
© 2017 Copyright - Haijai.com
พิชิตความชราด้วยสุดยอดเทคนิค Multi-direction force ด้วย ฟิลเลอร์
เมื่อเอ่ยถึงปัญหาความหย่อนคล้อย นับเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องประสบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แถมยังเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไข โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณใบหน้าช่วงล่างที่ตกลง โดยเราจะเห็นว่าช่วงข้างแก้มจะห้อยลงมา หน้าตก คางตก มีร่องแก้มลึก ร่องมุมปาก มุมปากห้อยตก แก้มหย่อนคล้อยกลายเป็นเนื้อห้อยที่แก้มช่วงล่าง แถมขอบกระดูกขากรรไกรก็ยังเห็นไม่ชัด เพราะเนื้อหย่อนลงมา กลายเป็นคนคาง 2 ชั้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าความชรา ได้เข้ามาประชิดตัวคุณแล้วนั้นเอง
ความชรา เข้ามาประชิดตัวเราได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ บอกได้เลยว่า บางรายอาจอายุเพียงแค่ 20 ปี อาการบนใบหน้าก็เริ่มบ่งบอกแล้ว ทั้งปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย แก้มช่วงล่างตก ซึ่งตามหลักของโครงสร้างบนใบหน้าของคนเรานั้น การที่ใบหน้าตกลง สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆ วัน ซึ่งบางครั้งหากเราไม่สังเกตดีๆ ก็แทบจะไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วยซ้ำ แต่เมื่ออายุก้าวเข้าสู่เลข 2 ช่วงปลาย ไปจนถึง อายุ 30 อัพ ทุกจุดของใบหน้าก็จะเกิดความหย่อนคล้อยและเห็นได้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณแก้มช่วงล่าง ซึ่งหลายคนไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไรดี เพราะเป็นการแก้ไขที่ค่อนข้างยาก แต่ที่แน่ๆ เมื่อแก้ไขได้แล้วจะเห็นผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน คือ ทุกคนสามารถกลับมาเป็นหนุ่มเป็นสาวอีกครั้งหนึ่ง
เราจะคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าได้อย่างไร
สำหรับวิธีแก้ไขที่จะนำมาฝากกันนั้น ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักกับต้นสายปลายเหตุของปัญหาเหล่านี้เสียก่อน ซึ่งสาเหตุสำคัญของปัญหาเหล่านี้คือเรื่องของกระดูกที่เสื่อม เมื่อพูดถึงภาวะกระดูกเสื่อม แท้จริงแล้วกระดูกของเราเสื่อมมาตั้งแต่เรายังหนุ่มยังสาวและเสื่อมมาเรื่อยๆ จนกระทั่งชัดเจนมากขึ้นก็ต่อเมื่ออายุประมาณ 30-40 ปี สำหรับผู้หญิง แต่สำหรับผู้ชายก็จะเห็นชัดเจนเมื่ออายุก้าวเข้าสู่เลข 4 และเมื่อเกิดภาวะกระดูกเสื่อมจนไม่สามารถเป็นที่พึ่งหรือพยุงผิวชั้นบนของใบหน้าเราได้ จึงเกิดเป็นความหย่อนคล้อยอย่างที่เราเห็น
ปัจจุบันเมื่อพูดถึงวิธีการยืดพยุงหน้าขึ้นในวงการความสวยความงามในบ้านเรา สิ่งที่นำมาช่วยปรับแก้ไขพยุงยึดผิวหน้า คือ โบท็อกซ์, ฟิลเลอร์ และการร้อยไหม แต่เมนหลักๆ ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยเหล่านี้ได้คือฟิลเลอร์ เพราะสามารถแก้ยึดไปถึงชั้นกระดูกได้ และเป็นการรักษาที่ไม่ต้องศัลยกรรมเจ็บตัวน้อยที่สุด และตอบโจทย์ปัญหากระดูกที่เสื่อมลง เติมเต็มความบกพร่องให้เราสามารถกลับมาสวยเป๊ะ ได้เช่นเดิม
ที่ผ่านมาจากประสบการณ์ที่เคยดูแลคนไข้ด้านผิวหนัง จะพบว่าพอถึงช่วงเวลาที่กระดูกเสื่อมถ่อย อวัยวะทุกจุดก็จะเสื่อมตาม เหมือนเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปบอกว่า ผิวเราต้องแก่หรือเสื่อมตามกระดูกไป ไม่ว่าจะเป็นบริเวณกระดูกโหนกแก้ม หน้าผาก ขมับ ใต้ตา จนกระทั้งถึงตรงบริเวณขอบกรามที่จะยุบตัวลง คางจะดูสั้นลง แล้วยื่นออกมาข้างหน้า จมูกงุ้มลงและไล่เรียงไปจนถึงโครงฟัน ก็ต้องเสื่อมตามกันมารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งลักษณะอาการที่เราสามารถมองเห็นได้ จากใบหน้าช่วงล่างที่ตกลง คือ การแสดงออกมาในรูปของ ริ้วรอย ร่องแก้มลึก อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เราสามารถ แก้ไขได้ด้วยเทคนิคที่ชื่อว่า Multi-direction force ด้วยฟิลเลอร์
Multi-direction force จากการใช้สารฟิลเลอร์ สามารถเข้าไปยึดพยุงตั้งแต่ชั้นกระดูกถึงชั้นผิวหนังชั้นบน เพื่อยืดเนื้อที่หย่อนคล้อยให้ยกขึ้น เหมือนกับการคลี่ผ้าที่หย่อนอยู่ ให้คลี่ออก จนสามารถตอบโจทย์ ปัญหาและอาการดังกล่าวให้หายไปได้ ไม่ว่าจะเป็นช่วยทั้งยกกระชับและปรับโครงหน้าให้ได้สัดส่วนไปพร้อมๆ กันได้ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือสามารถกำจัดความกังวลที่อยู่ในจิตใจให้หายออกไปด้วย
ทั้งนี้จากประสบการณ์การทำงานที่เราเคยรักษาคนไข้ด้วยวิธี Traingular face lift เพื่อแก้ปัญหา lower third of the face ซึ่งเป็นการใช้ฟิลเลอร์ หรือ Hyaluronic acid ร่วมกับ Botox ช่วยในการปรับโครงหน้า ให้ยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติมาแล้วทำให้รู้ว่าการแก้ไขเพื่อให้ใบหน้าเกิดความอ่อนเยาว์ได้อย่างดีที่สุด คือ 1.ต้องยึดพยุงจากใบหน้าช่วงบนขึ้นเพื่อให้ใบหน้าช่วงล่างยกขึ้นตามมาด้วย 2.สร้างกรอบของโครงหน้าใหม่ให้เป็นกรอบของโครงหน้าที่อ่อนวัย โดยใช้ฟิลเลอร์ ผลของวิธีการนี้คือจะทำให้แก้มที่หย่อนคล้อยมีความดูดีขึ้น อย่างชัดเจน และยังสามารถทำให้หน้าเป็น V-shape ได้อย่างที่สาวๆ กำลังนิยม
สำหรับการแก้ไขด้วยเทคนิคนี้ เนื่องจากเป็นการแก้ฟิลเลอร์จึงสามารถเห็นผลได้ทันที ซึ่งเมื่อพูดถึงฟิลเลอร์ก็มีหลายแบบอีก ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่สามารถอยู่ได้ถึง 2 ปีเป็นอย่างน้อย ฟิลเลอร์ในที่นี้คือ (Hyaluronic acid Fillers) สารเติมเต็มที่ช่วยเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอยเหี่ยวย่น พร้อมทั้งปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด เน้นเรื่องการยึดดึงให้ผิวหนังเกิดแรงตึงตัว โดยทำให้กระดูกบนใบหน้าของเรา ช่วยยึด Support กับตัวโครงกระดูกของเราตามจุดต่างๆ ซึ่งแน่นอนเมื่อเกิดการยึดของตัวกระดูกก็จะทำให้โครงกระดูกนั้นเป็นโครงกระดูกของคนที่อ่อนวัย และจะมีการส่งสัญญาณไปยังผิวชั้นบนว่า กระดูกไม่แก่ หรือเสื่อมนะ ผิวตรงบริเวณนั้นก็ไม่จำเป็นต้องแก่ตาม ส่งผลให้ผิวของเราดูดีขึ้น อ่อนวัย ความหย่อนคล้อยลดลง เห็นเป็นโครงหน้าที่ชัดเจน ได้รูปมากยิ่งขึ้นนั้นเอง
เมื่อถามว่าการรักษาด้วยเทคนิคนี้ เหมาะสมกับใคร ต้องบอกว่า คนที่อายุน้อยก็สามารถรักษาด้วยเทคนิคนี้ได้ เพื่อป้องกันความชราของใบหน้าในอนาคต หรือคนทีเผชิญกับอาการของความแก่ชราแล้ว ก็สามารถทำการรักษาเพื่อแก้ไขปัญหาการปรับโครงหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น เรียกได้ว่าสามารถทำได้ทุกวัย ที่สำคัญคือ ได้ผลดี ปลอดภัย และคงอยู่ได้นาน แต่อาศัยเทคนิคเฉพาะของแพทย์ที่ชำนาญในการใช้ฟิลเลอร์โดยเฉพาะด้วย สุดท้ายคือหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงการอบร้อน ซาวน่า หรือการทำเลเซอร์ประมาณ 2-3 สัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้ผลที่ได้ไม่ดีเท่าที่ควร สารเติมเต็มอาจละลายได้และควรดื่มน้ำเยอะๆ หลังจากนั้นสามารถทำได้ตามปกติทั้งนี้หากใครก็ต้องการย้อนวัยให้กลับไปเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง หรือต้องการป้องกันให้ความแก่ชรามาเยือนให้ชาที่สุด เทคนิคนี้คือคำตอบ
นพ.รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์
ผู้ก่อตั้งรัสมิ์เฟเชียลดีไซน์คลินิก
แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง
(Some images used under license from Shutterstock.com.)