
© 2017 Copyright - Haijai.com
โบท็อกซ์ เมื่อพิษจากหน่อไม้ปี๊บกลายเป็นความงาม
หลายคนคงเคยได้ยินข่าวผู้ป่วยได้รับพิษจากากรรับประทานหน่อไม้ปี๊บ โดยมีอาการท้องเสีย แขนขาอ่อนแรง หายใจลำบาก สาเหตุของอาการดังกล่าวมาจากพิษของเชื้อ Clostridium botulinum ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ในดินและในอาหารกระป๋องที่ผลิตอย่างไม่ถูกสุขลักษณะ สารพิษจากเชื้อนี้จะไปยับยั้งการปลดปล่อยสารสื่อประสาท acetylcholine ซึ่งมีบทบาทเกี่ยวกับการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้น
แม้ว่ามันจะเป็นพิษ แต่ด้วยความที่พิษจากเชื้อ ดังกล่าวหรือโบท็อกซ์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวได้ จึงสามารถนำมาช่วยรักษาริ้วรอยบนใบหน้า ซึ่งมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่กล้ามเนื้อหดตัวมากจนเกินไป แพทย์ที่ได้รับการฝึกฝนจนเชี่ยวชาญจะฉีดโบท็อกซ์ เข้ากล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับริ้วรอย การฉีดครั้งหนึ่งจะออกฤทธิ์ได้นานประมาณ 3-4 เดือน สำหรับการลดริ้วรอยบริเวณหว่างคิ้ว ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์ด้วยความถี่มากกว่า 3 เดือนต่อหนึ่งครั้ง เนื่องจากถ้าฉีดบ่อยเกินไป ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันมาขจัดการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ ทำให้ผลการรักษาไม่เป็นไปตามที่ต้องการ
โดยทั่วไปการฉีดโบท็อกซ์เพื่อความงามค่อนข้างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโบท็อกซ์เป็นสารพิษ ผู้ที่ปรารถนาความเป๊ะด้วยวิธีนี้จึงควรปรึกษาและรับการรักษาจากแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้น อาการข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์ ได้แก่ ปวดศีรษะ หนังตาตก มีการติดเชื้อและคลื่นไส้ ข้อห้ามของการฉีดโบท็อกซ์ ได้แก่ การตั้งครรภ์ การให้นมบุตร การป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อบางชนิด (เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้าย เป็นต้น) และการแพ้ส่วนประกอบอย่างใดอย่างหนึ่งของโบท็อก นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาฆ่าเชื้อในกลุ่มอะมิโนกลัยโคไซด์ (ได้แก่ อะมิคาซิน เจนตามัยซิน คานามัยซิน นิโอมัยซิน เป็นต้น) ระหว่างฉีดโบท็อกซ์ เนื่องจากยาในกลุ่มดังกล่าว จะเสริมฤทธิ์โบท็อกซ์จนเกิดความเป็นพิษได้
(Some images used under license from Shutterstock.com.)