Haijai.com


สัญญาณเตือนว่าชีวิตรักมีปัญหา


 
เปิดอ่าน 3585

สัญญาณเตือนว่าชีวิตรักมีปัญหา

 

 

เมื่อคนสองคนเกิดความรักในกันและกันแล้ว ความอยากจะอยู่ใกล้ชิดกันเป็นความปรารถนาอย่างแรงกล้า จนนำไปสู่การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน หลายต่อหลายคนเห็นภาพของพระเอกนางเอกโผเข้ากอดกันเป็นบทสุดท้ายแห่งภาพยนตร์ แต่นั่นเป็นบทเริ่มต้นของสัมพันธภาพในการมีชีวิตคู่ที่จะต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน และหลายต่อหลายคนก็เกิดอาการน้ำผึ้งเริ่มไม่หวานเหมือนวันวาน หลังจากใช้ชีวิตร่วมกันไปสักระยะเวลาหนึ่ง และสัญญาณเตือนก็เริ่มออกมาให้เห็นว่าชีวิตรักน่าจะเกิดปัญหาแล้ว

 

 

1.เริ่มรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อได้อยู่คนเดียว เมื่อไรก็ตามที่ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นก็แสดงว่าความห่วงหาอาทรในกันและกันเริ่มน้อยลง ชีวิตรักนั้นเป็นความผูกพันทางใจที่มองไม่เห็นสายใยแห่งรัก แต่สามารถที่จะสัมผัสได้ ถึงแม้ว่าบางครั้งจะอยู่ห่างไกลกันแต่ก็ยังคำนึงถึงกันและกันอยู่เสมอ แต่เมื่อไรที่คุณหรือคู่ของคุณเริ่มห่วงหาอาทรในกันและกันลดลง ก็แสดงว่ามีหรือไม่มีอีกคนหนึ่งก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับการดำเนินชีวิต นี่เป็นสัญญาณเตือนแรกๆ ที่แสดงว่าปัญหาเริ่มเกิดแล้ว

 

 

2.เห็นเพื่อนและงานดีกว่า อาการต่อเนื่องจากข้อแรกก็คือ แต่ละคนจะพยายามหาเหตุผลที่จะเจอกันน้อยลงไม่ว่าจะเป็นการอ้างว่างานมากจนไม่มีเวลา หรือมีงานสังสรรค์ในหมู่เพื่อนที่จะต้องไปคนเดียว หรือติดงานประชุมต่างจังหวัด รวมทั้งพยายามหาเรื่องที่จะทำงานจนเกินพอดี โดยเฉพาะไม่มีการหยุดพักผ่อนในวันหยุดสัปดาห์ และพยายามที่จะทำงานโอเวอร์ไทม์ ทั้งๆ ที่ไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน

 

 

3.เริ่มเกิดปัญหาทางการเงิน ถ้าเป็นการเก็บเงินร่วมกันก็จะเริ่มมีการไถ่ถามการใช้จ่ายของกันและกันอย่างละเอียดเพิ่มขึ้น ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนนี้ไว้ใจไม่มีการถามไถ่กันมากนัก หรือถ้าเป็นการเก็บแบบเงินใครเงินมันก็จะเริ่มไม่มีการพูดถึงรายได้ของกันและกันให้อีกคนหนึ่งได้รับรู้ รวมทั้งอาจมีการจับได้ว่ามีการปิดบังซ่อนเร้นเงินกัน อาการแบบนี้เป็นอาการที่ไม่ค่อยจะดีมากๆ ในการมีสัมพันธ์รักที่ราบรื่น

 

 

4.เกิดความระแวงแคลงใจกัน เคยไว้วางใจกันไม่ได้ถามไถ่ในเรื่องราวเกี่ยวกับการงานก็จะเริ่มสอบถาม ไปไหนกับเพื่อนต่างเพศก็จะเริ่มเกิดความรู้สึกสงสัยว่าจะมีนอกมีใน บางรายก็แอบดูข้อความที่ส่งถึงกันทางสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจากโทรศัพท์ จากอีเมล์ถ้าสามารถทำได้ หรือมีการตรวจสอบกันและกันว่า ที่บอกมาว่าอยู่ที่นั้น ทำแบบนั้น ไปกับใครคนนั้นเป็นเรื่องจริงไหม

 

 

5.ความสงบเริ่มหมดไป เกิดการโต้เถียงกันขึ้นแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย และไม่ค่อยมีการยอมความกันเหมือนเมื่อก่อนที่รักกันใหม่ๆ และเวลาโต้เถียงกันก็จะพยายามเอาชนะโดยไม่ยอมรับฟังเหตุผลของกันและกัน เรียกว่าตั้งธงไว้เลยว่า "ฉันถูก เธอผิด" และไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมรับผิดหรือกล่าวคำขอโทษเหมือนเดิม

 

 

6.เริ่มโกหกกันและเลิกไว้วางใจกันอีกต่อไป ต่อจากความระแวงแคลงใจกัน ถ้าสัมพันธภาพเริ่มเลวลงมากกว่าเดิมก็จะเริ่มโกหกในเรื่องที่ไม่อยากให้อีกคนหนึ่งได้รับรู้ และแม้ว่าจะจับโกหกได้ก็ยังหาทางโกหกซ้ำซากโดยวิธีการต่างๆ ทำให้เริ่มไม่ไว้วางใจในกันและกัน และเมื่อนั้นความรักก็จะเริ่มโบยบินจากไป

 

 

7.เห็นคนอื่นดีกว่า การมองเห็นคนอื่นที่เข้ามาในชีวิตดีกว่าคนที่อยู่ด้วยนั้น เป็นสัญญาณเตือนว่าเริ่มจะคิดว่าคนที่อยู่ด้วยนั้นไม่มีคุณค่าหรือคุณค่าน้อยลง รวมทั้งตนเองมีทางเลือกที่อาจจะดีกว่า และเมื่อนั้นก็จะเริ่มมองเห็นของใหม่ดีกว่าของเก่า

 

 

8.บ่ายเบี่ยงที่จะมีกิจกรรมทางเพศ พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการถูกเนื้อต้องตัวกัน หลีกเลี่ยงที่จะเข้านอนพร้อมๆ กัน และในระยะแรกถึงแม้ว่าจะมีสัมพันธ์สวาทกันก็จะรู้สึกว่าไม่เหมือนเดิม ไม่มีความสุขแบบเดิมและพยายามที่จะหาทางที่จะไม่มีเพศสัมพันธ์ถ้าทำได้ ถ้าเป็นแบบนี้แล้วละก็สัมพันธภาพเริ่มยากที่จะเยียวยาแล้ว

 

 

9.หาทางแยกห้องนอน แล้วก็มาถึงการไม่อยากที่จะนอนร่วมเตียงเดียวกัน เป็นสัญญาณเตือนสุดท้ายก่อนที่จะเตียงหัก

 

 

10.เริ่มมีใครสักคนพูดคำว่า "หย่า" ว่ากันว่าถ้าไม่อยากที่จะแยกทางกันจริงๆ แม้จะโต้เถียงไม่พอใจกันอย่างไรขอให้เว้นคำว่า "หย่า" เอาไว้ให้นานที่สุด เพราะเมื่อเริ่มมีใครสักคนคิดถึงเรื่องนี้ก็แสดงว่าอาจจะถึงจุดที่ไม่มีการเลี้ยวกลับแล้ว และยิ่งถ้าไม่เก็บไว้ในใจแต่พูดออกมาแล้วละก็ เริ่มนับถอยหลังวันที่จะแยกจากกันได้เลย

 

 

จำไว้เสมอว่า ความรักนั้นเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะให้ดำรงคงอยู่ จะต้องหมั่นเติมรักให้กันวันละนิด มองเห็นแต่ความดีของกันวันละหน่อย รักเพิ่มขึ้นวันละน้อยๆ แต่ขอให้รักนานๆ

 

 

ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์

(Some images used under license from Shutterstock.com.)