Feeling Lonely ความรู้สึกเหงา

Feeling Lonely ความรู้สึกเหงา

Exploring emotions  จะช่วยให้เข้าใจถึงอารมณ์ในด้านต่างๆ ของลูกได้เป็นอย่างดี คุณพ่อคุณแม่มาร่วมกันสำรวจอารมณ์ความรู้สึกของลูกไปพร้อมๆ กัน เพื่อช่วยให้เด็กรู้จักและพูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึกของพวกเขาได้อย่างเข้าใจ

เราทุกคนต่างก็เคยมีประสบการณ์ที่เฉียดเข้าใกล้กับความรู้สึกเหงา และการต้องแยกจากกันในช่วงหนึ่งของชีวิต ความเหงามีหลายรูปแบบ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้เมื่อเราต้องแยกจากครอบครัว เพื่อน คนรัก เป็นต้น และเมื่อใดก็ตามที่มีการแยกจากกันเกิดขึ้น ไม่ช้าไม่นานความรู้สึกเหงาก็มักที่จะเข้ามาแทนที่ทั้งตัวและหัวใจของเรา ใครก็ตามที่มีความรู้สึกเหงาเกิดขึ้น มักจะทำให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวันเป็นไปได้ค่อนข้างยากลำบาก เพราะขาดกำลังใจ โหยหาคำปลอบโยน อ้อมกอด จากพ่อแม่หรือจากคนรัก  ความรู้สึกเหงาที่เกิดขึ้น จำเป็นต้องมีการเยียวยารักษาให้คนหนึ่งคนรู้สึกดีขึ้น การรักษาที่ดีก็คือการรักษาด้วยความรู้สึกรัก เพราะความรักเป็นพื้นฐานของมนุษย์ ที่จะช่วยให้แข็งแกร่งขึ้นมาได้ ดังนั้นความรักจึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับมนุษย์เราทุกคน เนื่องจากความรักจะเป็นส่วนที่สนับสนุนให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น

คุณในฐานะพ่อแม่ของลูก เคยสังเกตกันบ้างหรือเปล่าว่าลูกๆ ที่บ้านของคุณได้กำลังเผชิญหน้าอยู่กับความรู้สึกเหงาบ้างหรือเปล่า การสังเกตพฤติกรรมของลูกทั้งด้านอารมณ์ ความรู้สึก การแสดงออกในทุกๆ เรื่องของลูกหากผิดแปลกออกไปจากปกติที่ลูกเคยเป็น เช่น จากที่ลูกเป็นเด็กร่าเริง สดใส ช่างพูด หัวเราะ ยิ้มแย้ม ขี้เล่น แต่อยู่มาวันนึงลูกกลับมีพฤติกรรมที่ตรงกันข้าม กลายเป็นเด็กที่ นิ่ง เงียบ ไม่ค่อยพูด เวลาที่เจอหน้าพ่อแม่ก็จะโผเข้าใส่ นั่นอาจเป็นไปได้ว่าลูกกำลังตกอยู่ในห้วงของความรู้สึกเหงา โหยหาความรัก อ้อมกอดจากพ่อแม่

การสังเกตลูกจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้คุณรับรู้ความรู้สึกของลูกได้เป็นอย่างดี และในเมื่อรู้แล้วว่าลูกเหงา ลูกโหยหาคุณ สิ่งที่คุณต้องทำอย่างเร่งด่วนเลยก็คือการนั่งพูดคุยกับลูก เพื่อจะได้รู้ว่าตอนนี้ ขณะนี้ วินาทีนี้ลูกต้องการอะไร ถ้าลูกบอกว่าเหงาคุณก็ควรที่จะแทนที่ความเหงาของลูกด้วยการอยู่ทำกิจกรรมต่างๆ กับลูก พาลูกออกไปเที่ยวพักผ่อน ทานข้าวกับลูก อ่านหนังสือ ดูทีวีรายการโปรดร่วมกับลูก วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ควรเป็นวันสำหรับทุกคนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน การดึงลูกกลับมาอยู่กับความจริงที่ว่าพ่อแม่ก็ยังอยู่ข้างๆ กับลูก ไม่ได้ทอดทิ้ง จะช่วยให้เด็กหลุดพ้นจากความรู้สึกว่าตัวเองเหงา ไม่มีใครไปได้คะ

Share your own experiences แบ่งปันประสบการณ์ของคุณ

พูดคุยกับเด็กๆ เกี่ยวกับความรู้สึกเหงาที่ครั้งหนึ่งก็เคยเกิดขึ้นกับตัวคุณเอง และคุณก็เคยต้องการให้คนรอบข้างเข้าใจคุณด้วยว่าตอนนี้คุณกำลังรู้สึกเหงา ต้องการใครสักคนมาอยู่ข้างๆ หรือเวลาที่คุณเหงาคุณหาทางออกอย่างไรบ้าง เพื่อให้ตัวคุณเองอยู่ได้ในช่วงที่มีความรู้สึกเหงาเกิดขึ้นมา การแบ่งปันประสบการณ์ระหว่างคุณกับเด็กๆ หากจะทำให้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเบื่อในการพูด คุณอาจใช้เทคนิคการเขียนลงบนกระดาษ เช่น “ฉันเหงาเมื่อ..” “ฉันมีวิธีแก้ความเหงาโดยการ...” และปล่อยให้เด็กๆ พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่แตกต่างกันที่ทำให้พวกเขารู้สึกเหงา สุดท้ายสิ่งสำคัญคือคุณในฐานะพ่อแม่ ควรให้คำแนะนำแก่เด็กในการที่จะรับมือกับความรู้สึกเหงาให้ได้นั้นต้องทำอย่างไร

Using visual images การใช้รูปภาพ

เรื่องของความเหงาใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้กับเด็กๆ เท่านั้น เพราะในสังคมปัจจุบันความเหงาเกิดขึ้นได้กับทุกคนในครอบครัว ยิ่งโดยเฉพาะคุณตา คุณยาย คุณปู่ คุณย่า ฉะนั้นการสอนให้เด็กๆ รู้จักแบ่งปันความสุขให้กับคนที่อยู่ในบ้านด้วยนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่หากครอบครัวไหนไม่มีปู่ ย่า ตา ยาย แต่หากอยากให้เด็กมองเห็นภาพชัดๆ คุณอาจหาข่าว หรือนิตยสารที่ลงเกี่ยวกับบ้านพักคนชรา เล่าอธิบายให้เด็กๆ ฟังว่า ตายาย ที่อาศัยอยู่นั่นก็มีความเหงาเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ความเหงาอาจมาจากความคิดถึงลูกหลาน คิดถึงเพื่อน คิดถึงญาติ คุณลองพาเด็กๆ ไปเยี่ยมเยียนพูดคุยกับผู้สูงอายุเหล่านั้นดูบ้าง ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ใช่คนในครอบครัวก็ตาม การพาเด็กๆ ให้ออกไปสู่สังคมของความเป็นจริงดูบ้างจะช่วยให้เด็กเข้าใจการใช้ชีวิตได้ดีมากขึ้น และก็จะเข้าใจว่าความเหงาที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเองนั้นเป็นความรู้สึกเหงาเพียงเล็กน้อยไม่ใช่เรื่องใหญ่ และความเหงาจะหายไปเมื่อเวลาที่พ่อแม่กลับมาบ้าน แล้วได้ใช้ทุกช่วงเวลาที่มีทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน

“ความเหงาเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่หัวใจดวงน้อยของคุณพ่อคุณแม่ หากเมื่อใดก็ตามที่ความเหงาเกิดขึ้นกับพวกเขา นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าน่าจะมีความผิดปกติใดเกิดขึ้น หากมีละก็อย่าช้าที่จะทำความเข้าใจกับลูก อย่าปล่อยให้ความรู้สึกเหงาเกาะกุมหัวใจดวงน้อยที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคุณ”