แลดูอ่อนกว่าวัยด้วยการนั่งสมาธิ

แลดูอ่อนกว่าวัยได้ด้วยการนั่งสมาธิ

สำหรับชาวพุทธแล้ว การนั่งสมาธิถือเป็นการเจริญสติภาวนาเป็นการกระทำที่ทำให้ได้บุญ แต่สำหรับชาวตะวันตกแล้ว การทำสมาธิถือเป็นหนึ่งในวิธีช่วยชะลอวัยที่ได้ผลมากกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใดๆ ถึงขั้นมีผลการวิจัยออกมารองรับเป็นเรื่องเป็นราวทีเดียว ถึงแม้ว่าผลของการนั่งสมาธิช่วยคืนความอ่อนวัยให้เราได้ก็ตาม แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยากทีเดียว

ผลการวิจัยเผยว่าขั้นตอนพื้นฐานในการจัดการความเครียดก็คือการทำสมาธิ จากผลการวิจัยในสหรัฐเผยว่าชาวอเมริกันวัยทำงานกว่าครึ่งหนึ่งของอัตราประชากรในประเทศ ใช้วิธีนั่งสมาธิช่วยการจัดการปัญหาใหญ่ๆ เพราะเชื่อว่า การทำสมาธิมีผลต่อระดับความนิ่งของจิตใจ ควบคุมความคิดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้แล้ว ก็จะมองเห็นทางออกของการแก้ปัญหาที่นำใจสู่ความสบายใจ ในขณะเดียวกันชาวญี่ปุ่นก็เห็นพ้องกันว่า การนั่งสมาธิให้ประโยชน์ต่อทั้งร่างกายในระดับลงลึกถึงชั้นเซลล์ และให้ผลคือช่วยชะลอวัยได้ โดยมีผลการวิจัยเผยว่าการนั่งสมาธิต่อเนื่องเป็นประจำจะมีปฏิกิริยาสัมพันธ์กับระบบเซลล์ต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานเป็นปกติขึ้นเกิดกลไกทำงานของอวัยวะภายในตามช่วงเวลา ร่างกายจึงสะท้อนผลออกมาคือ ดูหนุ่มสาวอยู่เสมอ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยหากจะเห็นคนที่นั่งสมาธิเป็นประจำมีใบหน้าไร้ริ้วรอย สดใส เปล่งปลั่ง และดูอ่อนกว่าวัย โดยที่ไม่ต้องพึ่งครีมบำรุงเลยก็ได้

นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงใน International Journal of Neuroscience ช่วงกลางปี 1980 เผยว่า สภาพร่างกายของผู้ที่นั่งพบว่าให้ผลเชิงบวกที่ไม่แตกต่างกันมากนัก กล่าวคือ มีอัตราการการไหลเวียนโลหิต การมองเห็น การได้ยิน ความยืดหยุ่นของผิวของผู้ที่นั่งสมาธิ เปรียบได้กับวัยรุ่นอายุ 12 ปี สำหรับผู้ที่นั่งสมาธิมาเป็นเวลานานหลายปี และสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มนั่งสมาธิได้ไม่นาน จะมีค่าเฉลี่ยความยืดหยุ่นของผิวที่ดูอ่อนวัยขึ้นถึง 5 ปี สาเหตุเป็นเพราะการนั่งสมาธิสัมพันธ์กับกระบวนการทำงานของร่างกายให้กระตุ้นสร้างเอนไซม์ส่วนปลายของดีเอ็นเอที่ชื่อว่า Telomerase เป็นเอนไซม์ที่ช่วยต่อความยาวให้กับส่วนปลายของโครโมโซมที่ทำงานเกี่ยวข้องกับ การกระตุ้นการสังเคราะห์ดีเอ็นเอใหม่ที่นำไปสู่การชะลอวัย หรืออาจเรียกได้ว่า การนั่งสมาธิคือการเยียวยาดีเอ็นเอนั่นเอง ร่างกายจะทำการซ่อมแซมเซลล์ในระบบต่างๆ ของร้างกาย ทำให้เราดูหนุ่มสาวขึ้น เพราะไม่เกิดปัจจัยจากภาวะเสื่อมของเซลล์ในร่างกายนั่นเอง เช่น ระบบเผาผลาญไขมันช้า ริ้วรอย ผมหงอก รวมถึงสภาวะจิตใจ เช่น ความเครียด ความกังวล เป็นต้น