โพวิโดน ไอโอดีน แต่ถ้ายังมีกลิ่นตัวอีกจึงใช้ชนิดผสม ควรปรับความถี่ของการทาให้ห่างเพื่อลดปริมาณสารสะสม จะช่วยให้ผิวรักแร้ขาวดังเดิม
รศ.พญ.พรทิพย์ ภูวบัณฑิตสิน
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง
(Some images used under license from Shutterstock.com.)