
© 2017 Copyright - Haijai.com
เดินลดโรค
การเดินนั้นเรียกได้ว่าเป็นวิธีการออกกำลังกายที่ถูกสอดแทรกเข้าไปในชีวิตประจำวัน โดยที่เราแทบไม่รู้ตัว และเป็นการออกกำลังกายขั้นพื้นฐานที่สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย ที่สำคัญให้ผลดีกับร่างกายได้อย่างมหัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มสารเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยความตึงเครียด ความโกรธ ความเหนื่อยล้า และความวิตกกังวล ช่วยให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น นอกจากนั้น การเดินยังลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก และกล้ามเนื้อ รวมทั้งยังทำให้เราฟิตทั้งกาย ฟิตทั้งใจ รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า คงความเยาว์ตลอดกาล
ชาญณรงค์ ธีระโรจนารัตน์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์การ์มิน บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) บอกถึงเทรนด์การดูแลสุขภาพในปัจจุบันของคนไทยว่า คนไทยให้ความสำคัญกับสุขภาพและใส่ใจในรายละเอียดการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้น เพราะนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว สุขภาพที่แข็งแรงเปี่ยมพลังในการดำเนินชีวิตก็สำคัญไม่แพ้กัน เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีข้อจำกัดด้วยไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้อย่างที่ต้องการ จึงแนะนำให้เริ่มจากการเดิน ซึ่งเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด ไม่ต้องลงทุน และยังทำได้ทุกที่ทุกเวลา
เริ่มต้นวันที่สดใสด้วยการยืดเส้นยืดสายบนที่นอน ไม่ว่าจะก้มแตะปลายเท้าหรือบิดขี้เกียจ เพื่อยืดเส้นยืดสาย กระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น หรือถ้าใครพอมีเวลาสัก 15 นาที ให้ออกไปเดินเบาๆ เรียกเหงื่อเพิ่มความสดชื่นก่อนอาบน้ำไปทำงาน
อีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมก็ คือ มื้อเช้าดีๆ ที่ช่วยเติมพลังให้มีแรงทำงานได้ตลอดวัน พยายามเลือกอาหารให้ได้ครบทั้ง 5 หมู่ ระหว่างการทำงานอย่าลืมจัดท่านั่งให้เหมาะสมสำหรับการนั่งหน้าคอมพิวเตอรื โดยสามารถหาหมอนรองหลังขณะนั่งให้หลังรู้สึกตรงตลอดเวลา และพยายามหาเวลาลุกขึ้นเดินทุกๆ ครึ่งชั่วโมง เปลี่ยนอิริยาบถหรือถ้าอยากเพิ่มความปลอดโปร่งให้สมองเล่น อาจสละเวลาสัก 5-10 นาที ออกไปเดินเร็วๆ สัก 10-20 รอบที่หน้าลิฟต์หรือโถงทางเดิน
เมื่อถึงช่วงบ่ายต้องเติมพลังด้วยอาหารว่าง เพื่อสร้างความกระฉับกระเฉง แนะนำให้กินของว่างที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างถั่วกรอบๆ ที่ให้โปรตีน หรือผลไม้สดสลับสับเปลี่ยนประเภทกันไปในแต่ละวัน เพื่อสมองที่ปลอดโปร่ง พร้อมทำงานต่อไปได้อย่างเต็มที่จนถึงเวลาเลิกงาน
ส่วนเวลาเดินทางกลับบ้าน หากขึ้นรถไฟฟ้าให้หลีกเลี่ยงบันไดเลื่อน หันมาเดินขึ้นบันไดให้หัวใจเต้น เลือดสูบฉีดแทนดีกว่า หากอยากฟิตกว่านั้น ถ้าสถานนีรถไฟฟ้าอยู่ห่างจากที่ทำงานก็อาจใช้วิธีเดินไป ถ้าทำได้แค่นี้ทุกวันก็ถือว่าได้ออกกำลังกายแล้ว
เมื่อกลับถึงบ้านให้ลองเปลี่ยนกิจกรรมเป็นเดินเล่นกับน้องหมาหรือเดินเล่นในบริเวณบ้าน แทนที่จะนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ หรือดูทีวี รับรองสุขภาพดีอยู่ใกล้แค่เอื้อม ขอแค่ลุกขึ้นมาเดิน
สมัยนี้มีตัวช่วยมากมาย อาจใช้เครื่องนับก้าวที่ใส่ติดข้อมือ บอกให้รู้ว่าเราเดินได้กี่ก้าว ระยะทางไกลเท่าไร และมีสัญญาณเตือนเมื่อเรานั่งอยู่กับที่ไม่ลุกไปไหนเป็นเวลานาน เหมือนมีคนคอยเตือนให้เราแอ็คทีฟอยู่เสมอ
(Some images used under license from Shutterstock.com.)