ศัลยกรรมทำลักยิ้ม สร้างเสน่ห์ใครๆ ก็มีได้

ศัลยกรรมทำลักยิ้ม สร้างเสน่ห์ใครๆ ก็มีได้

 

 

ว่ากันว่าหญิงใดมีแก้มเป็นหลุมหรือมีลักยิ้มนั้น เป็นเครื่องหมายที่แสดงว่าบุคคลนี้เป็นคนมีเสน่ห์รัดรึงใจชาย นิสัยรักสวยรักงามชอบการแต่งตัว เป็นสาวทรงเสน่ห์ส่งผลให้สาวเล็กสาวใหญ่ที่แก้มอิ่มเอิบ อยากจะมีรอยบุ๋มหรือลักยิ้มเป็นของตัเองกับเขาบ้างทั้งนี้ เมื่อพูดถึงเรื่องของลักยิ้มแท้จริงแล้ว เป็นสิ่งที่สืบทอดทางพันธุกรรม จึงมิได้ติดตัวมากับทุกคน สาวใดที่พกติดตัวมาแต่กำเนิดก็นับว่าโชคดีไป แต่สาวใดที่ไม่พกติดตัวมาด้วย ก็มาหาเอาข้างหน้าได้เช่นกัน เพราะทุกวันนี้ในวงการศัลยกรรมความงาม ก็สามารถเนรมิตสิ่งที่ขาด สิ่งที่หายไปให้เกิดขึ้นมาได้แล้วเช่นกัน ดังนั้น การทำศัลยกรรมลักยิ้ม จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างสรรค์รอยยิ้มทรงเสน่ห์แสนหวานให้กับสาวๆ ได้

 

 

“ลักยิ้ม” รอยเล็กๆ ที่บุ๋มลงไปที่แก้ม เกิดจากเนื้อที่ทับซ้อนกัน สามารถมองเห็นได้โดยเฉพาะเวลายิ้ม ปกติแล้วลักยิ้มจะมีอยู่ที่แก้มทั้งสองข้าง และอาจมีอยู่ตลอดไปหรือชั่วคราวก็ได้ ลักยิ้มอาจเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นพันธุกรรมลักษณะเด่น (Dominant Trait) หรือ เกิดจากการศัลยกรรมก็ได้ โดยลักยิ้มตามธรรมชาติเกิดจากรูปแบบหนึ่งของกล้ามเนื้อไซโกมาติคัส เมเจอร์ (Zygomaticus Major Muscle) ที่มีลักษณะเป็นสองแฉก กล้ามเนื้อนี้มีจุดเกาะต้นอยู่ที่กระดูไซโกมาติก แล้วทอดตัวลงมาแยกออกเป็นสองแฉก แฉกแรกมีจุดเกาะปลายอยู่บนมุมปาก อีกแฉกอยู่ล่างบริเวณที่ทั้งสองแฉกแยกกันจะเกิดเป็นรอยบุ๋ม คือ “ลักยิ้ม” นั่นเอง ลักยิ้มจัดว่าเป็นเสน่ห์เล็กๆ บนใบหน้าที่สร้างจุดขายในตัวเราได้ไม่น้อย ปัจจุบันมีดารานักร้อง นักแสดงมากมายที่สร้างจุดขายความน่ารักสดใสด้วยลักยิ้ม

 

 

สำหรับลักยิ้มตรงแก้ม หรือมุมปาก มีลักษณะเป็นรอยบุ๋ม เมื่อยามเรายิ้มหรือออมยิ้ม ผู้คนมักมองว่าบุคคลนั้นเป็นคนอารมณ์ดี น่ารัก ไม่บึ้งตึง น่าคบหา บางทีลักยิ้มก็มีบทบาทในการเลือกคู่ในบางวัฒนธรรม ซึ่งรวมถึงทางเอเชียด้วย ที่เห็นว่าลักยิ้มเป็นเครื่องหมายแห่งความน่ารักมีเสน่ห์ และจริงใจเรียกว่ายิ้แล้วทำให้โลกนี้สดใสขึ้นมาเลยทีเดียว

 

 

เมื่อลักยิ้มสามารถสร้างบุคลิกคนได้เช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเราต้องหันหน้าไปพึ่งคุณหมอเพื่อมอบรอยยิ้มบนใบหน้า เพื่อช่วยให้โลกนี้สดใสขึ้นมาอีกนิด แม้ว่าการทำลักยิ้มนั้นจะไม่ยุ่งยาก แต่การทำที่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็จะยิ่งช่วยให้คุณมั่นใจในรอยยิ้มมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วลักยิ้มของคนเรานั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ

 

 

1.แบบจุด ลักษณะจะเป็นรอยบุ๋มลงไปเล็กๆ

 

 

2.แบบขีด มักจะเป็นแนวยาวในแนวดิ่ง อาจจะยาวประมาณครึ่งเซนติเมตร ซึ่งตำแหน่งลักยิ้มที่สวยงามนั้น มักจะขึ้นกับความพอใจของแต่ละบุคคล แต่การทำลักยิ้มนั้นทำได้หลายตำแหน่ง ส่วนใหญ่คนที่เข้ารับการปรึกษาแพทย์จะถามเกี่ยวกับจำนวนลักยิ้ม บางคนอยากได้ข้างเดียวหรือสองข้าง ขนาดเท่าไร รูปร่างอย่างไร ความลึกของลักยิ้ม ตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งปกติแล้วลักยิ้มมักจะอยู่ใกล้ๆ มุมปาก อาจจะอยู่เหนือ หรือใต้ หรือระดับเดียวกัน หรือออกไปด้านข้างไกลออกไป ซึ่งกรณีที่ต้องการให้รอยลักยิ้มอยู่ไกลออกไปมาก และอาจค่อนไปด้านบน แต่ถ้าเลยไปมากก็ควรระมัดระวัง เพราะอาจเสี่ยงต่อเส้นประสาทใบหน้าได้ ในส่วนของผู้เดินห้าเข้าพบคุณหมอที่สามารถเชื่อถือได้

 

 

โดยทั่วไปการทำลักยิ้มมีขั้นตอนที่ง่าย และใช้เวลาไม่นาน โดยประมาณแล้วอยู่ที่ 30 นาทีเท่านั้น แถมยังไม่ต้องนอนพักฟื้นอยู่โรงพยาบาล ผู้เข้ารับการบริการสามารถกลับบ้านได้และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ โดยแพทย์ที่ทำการรักษาจะทำมาร์คจุดที่ทำลงบนแก้มของคนไข้ ตามด้วยการฉีดยาชา และทำการเย็บชั้นใต้ผิวหนังเป็นรอยเล็กๆ เพื่อเชื่อมระหว่างผิวหนัง และกล้ามเนื้อแก้ม สุดท้ายคือการเย็บปิดแผลด้วยไหม โดยการทำปมเล็กๆ เพื่อทำให้เกิดลักยิ้มนั้นเอง ซึ่งผลจากการทำนั้นจะสามารถดูเป็นธรรมชาติได้จะอยู่ในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือนแรก และเห็นลักยิ้มตลอดเวลาในขณะที่ยิ้มหรือไม่ยิ้ม หลังทำการผ่าตัด 1 เดือน

 

 

การเตรียมตัว

 

จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนัก ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติก่อนผ่าตัด ดูแลทำความสะอาดใบหน้า รวมถึงงดการแต่งหน้าเพื่อความสะอาด ควรแปรงฟันทำความสะอาดช่องปากหรือบ้วนน้ำยาร่วมด้วย ในส่วนของอาหาร หรือวิตามินเสริมนั้น ในรายที่รับประทานบำรุงผิว เช่น อีฟนิ่งพริมโรส วิตามินอี ก็ควรงดไปก่อน งดอาหารที่มีส่วนของกระเทียม หัวหอม ถั่วเหลือง เพราะทำให้เลือดออกผิดปกติ นอกจากนี้ในส่วนของกลุ่มยาต่างๆ ที่ควรงดคือ กลุ่มที่ทำให้เลือดหยุดยาก เช่น ยาต้านการอักเสบ (NSAID) แอสไพรินและแน่นอนว่าใครที่มีโรคประจำตัวอยู่หรือแพ้ยาตัวใดต้งอแจ้งให้แพทย์ทราบ และควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ด้วย เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว ในส่วนของขั้นตอนการผ่าตัดนั้น โดยทั่วไปแพทย์จะให้คนไข้เป็นผู้เลือกตำแหน่งของลักยิ้มเอง โดยใช้ปากกากำหนดตำแหน่งที่กำลังจะทำลักยิ้มแล้วลองยิ้มดู จนกว่าจะได้ตำแหน่งที่พอใจ แต่หากคนไข้ไม่สามารถตัดสินใจได้ แพทย์จะช่วยให้คำแนะนำได้ ส่วนหลักการที่จะทำให้เกิดลักยิ้มนั้น โดยการเย็บกล้ามเนื้อเข้ากับชั้นผิวหนัง แต่รายละเอียดเทคนิคก็แตกต่างกันไปตามความถนัด ถ้าต้องการทำทั้ง 2 ข้าง ก็ทำการวัดเพื่อให้ได้ระยะที่เท่ากัน หลังจากนั้นก็จะฉีดยาชาบริเวณที่จะทำการผ่าตัด และตัดบริเวณเยื่อบุและกล้ามเนื้อในกระพุ่งแก้มให้ถึงชั้นไขมัน จากนั้นก็เย็บบริเวณชั้นผิวหนังกับกล้ามเนื้อบริเวณกระพุ้งแก้ม สุดท้ายเย็บปิดบริเวณเยื่อบุกระพุ้งแก้มด้วยไหมละลาย

 

 

ทั้งนี้อาการและผลข้างเคียงหลังการผ่าตัดอาจมีได้ เช่น ช่วงแรกอาจบวมให้ผู้ทำการผ่าตัดประคบเย็นโดยปกติ จะบวมในช่วง 3-5 วันแรก อาการปวดและบวมจะค่อยๆ ลดลงตามลำดับ รอยบุ๋มช่วงแรกจะมีตลอดทั้งเวลาที่ยิ้มหรือไม่ยิ้มเป็นเวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ แล้วจะค่อยๆ หายไปเหลือเฉพาะที่มีการแสดงสีหน้าโดยการยิ้ม

 

นอกจากนี้การดูแลรักษาในด้านอื่นหลังการผ่าตัดลักยิ้มแผลทางช่องด้านในปากในระยะแรก ควรงดอาหารที่มีรสจัด หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณแผลผ่าตัด รวมถึงรับประทานยาแก้อักเสบตามแพทย์ส่งอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการอักเสบของแผลหรือแผลแยกก่อนเวลา ภายหลังการผ่าตัดลักยิ้มจะมีรอยบุ๋มเกิดขึ้นตลอดเวลาแม้จะไม่ได้ยิ้มก็ตาม จะเป็นเรื่องปกติในระยะ 1-3 เดือนแรก เนื่องจากพังผืดยังไม่คลายตัว เมื่อพังผืดคลายตัวแล้ว ที่นี้รอบุ๋มของลักยิ้มก็จะเกิดขึ้นเฉพาะเวลาที่ยิ้มเท่านั้น

 

 

วิธีการดูแลตนเองหลังเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมลักยิ้ม

 

1.ประคบเย็นทันทีที่แก้มทั้ง 2 ข้าง หลังการผ่าตัดเป็นเวลา 48 ชั่งโมง อย่างต่อเนื่อง โดยอุปกรณ์ที่ใช้ประคบเย็นแนะนำเป็นกระป๋องอะลูมิเนียมหุ้มด้วยผ้านุ่มๆ (เช่น น้ำอัดลม เบียร์) แช่ช่องตู้เย็น หรือช่องแช่แข็งและสบับนำมาประคบให้ต่อเนื่องที่สุด หากพ้นระยะ 48 ชั่วโมง ให้ปล่อยไว้เฉยๆ ไม่ควรประคบร้อนหรือเย็นทั้งสิ้น เพราะอาการบวมจะมีต่อไปอีกประมาณ 4-5

 

 

2.นอนยกหัวสูงหรือนั่งหลับ 48 ชั่วโมง และตระหนักไว้ว่าอาการบวมอย่างมากช่วง 3-7 วันแรก เป็นอาการปกติ ไม่ได้กังวลเรื่องรูปทรงปาก เพราะช่วงแรกปากจะบวมมาก และบวมไม่เท่ากัน การทุเลาของอาการอาจใช้เวลา 1 เดือน

 

 

3.ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารร้อน ของหมักดอง ส่วนการทำความสะอาดใช้น้ำยาบ้วนปากที่ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือน้ำเกลือผสมน้ำยาบ้วนปากที่เจือจาง ตามด้วยการบ้วนน้ำเกลือเปล่าๆ อีก 1 ครั้งในช่วง 3-4 วันแรก การแปรงฟันสามารถแปรงได้เบาๆ ในวันที่ 2 หลังการผ่าตัด

 

 

4.ไหมที่ใช้เป็นไหมละลาย ไม่ต้องตัดไหม และไม่ต้องกังวลหากมีไหมค่อยๆ หลุดทีละเส้น

 

 

5.หลังจากรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งจนหมดแล้วไม่ต้องซื้อรับประทานเองเพิ่ม ให้ทานได้เฉพาะยาแก้ปวดพาราเซตามอลเท่านั้น ในกรณีที่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มักมีสาเหตุมาจากอาการข้างเคียงจากการทานยาแก้อักเสบ Cloxacilline ให้หยุดยา หรือใช้ Amoxicilline 500 mg หลังอาหาร 1 เม็ด 4 เวลา (เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน) ทานยาต่อเนื่องทั้งหมด 7 วัน และสามารถทานยาแก้คลื่นไส้อาเจียนได้ (Domperidone)

 

 

6.ต้องมาตรวจซ้ำตามใบนัดแพทย์ทั้งนี้ หลังการทำลักยิ้มจากหลายๆ กระแสก็มักมีบางรายที่ระบุว่ามีปัญหาที่แก้ไม่ตกที่ได้มาจากการทำลักยิ้ หลักๆ คือ แก้มไม่เท่ากัน บริเวณโหนกแก้มนูนออกมาเวลายิ้มหรือมีภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น มีเลือดออกจากการผ่าตัด ทำให้เกิดการบวมเขียวช้ำมากบริเวณแก้ม เกิดจากการผ่าตัดโดนเส้นเลือดที่มีขนาดใหญ่พอสมควร ถึงแม้จะทำการห้ามเลือดได้ ในขณะที่ทำผ่าตัดลักษณะเขียวช้ำก็จะยังคงอยู่ เนื่องจากมีเลือดแทรกไปตามเนื้อเยื่อบริเวณแก้มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

อย่างไรก็ตามการบวมเขียวช้ำนี่ ร่างกายก็จะสามารถดูดซึมและหายไปในที่สุดได้ หรือบางรายลักยิ้มไม่ได้เกิดขึ้นในขณะที่ยิ้ม แต่กลับมีขึ้นขณะที่ทำการขยับปากในลักษณะอื่น เช่น อาจเกิดรอยบุ๋มขึ้นในขณะที่จู๋ปาก เป็นต้น สาเหตุเนื่องมาจากการยึดผิวหนังเข้ากับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการจู๋ปาก การแก้ไขปัญหาทำได้โดยเข้าไปแยกผิวหนังออกจากกล้ามเนื้อดังกล่าว แล้วทำลักยิ้มที่ตำแหน่งใหม่ รวมไปถึงลักยิ้มหายไป ในกรณีนี้เกิดจากผิวหนังไม่ได้ยึดติดกับกล้ามเนื้อด้านล่างอย่างถาวร แต่ในระยะแรกมีลักยิ้มเกิดขึ้นเนื่องจากไหมที่ใช้เย็บใต้ผิวหนังให้ติดกับกล้ามเนื้อทำหน้าที่ยึดทั้ง 2 ส่วนเข้าหากัน เมื่อไหมหลุดออกจากส่วนใดส่วนหนึ่งลักยิ้มก็จะเลือนหายไปเหมือนไม่ได้ทำการผ่าตัด การแก้ไขทำได้โดยการทำผ่าตัดใหม่อีกครั้ง จะว่าไปแล้ว ในรายที่ทำแล้วไม่ถูกใจ ลักยิ้มสามารถแก้ได้ เมื่อทำลักยิ้มแล้วลักยิ้มจะมีเวลาที่แสดงสีหน้าโดยการยิ้ม เมื่อเวลาผ่านไป 6-8 สัปดาห์ที่ลักยิ้มเข้าที่ ยกเว้นถ้าลักยิ้มนั้นหายไป อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งอาจเกิดจากไหมที่เย็บไว้หลุดสามารถแก้ไขโดยการทำซ้ำ หรือถ้าหากว่าไม่พอใจในแง่ตำแหน่งที่ทำหรือว่ารูปทรงแล้ว ต้องการแก้ไขให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ โดยการตัดไหมที่เย็บไว้ แล้วเปลี่ยนตำแหน่งที่เย็บใหม่นั้นเอง

 

 

“การทำศัลยกรรมลักยิ้ม คือ การผ่าตัดศัลยกรรมแบบเล็ก เพื่อสร้างลักยิ้มขึ้นมา สำหรับผู้ที่ต้องการจะมีลักยิ้ม โดยหมอจะผ่าตัดเนื้อในช่องปากเพื่อให้กเกิดช่องว่าง แผลจะอยู่ในช่องปาก จากนั้นจึงทำการเย็บเพื่อทำให้เกิดรอยลักยิ้ม ให้ปรากฏบนแก้มภายนอก ทั้งนี้ในการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที เมื่อทำแล้วก็กลับบ้านได้ทันที ใช้ระยะเวลาในการรักษาจนแผลหายปราณ 3-4 วัน ทั้งนี้หลังการทำศัลยกรรมลักยิ้มในช่วงแรกประมาณ 1-2 เดือน สาวๆ คงต้องทำใจกันเล็กนอ้ย เพราะจะเห็นเป็นรอยบุ๋มทั้งเวลายิ้ม และไม่ยิ้ม แต่หลังจากนั้นไป จะค่อยๆ กลายเป็นธรรมชาติขึ้น เห็นเฉพาะเวลายิ้ม เหมือนลักยิ้มของคนทั่วไป นอกจากนี้อยากฝากถึงสาวๆ ที่คิดจะเลือกทำศัลยกรรมไม่ว่าจะเป็นศัลยกรรมลักยิ้ม หรือศัลยกรรมอะไรก็ตามแต่ ก็ต้องเลือกดูก่อนว่า สถานที่ที่จะทำนั้น มีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด น่าเชื่อถือหรือไม่ เพราะหากมีปัญหาตามมาแล้วก็ไม่คุ้มค่ากับเวลา และเงินทองที่เสียไปอย่างแน่นอน”

 

 

นพ.ปิยพล พัฒนครู

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า

---