ว่าด้วยเรื่องของ “ตด”

ว่าด้วยเรื่องของ “ตด”

เรื่องของการผายลม หรือที่ราเรียกันจนติดปากว่า “ตด”  แหม...เขียนมาถึงตรงนี้ คุณผู้อ่านอย่าเพิ่งเบือนหน้าหนี ไปกับเรื่องของตดนะคะ เพราะการผายลม หรือ ตด เนี่ยจริงๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติแสนธรรมดาของเราเองนี่แหละคะ ก็เหมือนกับเรื่องของการถ่ายอุจจาระ เมื่อร่างกายต้องการขจัดของเสียออกไปก็จะออกมาในรูปของอุจจาระ ปัสสาวะ หรือแม้กระทั่งเหงื่อที่ออกมาตามร่างกายด้วยเหมือนกัน  ว่าแล้วเรามาเข้าเรื่องของเราดีกว่าค่ะ เรื่องของ “ตด”

ในขณะที่เรากำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น รู้หรือไม่ค่ะว่าเราก็ได้กินเอาลมเข้าไปในลำไส้ด้วยเหมือนกัน แล้วกากอาหารที่เหลือจากที่เราทานเข้าไป ก็จะกลายมาเป็นก๊าซที่อยู่ในลำไส้ของเรา ลมและก๊าซที่ว่านี้ก็จะเคลื่อนตัวไปพร้อมกับสิ่งอื่นๆ ในลำไส้  หลังจากนั้นเราก็จะตดออกมาเป็นการผายลม ซึ่งตดจะไม่ค่อยมีกลิ่น แต่ถ้าเป็นก๊าซอย่างเดียวก็จะมีกลิ่นเหม็น ความจริงแล้วการตดออกมาในแต่ละวัน ยังช่วยให้ตัวเรารู้สึกสบายท้องไม่อัดอึดด้วยล่ะค่ะ  ว่าแต่ว่าถ้าถ้าคุณพ่อคุณแม่ มีอารการว่าจะปวดท้องผายลม ก็ดูสถานที่สักนิดว่ามีคนอยู่แถวนั้นหรือเปล่า อย่าผายลมออกมาจนทำให้คนข้างๆ รู้สึกรังเกียจนะคะ ยิ่งคนสวย คนหล่อ ก็นิดคะเดินออกไปหาที่ผายลมแบบปลอดคนสักหน่อยก็ดีเหมือนกันค่ะ

จริงหรือเปล่าที่ว่า ตดที่ไม่มีเสียง จะเหม็นกว่าตดที่มีเสียง

ลมตดที่เราผายออกมานั้น ประกอบไปด้วยก๊าซต่างๆ ถึง 400 กว่าชนิด ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจน ไฮโดรเจน มีเทน ซึ่งเป็นก๊าซที่ไม่มีกลิ่น แต่ก๊าซแอมโมเนีย ไฮโดรเจนซัลไฟด์ เป็นก๊าซที่มีกลิ่นเหม็น ก๊าซเหล่านี้มีอยู่ในอุจจาระด้วย ก๊าซเหล่านี้เกิดจากตอนที่ลำไส้ย่อยอาหารแล้วสร้างขึ้นมา อาหารประเภทโปรตีนสูงเมื่อถูกย่อย ตดที่ออกมาจึงมีกลิ่นเหม็น อาหารที่มีแป้งมาก ลมตดจะแรง ตดออกมาจึงมีเสียงดัง ดังนั้นตดเหม็นหรือไม่จึงขึ้นอยู่กับพวกอาหารที่กินเข้าไปมากกว่า

100 เรื่องน่ารู้ ร่างกายของเรา