© 2017 Copyright - Haijai.com
รู้ก่อนตัดสินใจ เทคนิคเสริมอกด้วยการฉีดสารเติมเต็ม
หากพูดถึงสัดส่วนอันนำมาซึ่งความเซ็กซี่ เย้ายวน ของผู้หญิงสิ่งแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้นบริเวณลำคอระหง ช่วงไหล่นวลเนียน ไล่ลงมาถึงทรวงอกกลมกลึงได้รูป ทั้งหมดนี้คือสัดส่วนในฝันที่สาวๆ อยากได้มาครอบครอง ครั้งนี้เราขอกล่าวถึงปัญหาหน้าอกหน้าใจที่ปัจจุบันมีหลากหลายตัวเลือกในวิทยาการทางการแพทย์ ที่พร้อมจะปั้นแต่งสิ่งที่คุณไม่มีให้เกิดขึ้นมาได้ หนึ่งในทางเลือกของการเสริมหน้าอกในปัจจุบันอันเป็นที่ถกเถียงกันมากคือ การเสริมหน้าอกด้วยสารเติมเต็ม (Filler) ซึ่งแม้ว่าจะเป็นที่สนใจ แต่ก็มีอีกหลากหลายข้อสงสัยที่ยังไม่ถูกทำให้กระจ่าง ในเล่มนี้เราจึงขอพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งตัวเลือกในการเสริมหน้าอก
Breast Augmentation & Hydrophilic Gel
ผู้หญิงและการมีรูปร่างที่สวยงามนั้นเป็นของคู่กัน ทั้งนี้นอกจากหน้าอกจะเป็นส่วนหนึ่งของรูปร่างที่เย้ายวนแล้วในแง่ที่ลึกลงไป หน้าอกยังแสดงถึงสัญลักษณ์ทางเพศหญิงและความเป็นแม่อีกด้วย เพราะเหตุนี้จึงไม่เป็นที่สนใจตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงวิธีการและวัสดุที่ใช้ในการเสริมยังคงได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง
นอกจากศัลยกรรมหน้าอกในลักษณะของการผ่าตัดเสริมซิลิโคนแล้ว ล่าสุดยังมีวิธีการเสริมหน้าอกด้วยการฉีดไขมันตัวเอง ซึ่งเป็นวิธีการดึงไขมันในร่างกายในส่วนอื่นของผู้เข้ารับการเสริมหน้าอก เพื่อนำมาฉีดในบริเวณหน้าอกในปริมาณที่ต้องการ ทั้งนี้นอกจากวิธีการดังกล่าว อีกหนึ่งวิธีการที่เป็นที่สนใจในช่วงระยะเวลานี้คือ การเสริมด้วยการฉีดสารเติมเต็ม ซึ่งสารเติมเต็มที่นำมาฉีดนั้นเรียกว่า Hydrophilic Gel เป็นสารลักษณะกึ่งถาวรที่ให้ผลลัพธ์ในระยะเวลาประมาณ 5-6 ปี ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล
ซึ่งประเภทของสารเติมเต็มแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่
• แบบชั่วคราว (Temporary Filler) จะมีอายุการใช้งาน 4-6 เดือน จากนั้นจะสลายตัวไปตามธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยสูง อาทิ สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid)
• แบบกึ่งถาวร (Semi Permanent Filler) จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี มีระดับความปลอดภัยปานกลาง
• แบบถาวร (Permanent Filler) เช่น ซิลิโคน หรือ พาราฟิน
ซึ่งเมื่อฉีดเข้าไปแล้วสารจะอยู่ในผิวหนังตลอดและมักมีผลข้างเคียง
โดยข้อควรระวังที่สำคัญของการเลือกฉีดสารเติมเต็ม ไม่ว่าจะกับส่วนใดๆ ก็ตามในร่างกาย ควรเลือกสารที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา รวมทั้งควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งความเสี่ยงที่เกิดจากาการฉีดสารจำพวกนี้ ส่วนใหญ่มาจากปัจจัยข้างต้น คือ ผู้เข้ารับบริการไม่ศึกษาข้อมูลอย่างครบถ้วน และละเลยการเข้ารับการรักษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
สำหรับ Hydrophilic Gel สารเติมเต็มชนิดกึ่งถาวรนี้นิยมใช้ในยุโรป เนื่องจากเมื่อฉีดไปแล้วจะมีอายุการคงที่อยู่ได้นานกว่า ซึ่งผิวหน้าของคนยุโรปและคนเอเชียต่างกัน เพราะคนยุโรปจะมีริ้วรอยและร่องลึกที่มีปัญหามากกว่าคนเอเชีย ทำให้ฟิลเลอร์ชนิดนี้นิยมมากที่สุด และผ่าน อย. และ CE ของยุโรป ซึ่งฟิลเลอร์ชนิดนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดด้วยกัน คือ สำหรับฉีดใบหน้าจะอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน และอีกชนิดคือ สำหรับฉีดหน้าอกและสะโพก จะอยู่ได้นานถึง 5-6 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละคน
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการเสริมหน้าอกด้วยสารเติมเต็ม
• ผู้เข้ารับการเสริมควรเข้าตรวจหน้าอกที่โรงพยาบาลด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์หรือแมมโมแกรม เพื่อยืนยันว่าไม่มีเนื้องอกหรือซีสต์ก่อนทำการรักษา
• หากมีโรคประจำตัวอื่นๆ ที่มีผลกับการฉีดสารเติมเต็ม ผู้เข้ารับการรักษาควรเข้าพบแพทย์ประจำหรืออาจมีหนังสือรับรองอนุญาตให้เสริมหน้าอกด้วย
• รวมถึงงดวิตามิน อาหารเสริม หรือยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือก เช่น แอสไพริน ก่อนทำการรักษา อย่างน้อย 1 สัปดาห์
• ก่อนการเข้ารับการเสริมหน้าอกผู้เข้ารับบริการควรเตรียมชั้นในขนาดที่พอดี กับขนาดหน้าอกที่ต้องการ เพื่อใส่ในตอนกลับบ้าน ลดการบีบอัดเป็นผลให้หน้าอกเสียรูป
ขั้นตอนในการเสริมหน้าอก
โดยทั่วไปแล้วรายละเอียดขั้นตอนจะมีลักษณะใกล้เคียงกับการฉีดสารเติมเต็มบริเวณใบหน้า แตกต่างกันที่แพทย์จำเป็นจะต้องมีความเพิ่มมากขึ้นทั้งในส่วนของปริมาณสารเติมเต็ม รวมถึงรูปทรงหน้าอกของผู้เข้ารับบริการ ซึ่งสามารถแข่งเป็นขั้นตอนต่างๆ ได้ ดังนี้
ขั้นตอนการตรวจเบื้องต้น
การตรวจประเมินการรักษาเบื้องต้น รวมถึงวางแผนการรักษาให้เหมาะสมลักษณะหน้าอกของคนไข้แต่ละคน พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้รับบริการ ซึ่งแม้ว่าการเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้ จะสามารถเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น ตามความต้องการของคนไข้ได้ แต่ในกรณีที่คนไข้ต้องการมีหน้าอกที่ใหญ่เกินไปกับขนาดตัว แพทย์จำเป็นต้องชี้แจงถึงความเหมาะสมในส่วนนี้
เข้าสู่ขั้นตอนการเสริม
• แพทย์จะทำการทายาชาที่หน้าอก และร่วมกับการฉีดยาชา 45 นาที
• เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการฉีดสารเติมเต็ม ซึ่งรวมระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยเริ่มจากการใช้เข็มฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณใต้ราวนม ค่อยๆ ฉีดสารในปริมาณที่เพิ่มขึ้นพรัอมกับการจัดแต่งรูปทรง ซึ่งในขณะฉีดแพทย์จะมีการให้คนไข้ลุกขึ้นมานั่งเป็นระยะ เพื่อดูขนาดหน้าอกและรูปทรงที่ต้องการ
• แพทย์จะทำการนวดคลึงหน้าอก จัดทรงให้สวยได้รูป เป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งหลังการฉีดผู้เข้ารับการเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้ สามารถกลับบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น
การดูแลตัวเองหลังการเสริมหน้าอก
การดูแลตัวเองโดยทั่วไปมีหลักการเดียวกันกับผู้เข้ารับการฉีดสารเติมเต็มในส่วนอื่นๆ ซึ่งผู้ที่เข้ารับการฉีดหน้าอกด้วยสารเติมเต็มควรปฏิบัติ ดังนี้
• ห้ามนอนราบเป็นระยะเวลา 3-4 ชั่วโมง หลังการฉีดเนื่องจากจำเป็นต้องให้สารเติมเต็มที่ฉีดเข้าไปนั้นเซตตัวในรูปทรงที่ต้องการ
• ไม่ควรเข้าห้องซาวน่า หรืออบไอน้ำในระยะแรกๆ ของการเสริมหน้าอก
• งดสัมผัสรุนแรงในช่วง 1 เดือนแรก เพื่อให้สารเติมเต็มเซตตัวได้รูปทรงที่สวยงามก่อน
• งดนอนคว่ำ 2 สัปดาห์
• ใส่ชุดชั้นในเพื่อประคองทรงตลอดเวลา อย่างน้อย 1 เดือน (งดใส่ชั้นในที่มีโครงลวด)
หากรู้สึกผิดปกติใดๆ ควรกลับมาพบแพทย์ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทั้งีน้ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำให้สารเติมเต็มที่ฉีดเสริมหน้าอกนั้นสลายช้า มีผลมาจากการที่สารไม่ได้สัมผัสความร้อนโดยตรง เนื่องจากถูกฉีดในส่วนที่มีผิวหนากว่า ต่างจากใบหน้าที่ต้องสัมผัสแสงแดดโดยตรง เช่นเดียวกันกับการนำสารเติมเต็มออก ซึ่งแพทย์จะใช้วิธีการสลายสารดังกล่าวด้วยคลื่น RF ร้อน ในกรณีที่ผู้เข้ารับบริการไม่พอใจรูปทรงหน้าอก รวมถึงต้องการเสริมหน้าอกด้วยการผ่าตัดเสริมซิลิโนแทน
ปริมาณการฉีดสารเติมเต็มนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการเรื่องขนาดหน้าอกของผู้เข้ารับบริการ ซึ่งตัวผู้เข้ารับบริการเองควรมีการประเมินความต้องการ ความเป็นไปได้ และความเหมาะสมมาก่อนแล้วในเบื้องต้น การฉีดสารเติมเต็มในปริมาณที่มากเกินไปจะส่งผลให้สารบดบังการตรวจหามะเร็งเต้านมได้ ทั้งนี้ยังส่งผลต่อการเลือกใส่เสื้อผ้า และส่งผลในด้านบุคลิกภาพอีกด้วย
โดยทั่วไปแล้วปริมาณสารเติมเต็มที่ฉีดจะเริ่มที่ปริมาณ 50 cc. ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เข้ารับบริการที่มีปัญหาหน้าอกย่อนคล้อย ต้องการเติมเต็มหน้าอกในบางส่วนให้ดูอวบอิ่ม ซึ่งอาจใช้ควบคู่ไปกับการร้อยไหมได้ และสำหรับผู้เข้ารับบริการที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกโดยตรง อาจเริ่มที่ปริมาณ 150 cc. – 300 cc. แล้วแต่ขนาดที่ต้องการและดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งแพทย์ก็อาจจะแนะนำวิธีอื่นๆ ที่ให้ผลใกล้เคียงกัน หรือส่งเสริมกับการฉีดสารเติมเต็ม
วิธีนี้เหมาะสำหรับใคร
การเสริมหน้าอกด้วยวิธีการฉีดสารเติมเต็มนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวการผ่าตัด ไม่ต้องการพักฟื้นนาน รวมถึงไม่ต้องการให้หน้าอกมีแผลเป็น การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดสารเติมเต็มนอกจากจะเห็นผลเร และได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติแล้ว ยังสามารถกลับมาปรับแก้ขนาดและรูปร่างได้หากผลลัพธ์ในการฉีดครั้งแรกไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ
ข้อเสีย
• ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะอยู่ได้แค่ 5-6 ปี ก็จะสลายไป เมื่อสลายไปก็ต้องมาฉีดใหม่ เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
• ยังเป็นนวัตกรรมที่ใหม่สำหรับเมืองไทย และการอบรวมต่างๆ ของการฉีดฟิลเลอร์ Hydrophilic Gel สำหรับหน้าอกและสะโพกก็ต้องไปอบรมที่ต่างประเทศ ซึ่งจะมีหมอศัลยกรรมที่มีความสามารถในเมืองไทยไม่กี่ท่านที่รู้เทคนิคการต่างๆ ของการฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าอกและสะโพก ซึ่งทำให้หาฉีดได้ยากตามคลินิกทั่วไป
• ราคาค่อนข้างแพง เหมาะสำหรับคนที่มีทุนทรัพย์
ข้อควรระวัง
ปัจจุบันมีสารเติมเต็มมากมายในท้องตลาด ทำให้ผู้เข้ารับบริการเอง ต้องมีการหาข้อมูลที่ครบถ้วน โดยปกติแล้วก็ฉีดสารใดๆ ที่ไม่เป็นธรรมชาติเข้าสู่ร่างกายย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ผู้เข้ารับบริการเองต้องเลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงต้องสอบถามอย่างละเอียดถึงกระบวนการ รวมถึงตัวยาที่ใช้ในการฉีดด้วย ทั้งนี้ อาจมีผลข้งาเคียงและอาการแทรกซ้อนจากการฉีด ได้แก่
• เกิดผื่นแดงบริเวณที่ฉีด
• เกิดรอยนูนมากที่ผิว
• เกิดการเคลื่อนย้ายของสารที่ฉีด ทำให้เกิดการผิดรูป
• เกิดการแพ้ ซึ่งอาจเกิดได้ตั้งแต่ภายหลังฉีดเสร็จแล้ว ถึงขั้นเป็นเดือนหรือเป็นปี
• เกิดการอุดตัน โดยการฉีดผิดตำแหน่ง เช่น การฉีดเข้าไปในเส้นเลือด ทำให้เกิดการอุดตันในเส้นเลือด หรือบางกรณีอาจรุนแรงถึงขั้นตาบอด (ในส่วนนี้อาจไม่มีความเกี่ยวข้อง เพราะฉีดในบริเวณหน้าอก) แม้ว่าสารที่ฉีดเองจะมีคุณสมบัติสลายไปได้ตามระยะเวลา แต่ผู้เข้ารับบริการควรตระหนักอยู่เสมอว่า ความเสี่ยงอาจเกิดขึ้นได้หากไม่อยู่ในดุลยพินิจและการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่มีระยะเวลาในการพักฟื้น รวมถึงไม่มีเวลาในการกายภาพบำบัดตามกระบวนการของการผ่าตัดซิลิโคน ซึ่งการเสริมหน้าอกด้วยวิธีการนี้ ผู้เข้ารับบริการต้องเข้าใจหลักการเบื้องต้นก่อนว่า การเปลี่ยนทรง กับการเปลี่ยนไซส์ นั้นแตกต่างกัน กล่าวคือประเมินความต้องการของตนเองก่อนว่าหน้าอกน้อย หรือหน้าอกย้อย วิธีการนี้จะเหมาะสมมากกว่า สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าอกเล็กจริงๆ หากในกรณีที่หน้าอกหย่อนคล้อยมากๆ การเสริมหน้าอกด้วยการฉีดสารเติมเต็มดูจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใดนัก เนื่องจากจะไม่สามารถเห็นประสิทธิผลที่ดีได้หากคนไข้ ไม่ทำการกระชับทรวงอกเสียก่อน ในคนไข้บางรายอาจกังวลในเรื่องของผิวแตกลายหากเสริมในปริมาณมาก ซึ่งการเสริมด้วยการฉีดสารเติมเต็มนี้จะไม่ทำให้เกิดผิวแตกลาย เนื่องจากการฉีดในลักษณะที่เรียกว่า เรี่ยกล้ามเนื้อ ซึ่งเมื่อสารเติมเต็มเซ็ตตัวแล้ว ผิวหนังก็จะหดลง มาใกล้เคียงปกติ ไม่มีการยืดเป็นเวลานานให้ผิวแตกลาย
พญ.ดลหทัย ชูคันชั่ง
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขา Facial Design
Amed Clinic
(Some images used under license from Shutterstock.com.)