Haijai.com


คอลลาเจน เข้าใจก่อนใช้


 
เปิดอ่าน 5015

คอลลาเจน เข้าใจก่อนใช้

 

 

ทกวันนี้ท่านผู้อ่านคงได้ทราบจากสื่อโฆษณาต่างๆ ว่าคอลลาเจนสามารถบำรุงผิวหนังและลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส และหาซื้อได้ในรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆ แต่ท่านอาจสงสัยว่า คอลลาเจนคืออะไร ใช้แล้วจะได้ผลหรือไม่ และมีข้อควรระวังในการใช้อย่างไรอย่างกระนั้นเลย ขอเชิญท่านติดตามเรามาทำความรู้จักกับคอลลาเจนกันก่อน

 

 

คอลลาเจนคืออะไร?

 

คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่ง มีหน้าที่เสริมความแข็งแรงให้กับเนื้อเยื่อของร่างกาย คอลลาเจนมีอยู่ในผิวหนัง กระดูก กระดูกอ่อน หลอดเลือด ทำให้เนื้อเยื่อแข็งแรงไม่ยุบบุ๋ม ร่างกายมีคอลลาเจนอยู่ไม่น้อย โดยพบว่ามีปริมาณคอลลาเจนถึงหนึ่งในสามของปริมาณโปรตีนที่มีทั้งหมดในร่างกาย และมีมากที่สุดที่ผิดหนัง

 

 

ในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น ร่างกายจะสังเคราะห์คอลลาเจนอย่างเต็มที่สมบูรณ์ แต่เมื่อมีอายุมากขึ้นร่างกายจะสร้างคอลลาเจนได้ลดลง ยิ่งอายุมากขึ้นปริมาณคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างได้ยิ่งน้อยลง จึงเห็นเสมอว่าเด็กและหนุ่มสาวมีผิวหนังที่เต่งตึง แต่ผู้สูงอายุมีผิวหนังที่เหี่ยวย่น เห็นเป็นริ้วรอย

 

 

ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้อย่างไร?

 

ตามธรรมชาติร่างกายจะสร้างคอลลาเจนได้ด้วยตัวเอง โดยร่างกายจะนำกรดอะมิโน ซึ่งเป็นสารประเภทโปรตีนที่ร่างกายรับเข้าไปเป็นสารตั้งต้น มาเรียงต่อกันและเชื่อมกันเป็นสาย ร่วมกับการทำงานของสารประเภทโคแฟคเตอร์ในร่างกาย เช่น กรดวิตามินซี สังกะสี แมงกานีส เหล็ก กรดวิตามินเอ ได้เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเป็นสายเปปไทด์ 3 สายพันกันเป็นเกลียวคล้ายเชือก 3 เส้นพันกัน

 

 

การที่รับประทานคอลลาเจนเข้าไปโดยตรงหรือทาที่ผิวหนังจะมีประโยชน์หรือไม่?

 

คอลลาเจนเองก็เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง เมื่อรับประทานเข้าไปไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบยาเม็ด ยาผงละลายน้ำดื่ม หรือผสมในอาหารเสริมชนิดต่างๆ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจำเป็นต้องผ่านกระบวนการย่อยก่อน โปรตีนทุกชนิดจะถูกเอนไซม์หลายชนิดในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กย่อยสลาย จากโปรตีนที่เป็นสายยาวจะถูกเอนไซม์ตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เหลือเพียงหน่วยย่อยที่เล็กที่สุด คือ กรดอะมิโนแล้วร่างกายจึงดูดซึมกรดอะมิโน เพื่อนำไปประกอบกันขึ้นใหม่ เป็นโปรตีนที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้รวมทั้งคอลลาเจน ดังนั้นคอลลาเจนที่รับประทานเข้าไป จึงไม่สามารถถูกดูดซึมไปทั้งเส้นแล้วตรงไปอยู่ที่ผิวหนัง หรือกล่าวได้ว่าคอลลาเจนที่รับประทานเข้าไปไม่เหลือคุณสมบัติของคอลลาเจนอีกต่อไป

 

 

คอลลาเจนชนิดที่ทาผิวก็เช่นกัน จะไม่สามารถตรงเข้าไปอยู่ใต้ผิวหนังแล้วทำให้ผิวหนังเต่งขึ้น และด้วยความที่คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่เป็นสายเปปไทด์ 3 สายพันกัน ถือเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ที่ผิวหนังไม่สามารถดูดซึมได้

 

 

คอลลาเจนมีคุณค่าทางอาหารมากน้อยแค่ไหนเมื่อรับประทาน ?

 

คุณค่าที่ได้จากการรับประทานคอลลาเจนนั้น แทบจะไม่มีเลย หากเปรียบเทียบกับคุณค่าที่ได้จากการรับประทานโปรตีนชนิดอื่นๆ การพิจารณาคุณค่าของโปรตีนนั้น พิจารณาจากชนิดและปริมาณกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายที่มีอยู่ในโปรตีนนั้น

 

 

กรดอะมิโนมีทั้งหมด 20 ชนิด ในจำนวนนี้มี 8 ชนิด ที่เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้ หรือร่างกายสังเคราะห์ได้แต่ไม่เพียงพอ ร่างกายจึงต้องรับกรดอะมิโนจากภายนอกเข้าไป เช่น โดยการรับประทานอาหารเรียกกรดอะมิโนกลุ่มนี้ว่า กรดอะมิโนจำเป็น ซึ่งได้แก่ ไอโซลูซีน ลูซีน ไลซีน เมทไธไอนีน เฟนนิลอลานีน ทริโอนีน ทริปโตเฟน และวาลีน

 

 

องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดค่า Protein Digestibility Corrected Amino Acid Score (PDCAAS) เพื่อใช้ระบุถึงคุณค่าของโปรตีนต่อร่างกาย โดยประเมินจากสัดส่วนและปริมาณกรดอะมิโนที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ ตัวอย่างเช่น โปรตีนในนม (เคซีน) โปรตีนไข่ขาว และโปรตีนถั่วมีค่า PDCAAS 1.0 ซึ่งเป็นค่าสูงสุด แสดงว่าร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด เนื้อวัวมีค่า 0.92 เนื้อไก่ 0.71 ประโยชน์ที่ได้ก็ลดหลั่นลงไป เป็นต้น

 

 

คอลลาเจนมีค่า PDCAAS ต่ำมาก มีค่าใกล้กับ 0 ทั้งนี้เพราะกรดอะมิโนส่วนใหญ่ในคอลลาเจนเป็นกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็น เช่น ไกลซีน อะลานีน และโพรลีน ร่างกายสามารถสร้างได้เอง เพียง 3 ชนิดนี้รวมกันก็มากกว่า 50% ขององค์ประกอบคอลลาเจนแล้ว และยังไม่มีกรดอะมิโนทริปโตแฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นอีกด้วย

 

 

ประโยชน์ของคอลลาเจนมีอะไรบ้าง?

 

คอลลาเจนมีประโยชน์ทางการแพทย์ มีการใช้งานอย่างกว้างขวางในวงการศัลยกรรมความงาม ศัลยกรรมกระดูก การจัดฟัน และวงการศัลยกรรมทั่วไป เนื่องจากแผ่นคอลลาเจนเป็นวัสดุที่เหนียว ยืดหยุ่น และอุ้มน้ำได้ดีเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับใช้ปิดปากแผล ใช้เป็นลิ้นหัวใจเทียม ใช้เป็นส่วนประกอบของผิวหนังสังเคราะห์ ที่ใช้ในผู้ป่วยที่ผิวหนังหลุดลอก เนื่องจากอุบัติเหตุไฟไหม้ในอุตสาหกรรมอาหารใช้คอลลาเจนในการเพิ่มเนื้อสัมผัส โดยใช้คอลลาเจนที่ผ่านความร้อนเป็นเวลานานจนโปรตีนเสียสภาพ หรือที่เรียกว่า “เจลลาติน” นั่นเอง

 

 

อาการไม่พึงประสงค์จากการรับประทนคอลลาเจน มีหรือไม่?

 

คอลลาเจนสามารถก่ออาการไม่พึงประสงค์ได้ โดยมีทั้งที่เกิดจากคอลลาเจนเอง และเกิดจากกระบวนการผลิตเท่าที่มีรายงาน ได้แก่

 

 

 อาการแพ้ รับประทานคอลลาเจนแล้วอาจมีอาการแพ้ได้ เช่น รู้สึกคลื่นไส้ อยากจะอาเจียน บางคนอาจมีอาการแพ้รุนแรง เกิดผื่นผิวหนัง แน่นหน้าอกจากหลอดลมตีบ หายใจไม่ออก ยิ่งคนที่แพ้อาหารทะเล หากรับประทานคอลลาเจนที่สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก ก็จะเกิดอาการแพ้รุนแรงกว่าคนอื่น ดังนั้น คนที่มีโรคประจำตัว หรือแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยง

 

 

 สารปนเปื้อนจากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานก็ก่ออันตรายได้ แม้แต่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็อาจก่ออันตรายได้ จากสารปนเปื้อนในกระบวนการผลิตคอลลาเจน หากมีการใส่สารที่ทำให้ผิวขาวใสไปด้วย ก็อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายเพิ่มขึ้นไปอีก ยิ่งถ้าใช้หลายๆ ผลิตภัณฑ์ก็จะเกิดอันตรายจากากรได้รับสารปนเปื้อนเหล่านั้นในปริมาณที่มากเกิน กลายเป็นสารพิษสะสม ไตทำงานหนักในการกำจัด และมีโอกาสทำให้เกิดภาวะไตวายได้

 

 

สำหรับผู้ที่อยากมีผิวหนังเต่งตึงไม่เหี่ยวย่น ขอแนะนำวิธีที่ทำได้ด้วยตนเอง กล่าวคือ รับประทานอาหารที่มีสารต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ได้แก่ เบตาแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี สารอาหารเหล่านี้มีในผัก ผลไม้ บีทรูท แครอท ฟักทอง กล้วยน้ำว้า ดื่มน้ำสะอาดให้มากพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ และออกกำลังสม่ำเสมอควบคู่กันไป ละเว้นจากเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมไม่สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงสภาวะที่มีฝุ่นและควันพิษต่างๆ รวมทั้งแสงแดดจัดๆ ในช่วงเวลา 9.30 – 15.00 น. ซึ่งจะทำลายผิว

 

 

ภก.สัณห์ อภัยสวัสดิ์

(Some images used under license from Shutterstock.com.)