© 2017 Copyright - Haijai.com
15 สัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์
บางทีบ้างครั้งคุณแม่ท้องมือใหม่ อาจจะต้องประสบกับอาการต่างๆ ที่เป็นสัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์เหล่านี้ ตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนขาดหายไปเลยทีเดียว แม้ว่าในตอนนั้น การตรวจการตั้งครรภ์ ด้วยชุดตรวจที่มีขายทั่วไป ตามร้านขายยา อาจจะยังไม่บ่งบอกว่าตั้งครรภ์ เพราะชุดตรวจเหล่านั้น จะตรวจพบการตั้งครรภ์ เมื่อระดับฮอร์โมน hCG ในปัสสาวะมีมากพอ ซึ่งก็อาจกินเวลาอีกหลายวัน หลังจากประจำเดือนขาดไป แต่คุณแม่ก็ยังมีอาการ เริ่มแรกของการตั้งครรภ์ ดังนี้
1.หายใจถี่ คุณแม่อาจรู้สึกเหนื่อยและหายใจถี่ เมื่อขึ้นบันไดทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาจจะเป็นเพราะคุณกำลังตั้งครรภ์ตัวอ่อน ที่กำลังเจริญเติบโตมีความต้องการออกซิเจนจากคุณแม่ และอาการเช่นนี้ อาจต่อเนื่องไปตลอดการตั้งครรภ์ เลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทารกมีการเจริญเติบโตมากขึ้น ก็จะมีแรงกดดันต่อปอด และกระบังลมของคุณแม่อีกด้วย
2.เจ็บหน้าอก หรือคัดเต้านม เมื่อคุณแม่วางบนชุดชั้นในบนหน้าอกเช้านี้ แล้วรู้สึกเหมือนมีอาการเจ็บคัดตึงคล้ายๆ ช่วงที่จะมีรอบเดือนแต่มันไม่หายไป แม้ครบกำหนดแล้ว ก็ตามคุณแม่อาจสังเกตเห็นว่า เต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย มีความรู้สึกหนัก และบริเวณรอบๆ หัวนมมีสีคล้ำขึ้น ผิวหนังบริเวณเต้านมบางลง มองเห็นหลอดเลือดดำเด่นชัดมาก คุณแม่ควรสวมชุดชั้นในที่มีขนาดพอดี เพื่อช่วยรับน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม และอาจใส่เสื้อชั้นในในเวลานอนด้วย เพื่อช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายนั้น
3.ความเมื่อยล้า คุณแม่ที่อ่านหนังสือก่อนเข้านอนอาจไม่ได้เปลี่ยนไปสู่อีกหน้าหนึ่งของหนังสือก่อนหลับไปหากคุณแม่มีอาการอ่อนล้าหมดแรงก็จะอาจเกิดจากการตอบสนองต่อฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นในร่างกายของคุณแม่สำหรับผู้หญิงจำนวนมากยังคงเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าตลอดในระยะไตรมาสแรกแต่แล้วก็จะรู้สึกดีขึ้นในระยะไตรมาสที่สอง
4.อาการคลื่นไส้ หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่เริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเมื่อตั้งครรภ์ได้ประมาณ 6 สัปดาห์แต่บางคนจะได้พบกับอาการแพ้ท้องได้ตั้งแต่รอบเดือนขาดหายไปซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งในเวลาเช้ากลางวันและกลางคืนซึ่งอาการคลื่นไส้นี้จะบรรเทาลงได้เมื่อการตั้งครรภ์เข้าสู่ระยะไตรมาสที่สองในระหว่างนี้ให้พยายามรับประทานอาหารที่จะช่วยบรรเทาอาการเช่นขนมปังแครกเกอร์หรือน้ำหวานไอสครีม
5.ปัสสาวะบ่อย ถ้าอยู่ ๆ คุณแม่ก็พบว่าตัวเองนอนไม่หลับทั้งคืนโดยต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆในระหว่างตั้งครรภ์ร่างกายของคุณแม่จะสร้างของเหลวในร่างกายมากขึ้นมีเลือดในระบบไหลเวียนมากขึ้นดังนั้นกระเพาะปัสสาวะของคุณแม่จึงต้องทำงานล่วงเวลาในระยะแรกนี้
6.อาการปวดหัว สัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์นั้นรวมถึงอาการปวดหัวด้วยซึ่งเป็นผลของการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในกรณีที่คุณกำลังตั้งครรภ์แน่นอนใช้ยาแก้ปวดพวกพาราเซตามอลจะปลอดภัยกว่ายาพวกแอสไพรินในการจัดการกับความเจ็บปวด
7.ปวดหลัง คุณแม่อาจจะมีอาการปวดหรือเจ็บหลังช่วงล่างหากปกติคุณแม่ไม่ได้มีอาการปวดหลังอยู่ก่อนแล้วอาการปวดเหล่านี้ก็อาจหมายถึงการผ่อนคลายหรือยืดหยุ่นมากขึ้นของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นทั้งนี้อาการปวดหลังอาจเกิดขึ้นได้ตลอดการตั้งครรภ์เนื่องจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นและศูนย์กลางของการทรงตัวของคุณแม่เปลี่ยนไปซึ่งเป็นผลให้ท่าทางในการยืนนั่งหรือเดินมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย
8.ปวดเกร็งในช่องท้อง จะเป็นปวดประจำเดือนหรือตั้งครรภ์ในช่วงนี้นั้นยากที่จะบอกแต่ถ้าคุณแม่รู้สึกปวดหน่วงๆอาจเป็นได้ว่ามีการยืดขยายของมดลูกให้พร้อมสำหรับลูกน้อย
9.ความอยากอาหารเปลี่ยนแปลง คุณแม่อาจอยากอาหารที่มีรสเปรี้ยวมากขึ้นในขณะที่กลิ่นของปลามักจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ถ้าคุณแม่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของความอยากอาหารแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ทันทีทันใดอาจเป็นอาการที่ร่างกายกำลังบอกว่าคุณตั้งครรภ์
10.ท้องผูก และมีลมในกระเพาะอาหารมากขึ้นสัปดาห์ก่อนหน้านี้คุณแม่ยังใส่กางเกงยีนส์ตัวเดิมได้อย่างพอดีอยู่เลยแต่เพียงแค่สัปดาห์ที่ผ่านมาคุณแม่อาจรู้สึกท้องป่องเล็กน้อยหรือไม่สามารถไส่ยีนส์ตัวเดิมได้ก็อาจจะเกิดจากการที่ฮอร์โมน progesterone เพิ่มสูงขึ้นและส่งผลต่อระบบย่อยอาหารของคุณแม่ทำให้ย่อยได้ช้าลงมีแกสในกระเพาะอาหารมากขึ้นและอาจส่งผลให้ท้องผูกร่วมด้วย
11.อารมณ์เปลี่ยนแปลง บางทีใครทำอะไรไม่ถูกต้องเพียงเล็กน้อยกลับทำให้คุณอารมณเสียได้ง่ายๆซึ่งทั้งนี้อาจเกิดจากการที่ระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงและร่างกายของคุณแม่กำลังพยายามปรับตัวเข้าสู่สมดุลย์ใหม่แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงนี้ไปอารมณ์ของคุณแม่ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ
12.อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น คุณแม่อาจสังเกตได้ว่าอุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้นรู้สึกร้อนง่ายกว่าคนอื่นๆนั่นเป็นเพราะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและมีการใช้พลังงานมากขึ้น
13.ได้กลิ่นรุนแรง Super smell คุณแม่จะมีความไวต่อกลิ่นเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมก็จะรู้สึกหอมรุนแรงจนบางครั้งทนกลิ่นน้ำหอมเดิมของตัวเองไม่ได้หากเป็นกลิ่นเหม็นแล้วละก็จะยิ่งเลวร้ายลงไปอีกบางทั้งการเอาถุงขยะไปทิ้งอาจทำให้คุณแม่แทบจะอาเจียนหรือการเข้าห้องน้ำสาธารณะก็ยิ่งเป็นสิ่งที่รบกวนจิตใจ
14.เวียนศีรษะหรือเป็นลม อาการเช่นนี้เป็นอาการที่ใช้เพื่อบ่งบอกการตั้งครรภ์ในหนังหรือในละครแต่มันอยู่ในความเป็นจริงเมื่อน้ำตาลในเลือดต่ำหรือความดันโลหิตลดลงอาจทำให้เกิดอาการหน้ามืดวิงเวียนได้ให้แน่ใจว่าคุณแม่รับประทานอาหารได้มากพอและดื่มน้ำอย่างพอเพียงก็จะห่างไกลจากอาการนี้ได้
15.มีเลือดออก การมีเลือดออกเล็กน้อยกระปริบกระปรอยในระยะแรกของการตั้งครรภ์โดยที่ไม่มีอาการปวดเกร็งท้องร่วมด้วยอาจเป็นอาการที่รกของทารกมีการแบ่งเวลลืและฝังตัวลงไปในเยื่อบุโพรงมดลูกของแม่ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจทำให้เกิดมีเลือดออกได้คุณแม่ควรสังเกตอาการและหากเลือดหยุดไปก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
อย่างไรก็ตามคุณแม่บางรายแทบไม่มีอาการอะไรบางรายกลับมีอาการมากมายและเป็นในระดับรุนแรงคุณแม่ควรดูแลสุขภาพในระยะแรกของการตั้งครรภ์นี้โดยรับประทานอาหารให้พอแม้ว่าจะมีอาการแพ้ท้องก็ไม่ควรอดอาหารเพราะจะทำให้อาการแย่ลงหากมีความยากลำบากในการรับประทานรับประทานอาหารมื้อหลักได้น้อยลงควรเลือกอาหารที่รับประทานง่ายและมีพลังงานสูงรับประทานระหว่างมื้ออาหารหลักเช่นไอสครีมน้ำหวานนมถั่วเหลืองหรือชีสสำหรับทานเล่นขนมปังกรอบเป็นต้นหากคุณแม่ดูแลสุขภาพให้ดีอาการแพ้ท้องก็จะทุเลาลงได้ครับ
ม.รว.นพ.ทองทิศ ทองใหญ่
(Some images used under license from Shutterstock.com.)