© 2017 Copyright - Haijai.com
วิธีการรักษาเชื้อราในช่องคลอด
1.หากมีตกขาว และมีกลุ่มอาการเสี่ยงว่าจะเป็นเชื้อในช่องคลอด ควรรีบไปปรึกษาสูตินรีแพทย์ ไม่ควรซื้อยามาใช้และรับประทานเองเด็ดขาด เพราะยาที่ซื้อมารับประทานเองอาจมีอันตรายต่อทารกในครรภ์
2.ควรสวมกางเกงชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้าย เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก บริเวณจุดซ่อนเร้นจะได้ไม่อับชื้น เพราะความอับชื้นเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดเชื้อราขึ้นได้คะ
3.ไม่ควรใช้แผ่นอนามัยทุกวัน หรือหากไม่จำเป็นต้องใช้ก็ไม่ควรแปะลงไปที่ตรงเป้ากางเกงชั้นในคะ เพราะยิ่งใส่แผ่นอนามัยจะยิ่งทำให้อากาศถ่ายเทได้ไม่สะดวก เชื้อโรคก็จะถูกหมักหมมอยู่ตรงบริเวณเป้ากางเกงชั้นในได้มากขึ้น
4.เวลาอาบน้ำชำระล้างร่างกาย ควรล้างทำความสะอาดบริเวณรอบๆ จุดซ่อนเร้นเฉพาะด้านนอกด้วยสบู่อ่อนๆ (ที่ไม่ส่วนผสมของน้ำหอม) และไม่ควรล้างเข้าไปด้านใน เพราะอาจทำให้จุดซ่อนเร้นระคายเคืองได้ (เพียงล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอแล้ว) ทุกครั้งที่มีการทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้น ควรเช็ดให้แห้งด้วยผ้าขนหนูนิ่มๆ และเช็ดแต่เบามือ ไม่ควรเช็ดถูด้วยความรุนแรง
5.เวลาอาบน้ำไม่ควรแช่ตัวในน้ำอุ่น เพราะเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของโรคเชื้อราในช่องคลอดจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอุณหภูมิที่อบอุ่น
6.ทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติทุกๆ วัน เพื่อเพิ่มแลคโตบาซิลลัสในช่องคลอด จะสามารถช่วยลดอัตราการเป็นเชื้อราในช่องคลอดได้
7.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เวลานอนไม่ควรสวมกางเกงให้รัดแน่นตรงบริเวณจุดซ่อนเร้นจนเกินไป
8.กรณีที่เป็นเชื้อราในช่องคลอด ควรงดการมีเพศสัมพันธ์
ประโยชน์มากมายจากโยเกิร์ต
คุณแม่ตั้งครรภ์ หากเกิดอาการท้องเสียขึ้นมาไม่ควรทานยาหยุดถ่ายนะคะเพราะยาหยุดถ่ายจะทำให้เกิดการกักเชื้อโรค ให้อยู่ในร่างกาย ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อร่างกายและระบบทางเดินอาหาร จึงควรปล่อยให้ร่างกายถ่ายของเสียออกไป จากนั้นให้ทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติ เวลาท้องเสียจะมีเชื้อแบคทีเรียไม่ดีอยู่ในลำไส้ ซึ่งสามารถจำกัดเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ได้ด้วยเชื้อจุลินทรีย์มีประโยชน์ที่มีอยู่ในโยเกิร์ตค่ะ เมื่อทานโยเกิร์ตเข้าไปจึงช่วยทำให้อาการท้องเสียของคุณแม่ทุเลาลง ทำให้ถ่ายน้อยลงค่ะ (เวลาท้องเสียร่างกายจะขาดน้ำมาก คุณแม่ควรดื่มน้ำเข้าไปชดเชยด้วยนะคะ จะดื่มเป็นเกลือแร่สำหรับอาการท้องเสียก็ได้คะ)
(Some images used under license from Shutterstock.com.)