
© 2017 Copyright - Haijai.com
Q : ดิฉันมีปัญหาเรื่องรอยคล้ำใต้ตา มีวิธีไหนที่จะปกปิด หรือรักษาให้ออกมาดูเนียนกลมกลืนไปกับผิวได้บ้าง ที่ผ่านมามีแต่คนแนะนำให้หาครีมบำรุง เพื่อไม่ให้เกิดตาแพนด้า ดิฉันก็หาซื้อมาใช้นะคะ แต่ก็ไม่หาย รอลคล้ำใต้ตายังมีอยู่ แล้วดิฉันก็ไม่ใช่คนนอนดึกด้วย จึงอยากขอคำปรึกษาค่ะ
A : ปัญหารอยคล้ำใต้ตา เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย และมักจะเป็นมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาด้านความสวยงาม เนื่องจากการมีรอยคล้ำใต้ตาอาจทำให้ดูเศร้า เหนื่อย และดูอายุมากกว่าที่เป็นจริงได้
การเกิดรอยคล้ำใต้ตามีสาเหตุหลัก 3 ประการ คือ
1.รอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากการสร้างเม็ดสีบริเวณผิวหนังใต้ตาเพิ่มขึ้น มักพบในภาวะรอยดำที่เกิดตามหลังการอักเสบในผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ที่ผิวหนังเรื้อรัง (atopic dermatitis) หรือการแพ้จากการสัมผัสสารต่างๆ (allergic contact dermatitis) รอยคล้ำใต้ตาจากสาเหตุนี้มักมีสีออกเทา เมื่อเอามืดรีดผิวหนังบริเวณนั้น รอยคล้ำก็จะไม่จางไป รอยคล้ำใต้ตาจากสาเหตุนี้ สามารถรักษาด้วยการใช้ครีมที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสี เช่น ไฮโดรควิโนน Arbutin Licorice Kojic หรือครีมที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ หรือสามารถใช้เลเซอร์กำจัดเม็ดสีทำให้รอยคล้ำใต้ตาจางลงได้
2.รอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากการมีผิวหนังใต้ตาบาง หรืออาจมีชั้นไขมันใต้ผิวหนังบริเวณนั้นบางลงร่วมด้วย รอยดำใต้ตาจากสาเหตุนี้ มักเกิดจากเส้นเลือดใต้ผิวหนัง รอยคล้ำใต้ตาจากสาเหตุนี้ มักจะมีสีออกม่วง และเห็นชัดมากบริเวณด้านหัวตา โดยเฉพาะในช่วงที่มีประจำเดือน รอยคล้ำใต้ตาจากสาเหตุนี้ไม่ตอบสนองต่อการทายา แต่จะตอบสนองดีต่อการรักษาด้วยเลเซอร์กำจัดเส้นเลือด หรือการฉีดสารเติมเต็ม เพื่อทำให้ผิวหนังดูหนาขึ้นได้
3.รอยคล้ำใต้ตาจากการที่มีผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อย จนทำให้เกิดเงาดำใต้ตา มักเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น รอยดำใต้ตาจากสาเหตุนี้มักพบการมีรอยย่นรอบดวงตาด้วย ในรายที่เป็นมากๆ อาจมีถุงใต้ตาร่วมด้วยได้ การรักษารอยคล้ำใต้ตาจากวิธีนี้สามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น เลเซอร์หรือคลื่นความถี่วิทยุที่มีผลทำให้ผิวหนังใต้ตากระชับขึ้น การฉีดสารเติมเต็มเพื่อทำให้ร่องน้ำตาตื้นขึ้น หรือในรายที่เป็นมากๆ หรือมีถุงใต้ตาขนาดใหญ่ อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
ร.ศ.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา
ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
(Some images used under license from Shutterstock.com.)