7 ขั้นตอนย้อนวัยให้รากผม (ศีรษะล้าน)

7 ขั้นตอนย้อนวัยให้รากผม (ศีรษะล้าน)

ถ้าพูดถึงเรื่องการคืนความอ่อนเยาว์ เราคงเคยได้ยินกันแต่การคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวใช่ไหมคะ แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนากระบวนการการรักษาเพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้กับรากผมและหนังศีรษะกันแล้ว ใช่ค่ะ เรากำลังพูดถึงความหวังใหม่ของผู้ที่มีปัญหาผมบ้าง ผมร่วง หรือ ศีรษะล้าน กระบวนการใหม่ที่ว่านี้ ได้แก่ “7 ขั้นตอนสู่การกลับมามีผมแข็งแรงและดกกำภายใน 14 วัน” ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพและให้ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่ก่อนที่เราจะเข้าสู่กระบวนการคืนผมสวยให้หนังศีรษะ เราลองมาทำความรู้จักกับสาเหตุและที่มาของปัญหานี้กันสักนิด

สาเหตุของผมร่วง ผมบาง เกิดจาก 3 สาเหตุหลักใหญ่ๆ ได้แก่

1.เกิดจากการเป็นโรค โรคทางกายทุกอย่างอัน เนื่องมาจากความอ่อนแอของร่างกายไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน โรคความดัน โรคไต โรคตับ และโรคที่เกิดขึ้นกับทุกอวัยวะนั้น สามารถทำให้เกิดอาการผมร่วงได้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการที่คุณมีอาการผมร่วงนั้น เป็นสัญญาณบ่งชี้ได้ว่าคุณกำลังเผชิญกับการเป็นโรคใดโรคหนึ่งอยู่นั่นเอง

2.สาเหตุจากพันธุกรรมหรือกรรมพันธุ์ ซึ่งหมายถึงการที่พ่อแม่ที่มีผมบางหรือศีรษะล้าน ก็จะส่งผลให้ลูกเป็นคนผมบางและศีรษะล้านในอนาคตได้เช่นกัน

3.สาเหตุจากวัยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งปัญหาที่พบอาจแบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ

1.เส้นผมที่เคยมีมากกลับดูน้อยลง เนื่องด้วยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผมลดขนาดลงเรื่อยๆ ซึ่งภาวะนี้เรียกว่า Miniturization (ภาวะการลดขนาดลงของเส้นผม) ซึ่งส่งผลให้ผมแลดูบางลง แม้ว่าปริมาณเส้นผมอาจจะยังไม่ได้ลดลงก็ตาม

2.ปริมาณเส้นผมลดลงตามวัยที่เพิ่มมากขึ้น กล่าวคือ จากเดิมตอนอายุยังน้อย ต่อมรากผม (Hair follicle) 1 ต่อม อาจมีจำนวนตอผม 4-6 เส้น แต่เมื่ออายุเริ่มมากขึ้นต่อมรากผม 1 ต่อม อาจจะเหลือตอผมเพียง 1-2 เส้น และอาจจะไม่เหลือเลยสักเส้น เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ความจริงแล้วปัญหานี้ อาจจะไม่เป็นปัญหาเลยสำหรับคนที่มีผมหนาเป็นทุนเดิม แต่สำหรับคนที่มีผมบางอยู่แล้ว คงต้องเสี่ยงสักหน่อยกับปัญหาศีรษะล้าน ซึ่งวิธีป้องกันที่ดีที่สุดเห็นจะเป็นการเริ่มต้นดูแลเส้นผมกันตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อคงปริมาณเส้นผมให้คงอยู่เท่าเดิม หรือไม่ก็พยายามเพิ่มปริมาณเส้นผมให้มีมากขึ้น หรืออาจเพิ่มความหนาของเส้นผมให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขึ้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

7 ขั้นตอนสู่การย้อนวัยให้ผมดกดำ

7 ขั้นตอนต่อไปนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านเลยก็ว่าได้ เพราะเป็น 7 ขั้นตอนที่เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง กลับมามีผมหนา แข็งแรง และดกดำเหมือนเมื่อครั้งคุณยังเป็นหนุ่มเป็นสาวแรกรุ่น

ขั้นตอนที่ 1 การนวดศีรษะ ซึ่งอาจจะใช้เครื่องนวดไฟฟ้าหรือใช้ Hair Specialist เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำเหลืองบริเวณหนังศีรษะให้ดีขึ้น

ขั้นตอนที่ 2 การใช้เครื่อง Oxygen jet เพื่อดับสาเหตุการขาดออกซิเจนของรากผม เครื่องนี้จะทำงานโดยการพ่นออกซิเจนแรงดันสูง เพื่อเติมออกซิเจนและนำพาสารอาหารมาเลี้ยงรากผม ช่วยให้รากผมที่อ่อนแอกลับฟื้นคืนความแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 3 การฉายแสง LED หรือ Light Emitting Diode จะเป็นการใช้แสงสีแดงที่ช่วงความยาวคลื่น 810 นาโนเมตร ไปกระตุ้นหนังศีรษะ ทำให้เกิดการไหลเวียนของโลหิต และกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดฝอยที่นำสารอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยงรากผม ในขณะเดียวกันก็ช่วยกระตุ้นเซลล์รากผมให้มีการแบ่งตัวเพิ่มขึ้น ช่วยให้รากผมแข็งแรงขึ้น และทำให้ผมที่มีอยู่เดิมมีเส้นที่หนาและใหญ่ขึ้น

ขั้นตอนที่ 4 การฝังเข็มเพื่อปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งการรักษาจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ

1.ช่วยในการปรับสมดุลของร่างกายให้กลับคืนเป็นปกติ

2.การฝังเข็มเพื่อกระตุ้บริเวณต่อมรากผมโดยใช้คลื่นกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ เข้ากระตุ้นการทำงานของรากผมและหนังศีรษะให้กลับฟื้นชีวิตขึ้นมาใหม่

ขั้นตอนที่ 5 การผลักยาด้วยเครื่องแยกประจุไฟฟ้า (Electroporation) หรือ Meso Therapy ปกติหนังศีรษะของคนเราจะมีชั้นผิวหนังเป็นตัวป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียหรือสิ่งแปลกปลอมผ่านเข้าไปข้างในได้ ทำให้วิธีการใส่ยารักษาแบบทั่วไปจะอยู่แค่ผิวชั้นขี้ไคลเท่านั้น การยิงประจุไฟฟ้าเพื่อเปิดรูขุมขนให้แก่ผิว จึงเป็นการรักษาที่ต้นเหตุ คือ เป็นวิธีที่ช่วยผลักยาให้เข้าสู่รากผมได้อย่างเต็มที่ โดยการสลับขั้วบวกขั้วลบอย่างรวดเร็ว เพื่อเปิดผิวและรูขุมขน จากนั้นแพทย์ก็จะทำการผลักยาจำพวกวิตามินบำรุงผม ยาในกลุ่มไมน็อกซิดิล หรือโกรทแฟคเตอร์เข้าไป เพื่อกระตุ้นการเกิดใหม่ของรากผม

ขั้นตอนที่ 6 การใช้ Fractional Laser ซึ่งเป็นเลเซอร์พลังงานต่ำมายิง เพื่อทำให้เกิดเป็นรูแผลขนาดเล็กๆ บริเวณรากผม ซึ่งส่งผลให้ร่างกายทำการซ่อมแซมบริเวณดังกล่าว โดยจะสร้างเส้นเลือดใหม่พร้อมนำอาหารและออกซิเจนมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างรากผมใหม่

ขั้นตอนที่ 7 การปลูกผม หรือ Hair transpant เป็นเทคโนโลยี ซึ่งมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตัวอย่างเทคนิคการปลูกผมซึ่งเคยได้รับความนิยมในอดีตก็เช่น การปลูกผมแบบ Doll hair หรือผมตุ๊กตา ซึ่งเป็นการปลูกโดยการย้ายกอผม ด้วยวิธีการตัดเอากอผมออกมาเป็นแท่งๆ แล้วนำไปปลูกบนหนังศีรษะที่มีการเจาะรูเตรียมไว้ การปลูกผมลักษระนี้ทำให้ผมขึ้นเป็นกระจุก มองเผินๆ อาจจะดูมีผมเยอะ แต่พอมองเข้าไปใกล้ๆ กลับเห็นผมขึ้นเป็นกระจุก ดูแล้วไม่เป็นธรรมชาติ จึงทำให้วิธีนี้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ต่อมาได้มีการพัฒนาการปลูกผมเป็นแบบ Hair strip ซึ่งเป็นการตัดหนังศีรษะที่มีเส้นผมปกคลุมบริเวณท้ายทอยออกมาเป็นเส้นเล็กๆ ความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วนำมาหั่นเอาเฉพาะต่อมรากผมไปปลูกในบริเวณที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้าน ซึ่งวิธีการนี้ได้ใช้กันมานานเป็นสิบปี แต่เนื่องจากเป็นวิธีที่ทำให้เกิดแผลเป็นและพังผืดดึงรั้งขนาดใหญ่หลังใบหู จึงเสื่อมความนิยมไปในภายหลัง จนมาถึงเทคโนโลยีล่าสุดคือ Robot Transpant หรือหุ่นยนต์ปลูกผม ซึ่งเครื่องมือนี้มีลักษณะเป็นหัวเจาะคล้ายสกรูที่มีปลายเป็นใบมีด และมีแรงดูดสำหรับดูดเอาต่อมรากผมออกมาเป็นแท่งเล็กๆ และสามารถนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการได้ทันที โดยไม่ทำให้เกิดแผลเป็น ซึ่งเทคนิคนี้ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน อีกทั้งยังนิยมนำไปปลูกขนคิ้วและขนตาได้อีกด้วย

หวังว่า 7 ขั้นตอนข้างตนจะเป็นข่าวดีสำหรับคนที่กำลังมีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านกันนะคะ ลองคิดดูว่าจะดีแค่ไหนถ้าคุณกลับมามีผมดกดำอย่างเป็นธรรมชาติอีกครั้ง ซึ่งวิธีการดูแลรักษาให้ผมอยู่กับเราได้นานๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เริ่มจากการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ และที่สำคัญอย่างลืมทานอาหารที่ช่วยบำรุงผม เช่น อาหารทะเล ผักใบเขียว และโปรตีนจากถั่วต่างๆ ก็จะช่วยเสริมให้ผมของคุณมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง เปล่งประกายสวยเงางามได้ค่ะ

“เทคนิคใหม่ในการคืนความอ่อนเยาว์ให้รากผมและหนังศีรษะนี้ คล้ายกับการคืนความอ่อนเยาว์หรือ Rejuvenation ให้กับผิวหน้า คือ ผิวเหี่ยวย่นแล้วมาทำให้สาวขึ้นอีกครั้ง เหมือนย้อนเวลากลับไปได้ 15 ถึง 20 ปี รากผมและหนังศีรษะก็เช่นเดียวกัน เราสามารถที่จะทำให้อ่อนเยาว์ลงไปได้อีก 10 ปี หรือจะย้อนกลับไปเหมือนตอนอายุ 20 ปีก็ได้ ซึ่งผมที่ขึ้นมาใหม่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีความแข็งแรง ดกดำ เงางามกว่าเมื่อก่อน เป็นผมจริงของเราที่ยาวได้ ตัดได้ จัดแต่งทรงได้ตามธรรมชาติ ไม่เหมือนกับคนที่ทอผม นับว่าวิธีการเหล่านี้เป็นทางออกของคนที่มีปัญหาเรื่องผมร่วง ผมบาง หนังศีรษะล้าน ได้เป็นอย่างดี”

อ.พญ.เจนจิรา ชัยชโลทรกุล

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์

อาจารย์พิเศษภาควิชาตจวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ