บ้าน ที่น่าอยู่ที่สุดในโลก บ้านคือสวรรค์วิมานโดยแท้

บ้าน ที่น่าอยู่ที่สุดในโลก

เคยเป็นไหมคะ ที่เวลาเห็นบ้านสวยๆ หลังใหญ่ๆ ในย่านที่น่าอยู่ แล้วเราคิดว่าใครกันนะที่อยู่ในบ้านหลังนั้น หลังนู้น แล้วก็หลังนี้ เขาอยู่กับใคร ? อยู่กันกี่คน ? เป็นครอบครัวแบบไหนกันนะ ? คล้ายๆ กับเวลาที่เห็นคฤหาสน์ของฝรั่งแล้วนึกถึงความสัมพันธ์ ที่แสนจะลึกลับซับซ้อนของตัวละครแต่ละคนในหนังเรื่อง “Dangerous Liaisons” อะไรประมาณนั้น หรือเมื่อได้ไปเห็นบ้านของใครบางคนที่อยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด เมื่อเดินเข้าไปเราก็สามารถสัมผัสถึงความโดดเดี่ยวนั้นได้ในแทบทุกมุมของบ้านกันเลยทีเดียว

บ้านที่น่าอยู่ที่สุดในโลก น่าจะเป็นบ้านที่เจ้าของบ้านหรือผู้อยู่รู้สึกดี สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง จะอบอุ่นครื้นเครงในแบบครอบครัวหรือเงียบสงบเหมาะกับการทำงานที่ต้องใช้สมาธิอยู่คนเดียวหรือต้องการพักผ่อนเมื่อกลับมาจากการทำงานที่วุ่นวายข้างนอก ถ้าสามารถตอบสนองอารมณ์ความรู้สึกที่ดีของผู้อยู่ได้แล้วล่ะก็ นั่นก็น่าจะเป็นบ้านที่น่าอยู่ที่สุดในโลกสำหรับคนผู้นั้นได้

สร้างบรรยากาศให้ลูกเป็นนักอ่าน

อ่านนิทานให้เจ้าตัวน้อยฟังตั้งแต่ห้าเดือนที่ลูกเริ่มนั่งได้เป็นต้นไป เอาลูกนั่งในตักแล้วอ่านนิทานให้เขาฟังทุกวัน อาจเป็นวันละสองรอบ เช่น ตอนสายๆ และก่อนนอน ทำเป็นประจำทุกวัน และคุณพ่อคุณแม่เองก็ควรอ่านหนังสือให้ลูกเห็นด้วยนะคะ ไม่ควรเปิดทีวีหรือมีทีวีในห้องที่ลูกนอนอยู่เลย ให้ลูกเห็นภาพพ่อแม่นั่งอ่านหนังสือจนชินตาติดตา เมื่อลูกเริ่มโตขึ้น ลูกก็จะรักการอ่านไปเองโดยปริยาย แต่ก็ยังไม่ควรหยุดนะคะ ควรจัดมุมอ่านหนังสือแสนสบายให้ลูก จัดวางหนังสือเอาไว้ในทุกห้อง เพียงเท่านี้ คุณก็ได้สร้างลูกน้อยที่เป็นนักอ่านตัวยงขึ้นแล้วล่ะค่ะ

สร้างบรรยากาศให้ลูกชอบทำอาหาร

ถ้าคุณพ่อหรือคุณแม่ชอบทำอาหารทานเองที่บ้านอยู่เป็นประจำก็ไม่น่าจะยากนะคะ ทำอาหารที่หลากหลายให้ลูกลองทาน ให้ลูกได้ใช้มือสัมผัสอาหารบางอย่างในการรับประทานบ้าง สอนการทำอาหารง่ายๆ และให้ลูกได้มีส่วนร่วมในการทำอาหารที่เด็กในวัยนั้นพอทำได้อย่างสม่ำเสมอ จัดห้องครัวให้มีส่วนที่เจ้าตัวน้อยสามารถเข้าไปหยิบหาสิ่งของได้เองโดย ปลอดภัย เก็บมีดและของมีคมไว้ในที่ๆ เด็กไม่สามารถหยิบเองได้ แนะนำให้ลูกได้รู้จักอุปกรณ์ที่อันตรายและไม่อันตราย สอนลูกใช้อุปกรณ์ต่างๆ อย่างถูกวิธี สร้างบรรยากาศการรับประทานอาหารที่ดี ให้เวลาอาหารเป็นเวลาที่พิเศษพร้อมหน้าพร้อมตากัน ก็จะช่วยให้เจ้าตัวน้อยของคุณรักการทำอาหารในเวลาต่อมาได้ค่ะ

บ้านคือสวรรค์วิมานโดยแท้

เห็นไหมคะว่าการจะสร้างเด็กให้เติบโตมาเป็นอย่างไรนั้นไม่ยากเลยค่ะ อยู่ที่การสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ในบ้านให้เป็นไปแนวทางนั้นและปรับเปลี่ยนไปตามวัย แต่สิ่งที่ยากน่าจะเป็นความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว ถ้าทุกคนมีความรู้สึกและสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน บ้านก็จะกลายเป็นวิมานแบบเฉพาะตัวที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมเลยทีเดียว บ้านและมุมต่างๆ ของบ้านเป็นเพียงสัญลักษณ์แทนความรู้สึกต่างๆ ในบ้าน ซึ่งความรู้สึกต่างๆ เหล่านั้น ก็คือความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างสมาชิกในบ้านนั่นเอง ไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ตาม เด็กที่เติบโตมาในบ้านที่มีความรัก ความเข้าใจและอบอุ่นจากสมาชิกในบ้าน ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร ไปอยู่ที่ไหน เขาก็จะเป็นคนที่มีความมั่นคงในจิตใจ และเป็นคนอบอุ่น ง่ายๆ เป็นกันเองมากกว่า ซึ่งเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ เพื่อนที่มาจากครอบครัวที่อบอุ่น เราก็จะรู้สึกสัมผัสถึงความรักความอบอุ่นที่อยู่ภายในตัวเขาได้ และดูเหมือนจะแผ่รัศมีกระจายถ่ายทอดมาถึงเราด้วยค่ะ