Haijai.com


กาแฟลดความอ้วนช่วยได้จริงหรือ


 
เปิดอ่าน 5329

กาแฟลดความอ้วนช่วยได้จริงหรือ

 

 

เชื่อว่าคุณคงเคยเห็นโฆษณากาแฟลดความอ้วนที่ใช้นางแบบเอวบางร่งน้อยมายืนจิบกาแฟ ชวนให้เชื่อว่าหากดื่มแล้วคงจะผอมเหมือนนางแบบ จึงเกิดคำถามว่าดื่มกาแฟแล้วลดความอ้วนได้จริงหรือ?

 

 

ความจริง คือ ไม่มีใครสามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จด้วยการดื่มกาแฟลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียว โดยไม่ต้องควบคุมอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกาย แม้สารคาเฟอีนในกาแฟจะมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นเมตาโบลิซึม ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น เพิ่มการหลั่งแอดรีนาลิน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย แต่ก็ช่วยเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นแค่เล็กน้อย และชั่วคราว หากดื่มกาแฟวันละหลายแก้ว ได้รับสารคาเฟอีนมากกว่าวันละ 100 มิลลิกรัม กลับมีผลเสียคือไปกดไทรอยด์ฮอร์โมนกดโกรทฮอร์โมน กดฮอร์โมนเพศ ซึ่งอาจทำให้การเผาผลาญลดลงได้

 

 

กาแฟลดความอ้วนส่วนใหญ่ใช้น้ำตาลเทียมให้ความหวานแทนน้ำตาลทราบ จึงช่วยลดพลังงานลงไปได้บ้าง จากปกติแก้วละ 100 กว่าแคลอรี ลดลงเหลือ 60 แคลอรี หากดื่มแทนกาแฟปกติวันละ 1 แก้ว ก็จะได้รับพลังงานอาหารลดลง วันละ 50-70 แคลอรี หากไม่เพิ่มการกินอาหารอย่างอื่นเข้าไป คุณอาจมีสิทธิลดน้ำหนักได้ 1 กิโลกรัม ในเวลา 110-150 วัน หรือ 4-5 เดือน เพราะการจะลดน้ำหนักตัวสัก 1 กิโลกรัม ต้องกินน้อยกว่าใช้ ให้พลังงานติดลบ 7,700 แคลอรี

 

 

กาแฟลดน้ำหนักส่วนใหญ่มักผสมอาหารเสริม เพื่ออ้างสรรพคณในการลดน้ำหนัก เช่น

 

 

 เส้นใยอาหาร หรือไฟเบอร์ 3%  ในกาแฟ 1 ซอง 15 กรัม เท่ากับมีไฟเบอร์ 0.450 กรัม หรือ 450 มิลลิกรัม ซึ่งคำแนะนำในการกินอาหารเสริมไฟเบอร์ เพื่อให้อิ่มอยู่ท้อง ลดการดูดซึมไขมันและน้ำตาลเข้าสู่ร่างกาย และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีเป็นปกติ ควรกินไฟเบอร์ก่อนอาหารอย่างน้อย 2 กรัมต่อมื้อ วันละ 3 มื้อ หรือ 6 กรัม ต่อวัน ดังนั้น ไฟเบอร์ปริมาณน้อยนิดในกาแฟ คงไม่สามารถช่วยให้คุณอิ่มอยู่ท้องได้นาน

 

 

 แอล คาร์นิทีน (L-Carnitine) กรดอะมิโนโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีงานวิจัยว่าหากกินอาหารเสริมชนิดนี้ วันละ 1-3 กรัม จะช่วยให้เซลล์ในร่างกายใช้ไขมันเป็นพลังงานได้ดีขึ้น จนได้ชื่อว่า Fat Burner แต่ในกาแฟลดความอ้วนมักมีแอลคาร์นีทีน แค่ 1% ของ 15 กรัม หรือ ประมาณ 0.15 กรัมเท่านั้น ต้องดื่มกาแฟชนิดนี้กันวันละมากกว่า 10 แก้ว ถึงจะมีโอกาสช่วยลดน้ำหนักได้

 

 

 สารสกัดถั่วขาว (White Bean) เป็นส่วนผสมยอดนิยม เป็นเส้นใยจากถั่วขาวที่ช่วยดักจับแป้งในอาหารที่กินเข้าไป ไม่ให้เปลี่ยนเป็นน้ำตาล ป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับพลังงานจากแห้ง แต่แป้งจะถูกขับออกมากับถั่วขาว ในอุจจาระ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับพลังงานส่วนเกิน แม้ไม่ช่วยให้ไขมันในร่างกายหายไป แต่ก็ช่วยป้องกันไม่ให้มีการสะสมใหม่ อย่างน้อยก็ช่วยรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ ไม่เพิ่มขึ้น หากจะให้ได้ผลดีจากสารสกัดถั่วขาว ก็คงต้องกินในรูปอาหารเสริม 1-2 กรัม ต่อมื้ออาหารที่มีแป้ง แต่ในกาแฟลดความอ้วนมักผสมแค่เล็กน้อย จึงไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่

 

 

 ไคโตซาน (Chitosan) สารสกัดจากเปลือกกุ้ง กระดองปูมีคุณสมบัติคล้ายเส้นใยอาหาร หรือไฟเบอร์ของพืช แต่ไคโตซานมาจากสัตว์ทะเล โครงสร้างของไคโตซานจะมีรูพรุนไว้เป็นที่ยึดเกาะของไขมัน จึงใช้เป็นอาหารเสริมดูดซับไขมัน ลดการดูดซึมไขมันจากอาหารที่กินเข้าไปสู่ร่างกาย แต่จะขับไขมันออกทางอุจจาระ ช่วยป้องกันการสะสมไขมันใหม่ ป้องกันไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่ม แต่ก็ไม่ได้กำจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมไว้ และเช่นเดียวกับอาหารเสริมตระกูลเส้นใยไฟเบอร์ เราควรกินมื้อละ 1-2 กรัม จึงจะเห็นผล ซึ่งกาแฟลดความอ้วนส่วนใหญ่ใส่แค่นิดเดียว จึงหวังผลยาก

 

 

 เส้นใยสกัดจากต้นกระบองเพชรฝรั่งเศส (French Cactus) ที่เรียกว่า นีโอปุ่นเชีย (Neopuntia) มีคุณสมบัติยับยั้งการดูดซึมไขมันในอาหารที่กิน ไม่ให้เข้าสู่ร่างกายเช่นเดียวกับ ไคโตซาน มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Advance in Therapy เมื่อปี 2007 พบว่าคนไข้ผู้หญิงที่กินอาหารเสริมชนิดนี้ มื้อละ 1.5 กรัม หรือประมาณวันละ 5 กรัม ช่วยลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย LDL ได้ และลดภาวะ Metabolic Syndrome จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ไม่พบการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

 

 

 โสม ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว เลือดไหลเวียนดีขึ้น และสามารถช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานได้บ้างเล็กน้อย แต่กาแฟฯ ส่วนใหญ่มักใส่โสมแค่นิดเดียว จึงหวังผลให้น้ำหนักตัวลดได้ยาก

 

 

 คอลลาเจน ฮิตกันจัง คอลลาเจน คือ โปรตีนชนิดหนึ่ง มีอยู่ในเอ็นหมู เอ็นวัว ในเนื้อเยื่อหลายชนิดของคนเราก็มักมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบ ทั้งที่ผิวหนัง ผนังหลอดเลือด กล้ามเนื้อ เอ็น ข้อ กระดูก ฯลฯ คอลลาเจนที่กินเข้าไปก็จะถูกย่อยเป็นกรดอะมิโน หรือโปรตีนโมเลกุลเล็กที่สุด แล้วจึงถูกดูดซึ่งไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณไหนบาดเจ็บ มีความจำเป็นต้องใช้คอลลาเจนก็จะวิ่งไปที่อวัยวะนั้นๆ ก่อน ไม่ได้ไปที่ผิวหน้าอย่างที่เราต้องการ ยิ่งกาแฟลดความอ้วนยิ่งใส่คอลลาเจนน้อยนิด แค่ให้คิดว่ามีคอลลาเจน จึงหวังผลอะไรได้ยาก

 

 

ที่น่ากลัวก็คือ กาแฟลดความอ้วน ที่ไม่ผ่าน อย. กินแล้ว หมดความอยากอาหาร ไม่หิวข้าว อยู่ได้โดยไม่ต้องกินอะไรเลยทั้งวัน แต่คอแห้งกระหายน้ำมาก บางทีคลื่นไส้ ใจสั่น หงุดหงิดเวียนหัว แม้น้ำหนักจะลดได้เร็ว แต่อันตราย เพราะน่าจะมีส่วนผสมของยาลดความอ้วน ที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท หยุดปุ๊บก็โยโย่ปั๊บ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดีไม่ดีเพิ่มมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ยาลดความอ้วนที่แอบผสมในกาแฟ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว จึงควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเครื่องหาย อย.

 

 

แม้กาแฟที่โฆษณาว่าลดความอ้วน อาจไม่ช่วยให้คุณผอมสมใจ แต่ก็คงช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้บ้าง หากคุณๆ ที่ชื่นชอบกาแฟ ยังไงๆ ก็ต้องดื่มสักวันละครั้ง เปลี่ยนจากกาแฟปกติที่เติมนมเติมน้ำตาล มาเป็นกาแฟลดความอ้วน ก็คงช่วยให้คุณรักษาน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่มมากขึ้นได้

 

 

แพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน

(Some images used under license from Shutterstock.com.)