
© 2017 Copyright - Haijai.com
การทำตาสองชั้น วิธีเจาะรูขนาดเล็ก
คนไทยกัปัญหาเรื่องตาเป็นของคู่กัน เพราะคนไทยส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่มีเชื้อสายจีนทำให้เกิดมาพร้อมกับตาชั้นเดียวหรือไม่ก็เป็นพวกตา 2 ชั้นหลบใน ปัญหาเรื่องตาตี่หรือตาเล็กจึงสร้างความหนักใจให้เหล่าบรรดาคนไทยเชื้อสายจีนไม่น้อย ยิ่งตอนนี้กระแสเทรนด์เกาหลีแบบสาวหมวยตาโตกำลังมาแรง ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนเหล่านี้ตัดสินใจไปพึ่งพาการทำตา 2 ชั้น
ก่อนที่เราจะดูว่าเราควรทำตาสองชั้นดีมั้ย เราก็ควรศึกษาก่อนว่าการทำตาสองชั้นนั้นมีวิธีการอย่างไร และมีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะหากตัดสินใจผิดพลาดไป โอกาสที่ชั้นตาจะออกมาไม่สวยหรือชั้นตาไม่เท่ากันก็มีอยู่สูงมากทีเดียว ขอเสนอวิธีการทำตาสองชั้นแบบ The Short Incision Technic Upper Blepharoplasty หรือเรียกง่ายๆ ว่าการทำตาสองชั้น โดยการเจาะรูขนาดเล็ก แผลขนาดเล็ก เพื่อป็นทางเลือกให้หนุ่มตี๋สาวหมวย
มาทำความรู้จักการทำตาสองชั้นแบบเดิม
การทำตาสองชั้นเมื่อก่อนมีด้วยกัน 2 วิธีคือ
1.แบบ Closed หรือ Blind Technic เป็นการปลิ้นตาออกมาและเย็บเก็บจากด้านใน วิธีนี้ไม่มีการกรีดตาหรือการตัดชั้นไขมันใดๆ ออกไป เป็นวิธีที่ไม่ถาวรและอยู่ได้ไม่นาน ชั้นจะหลุดคลายตัว
2.แบบ Opened จะเป็นวิธีที่กรีดตั้งแต่หัวตาจนถึงหางตา วิธีนี้จะตัดหนังตาเพื่อเข้าไปเย็บใต้หนังตาให้เป็นชั้น จะมีการสอยปิดแผล วิธีนี้จะได้ชั้นหนังตาที่ถาวร แต่ใช้เวลาพักฟื้นนานและเกิดรอยแผลเป็นขนาดใหญ่เวลาหลับตาจะเห็นรอยอย่างชัดเจน
การทำตาสองชั้น โดยการเจาะรูขนาดเล็ก (The Short Incision Technic Upper Blepharoplasty)
วิธีนี้เป็นทางเลือกที่ 3 ให้แก่ผู้ที่ต้องการทำตาสองชั้น และวิธีนี้ได้ถูกคิดค้นจากแพทย์ไทยภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และเริ่มทดลองทำครั้งแรกในปี พ.ศ.2530 วิธีนี้เป็นการนำ “ข้อดี” ของการทำตาสองชั้นของ 2 วิธีข้างต้นมาปรับใช้ผสมผสานตามความเหมาะสม โดยวิธีนี้จะเจาะรูเล็กๆ และเข้าไปเย็บเหมือนเป็นการพับผ้าโดยที่ไม่ต้องตัดหนังออก ทำให้แผลเล็ก อีกทั้งวิธีนี้ยังเป็นการทำตาสองชั้นแบบถาวร เพราะหลังจากทำการผ่าตัดมาแล้วเป็นสิบปี ชั้นที่ทำไว้ก็ยังคงอยู่สวยงาม เนื่องจากเป็นวิธีที่ถูกคิดค้น โดยแพทย์ชาวไทยทำให้ปัจจุบันนี้แพทย์ชาวต่างชาติเริ่มให้การยอมรับและมีความสนใจที่จะเข้ามาศึกษา เพราะนับว่าเป็นการเปลี่ยนโฉมการทำตาสองชั้นของโลก
ข้อดีของการทำตาสองชั้น โดยการเจาะรูขนาดเล็ก (Short Incision Technic)
แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก แผลเป็นเล็กมากจนแทบจะมองไม่เห็น (Invisible Scar) หลังจากทำการผ่าตัดแล้ว มีอาการบวมน้อย ผู้เข้ารับการผ่าตัดจึงสามารถทำงานได้ตามปกติ สามารถล็อคชั้นหนังตาให้อยู่ได้แบบถาวร เย็บเพื่อปิดแผลเพียง 2-3 จุด และสามารถกลับมาตัดไหมได้ภายใน 48 ชั่วโมง
ข้อจำกัดของการทำตาสองชั้น โดยการเจาะรูขนาดเล็ก
การทำตาสองชั้นวิธีนี้เป็นงานที่มีความละเอียดสูงกว่าวิธีอื่น เครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัดมีขนาดเล็กมาก จึงมีค่าใช้จ่ายมากกว่า การเย็บชั้นจะจะต้องใช้ไหมที่มีขนาดเล็ก จึงต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง
การทำตาสองชั้น โดยการเจาะรูขนาดเล็ก แก้ปัญหาด้านใดได้บ้าง
การทำตาสองชั้น โดยการเจาะรูขนาดเล็ก (The Short Incision Technic Upper Blepharoplasty) สามารถแก้ปัญหาเรื่องตาได้จากหลายสาเหตุ
หัวตามีปีก (Epicanthal Folds)
เราจะพบเห็นคนที่มีหัวตามีได้จากกลุ่มคนเอเชีย หัวตาที่มนจะมีลักษณะเป็นรอยพับของชั้นผิวและมีเนื้อเยื่อบางๆ ตรงกลางตาที่จะแผ่หรือปกคลุมอยู่บริเวณหัวตาเหมือนกันสาด ทำให้ตาไม่มีความเป็นเปลี่ยมมุม ไม่มีมิติและโค้งลง มีการวิเคราะห์และสรุปได้ว่าดวงตาที่มีหัวมีปีกนั้น เป็นผลมาจากการหย่อนของแผ่นกล้ามเนื้อยืดต่อที่ยึดกล้ามเนื้อกับกระดูก ด้วยเหตุนี้ทำให้ชาวเอเชียบางคนมีตาบนที่ดูปูดโปนออกมา
หนังตาบนหย่อน (Dermatiochalasis)
คือภาวะหนังตาหย่อนยาน ในผู้สูงอายุเป็นอุปสรรคในการมองเห็น สามารถแก้ไขโดยวิธี Short Incision Technic
กล้ามเนื้อตาหย่อน (Levator Ptosis mild degree)
เป็นภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรืออัมพาต ด้วยเทคนิคการกรีดแผลสั้น (Short Incision Technique) ยกกระชับให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นด้วย การเย็บไหมทำให้กล้ามเนื้อสั้นลง 1-2 มิลลิเมตร เพื่อทำการยกเปลือกตาบนขึ้นและซ่อมส่วนที่ห้อยลงมาด้วย
ขนตาทิ่มแก้วตา (Trichiasis)
เป็นภาวะขนตาทิ่มตา สามารถใช้วิธี Short Incision Technic ผ่าตัดรักษาได้ 100%
ตาโบ๋ (Sunken Eyeball)
เบ้าตาที่เป็นร่องลึกโบ๋ เกิดรอยพับย่นที่ใบหน้าทำให้ดูหน้าเศร้าตลอดเวลา ตามที่ตำราบอกว่าเป็นใบหน้าที่ไม่มีสง่าราศี อาการตาโบ๋เกิดจากการที่มีไขมันบริเวณเปลือกตาบนไม่เพียงพอ ทำให้เปลือกตาบนนั้นหย่อนยานเกิดรอยพับที่ไม่สม่ำเสมอ การใช้เทคนิคการกรีดแผลสั้นจะช่วยให้อาการนี้ดีขึ้นได้ เมื่อทำร่วมกับการปลูกถ่ายไขมัน (Mini-Lobular Free Adipose Tissue Transfer) โดยใช้ไขมันที่ได้จากบริเวณสะดือมาหยอดใส่ช่องว่างบริเวณใต้กล้ามเนื้อ (Orbicularis Oculi muscle) บริเวณนี้จะมีหลอดเลือดอยู่เป็นจำนวนมากและจะไม่เกิดการตึง ส่วนใหญ่ไขมันที่ถูกปลูกถ่ายมา 90% จะมีชีวิตอยู่ได้บริเวณนี้
หน้าผากย่น
เกิดจากหนังตาบนตกต่ำลงทำให้คนไข้ต้องเลิกคิ้ว เพื่อช่วยในการมองเห็น การผ่าตัดทำตาสองชั้นจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ การปรับรูปตานี้จะเป็นการยกเปลือกตาบนขึ้นและสร้างรอยพับขึ้นใหม่ ทำให้การมองเห็นของคนไข้ดีขึ้น เพราะไม่มีเนื้อมาบังวิสัยทัศน์ และทำให้รอยย่นที่หน้าผากหายไป
เปลือกตาหลายชั้น (Multiple Upper Eyelid Creases)
เปลือกตาหลายชั้นจะพบในคนไข้ที่มีเนื้อบริเวณตาหย่อนยานมากเกินไปและลูกตาโบ๋ ทำให้เกิดชั้นของเปลือกตาขึ้นหลายๆ ชั้น แก้ไขด้วยการใช้เทคนิคการกรีดแผลสั้น ทำให้ไม่ต้องตัดเนื้อส่วนเกิน
การดูแลรักษาหลังการผ่าตัด
สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ หลีกเลี่ยงการดูโทรทัศน์ ใช้คอมพิวเตอร์ หรือเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เนื่องจากจะเป็นการทำให้เกิดการกระพริบตามากกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลให้แผลบวมได้ นอนโดยยผศีรษะและหน้าอกให้สูงขึ้น ดูแลให้แผลแห้งเป็นเวลา 72 ชั่วโมง
หลังจากที่เรารู้วิธีการทำตาสองชั้น โดยการเจาะรูขนาดเล็ก (The Short Incision Technic Upper Blepharoplasty) แล้วก็คงจะคลายความกังวลใจให้กับผู้ที่มีปัญหาเรื่องตาไปได้มาก เพราะถือได้ว่าเป็นทางออกที่ดีในการทำตาสองชั้น แบบถาวร
การทำตาสองชั้นโดยการเจาะรูขนาดเล็ก (The Short Incision Technic Upper Blepharoplasty) นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของแพทย์ไทยที่ต่างชาติให้การยอมรับและสนใจที่จะศึกษาการทำตาสองชั้นวิธีนี้ ทางสมาคมศัลยกรรมตกแต่งแห่งประเทศไทยจึงมีการเปิดอบรมให้ความรู้เรื่องการทำตาสองชั้น ประมาณ ปี 2556 ที่ผ่านมา ให้กับแพทย์ผู้สนใจทุกสาขา เพื่อให้แพทย์ได้มีความเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น และถือเป็นการพัฒนาศัลยภาพของแพทย์ เพื่อให้ไทยก้าวเข้าสู่ Surgical Hub เป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยเฉพาะการทำตาสองชั้น ก็นับได้ว่าก้าวขึ้นสู่ชั้นนำของโลกแล้ว
ผศ.นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์
ศัลยแพทย์ประจำธีรพรการแพทย์
(Some images used under license from Shutterstock.com.)