ข่มจิตใจด้วย สติ และสมาธิ (กิจกรรมสำหรับเด็กวัย 4-7 ปี)

หยุดอารมณ์(โกรธ) ข่มจิตใจด้วย “สติ และสมาธิ”

“ปริ๊น ปริ๊นๆๆ ขับรถปาดหน้าชาวบ้านจะรีบไปไหนกันคุณ และตามด้วยสารพัดคำ ที่พูดออกไปด้วยความโกรธ” หรือจะเรียกได้ว่าคำพูดที่ยกกันมาทั้งสวนสัตว์เลยก็ว่าได้ คุณพ่อคุณแม่เคยพูดคำบางคำด้วยอารมณ์โกรธ ในขณะที่ขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียนแล้วเกิดมีคนอื่นที่รีบมาก จนขับรถปาดหน้ารถของคุณพ่อคุณแม่ที่ขับมาพร้อมๆ กับมีลูกวัยกำลังช่างจดช่างจำนั่งอยู่ข้างๆ บ้างหรือไม่ค่ะ  

ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นนั่นแสดงให้เห็นว่า เรากำลังหลงลืมสิ่งที่สำคัญ และสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตของเรา และจำเป็นต่อชีวิตของลูกไปสิ่งหนึ่ง สิ่งที่เรียกว่า “สติ และสมาธิ” ในการจอจ่อขณะขับรถที่ต้องการไปส่งลูกที่โรงเรียนอย่างปลอดภัย ซึ่งถ้าหากคุณพ่อคุณแม่มีอารมณ์โกรธรถคันที่ขับรถปาดหน้าไป จนทำให้ขาดสมาธิในการขับรถ เพราะสมาธิในการขับรถถูกแทนที่ด้วยความโกรธนั้น ก็อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ขับรถอย่างขาดสติ และขับรถด้วยความประมาทจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ แต่ในทางกลับกันหากคุณพ่อคุณแม่คิดในทางบวกว่า รถคันนั้นอาจกำลังรีบพาคนเจ็บป่วยไปโรงพยาบาล และเห็นใจเขาด้วยการคิด และพูดในทางบวกแล้ว ลูกที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ ก็จะได้เรียนรู้และซึมซับทักษะที่จะรู้จักยกโทษให้คนอื่น มองคนอื่นในแง่ดี และรู้จักเห็นใจผู้อื่น จนสามารถทำจิตใจให้สงบ และสามารถควบคุมอารมณ์โกรธได้ พร้อมกับสามารถรักษาไว้ซึ่งสติ และสมาธิที่จะใช้ในการเรียนรู้ หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน

ในยุคที่เต็มไปด้วยความสับสน เต็มไปด้วยสิ่งล่อจิตใจ เต็มไปด้วยการแข่งขัน และเต็มไปด้วยสิ่งที่ลูกต้องเรียนรู้มากมายอย่างในยุคปัจจุบัน การมีสติ และสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังทำนั้น จึงเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ทำให้ลูกสามารถวางแผน และกำหนดเป้าหมายได้ว่า ในแต่ละวันลูกต้องทำอะไรบ้าง รวมไปถึงมีความแน่วแน่ที่จะจัดการกับปัญหา และอุปสรรคที่เข้ามา เมื่อเกิดปัญหาขึ้นลูกสามารถควบคุมอารมณ์โกรธ จนสามารถทำสิ่งที่ลูกตั้งเป้าหมายไว้ โดยไม่ล้มเลิกการความต้องการที่จะทำกิจกรรมนั้นให้สำเร็จ ซึ่งกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกสอนให้ลูกมีสติ มีสมาธิจดจ่ออยู่กับเป้าหมายที่ลูกตั้งใจไว้นั้น สามารถฝึกลูกด้วยการเล่นเกมสนุกๆ อย่าง “เกม อะไรน๊าที่หายไป”

ซึ่งมีวิธีการเล่น ดังนี้ค่ะ (กิจกรรมเหมาะสำหรับเด็กวัย 4-7 ปี)

1.คุณพ่อคุณแม่ลองหาสิ่งของที่ลูกเคยเห็น หรือใช้เป็นประจำที่อยู่ภายในบ้านมาสัก 10 อย่าง โดยสิ่งของที่ใช้เล่นนั้น จะต้องมีสิ่งของหลากหลายชนิดด้วยกัน เช่น ส้มผลโตสุดโปรดที่ลูกชอบทาน ตุ๊กตากระต่ายน้อยสีชมพูที่ลูกนอนกอดทุกวัน ชุดดินสอสีแท่งโต แก้วน้ำลายการ์ตูนแสนสวย เป็นต้น

2.เมื่อจัดวางสิ่งของเรียบร้อยแล้ว ให้ลูกมองสิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะสักครู่หนึ่ง หลังจากนั้นให้ลูกนั่งหันหลัง
(ห้ามไม่ให้ลูกแอบมองนะคะ เดี๋ยวหมดสนุกกันพอดี)

3.คุณพ่อคุณแม่ลองหยิบสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะออกไปสัก 1-2 ชิ้น

4.ให้ลูกหันกลับมา แล้วคุณพ่อคุณแม่ลองถามลูกว่า มีสิ่งของอะไรบ้างที่หายไปจากบนโต๊ะ

5.ให้ลูกบอกว่าสิ่งของอะไรที่หายไป ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยบอกลักษณะของสิ่งของที่หายไป เพื่อใบ้คำตอบให้แก่ลูกได้

6.หลังจากนั้นให้ลูกลองถามสลับกับคุณพ่อคุณแม่ดูบ้างว่าสิ่งของอะไรที่หายไป

7.ลองผลัดการทาย และสลับกันเล่นสัก 3 ครั้ง เพื่อแข่งขันกันว่า ใครที่สามารถจะบอกได้ถูกต้องมากกว่ากัน

8.ให้รางวัลชมเชยเมื่อลูกทายถูก

สิต และสมาธิ สามารถทำให้ลูกรักษาไว้ซึ่งอารมณ์ที่ปกติ และอารมณ์ที่งดงาม ซึ่งเป็นสภาวะที่จะช่วยให้ลูกสามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ โดยไม่ล้มเลิกลงอย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็น การเรียน การทำงาน และการทำกิจวัตรประจำวันในด้านต่างๆ และที่สำคัญ สติ และสมาธินำมาซึ่ง ชีวิต และจิตใจที่เป็นสุข