
© 2017 Copyright - Haijai.com
อยากให้ชีวิตคู่ยืนยาว ต้องบริหารเวลาให้เป็น
การมีครอบครัว คือ การที่คนสองคนนำชีวิตมาหลอมรวมเป็นคนเดียวกันเพื่อดำเนินชีวิตคู่ร่วมกัน ขณะที่แต่ละคนต่างก็ยังมีชีวิตของตัวเอง “เวลา” จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทั้งสองจะต้องจัดแบ่งให้ได้ว่า เวลาใดคือ เวลาของชีวิตคู่ และเวลาใด คือเวลาส่วนตัว สามีภรรยาหลายคู่ต้องประสบความล้มเหลวในชีวิตคู่เพราะไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องของการบริหารจัดการเวลาให้ดี และเพื่อให้ “เวลา” ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับการดำเนินชีวิตคู่ เรามาร่วมกันศึกษาหาวิธีบริหารเวลาของชีวิตให้ลงตัวกันดีกว่าค่ะ
แบ่งเวลางาน และเวลาครอบครัวให้ชัด เรื่องงานดูจะเป็นปัจจัยหลักของปัญหาเรื่องเวลาในชีวิตคู่ เพราะมีส่วนสัมพันธ์กับเรื่องปากท้องของคนในครอบครัว ยิ่งถ้าทั้งคู่ต่างมีภาระต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของลูกอีก “งาน” จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทั้งคู่ต้องให้ความสำคัญในการจัดการให้ลงตัว ขณะเดียวกันยังมีอีกหลายท่านที่ไม่ได้ถูกภาระทางการเงินบีบบังคับให้ต้องให้ความสำคัญกับงานมากกว่าครอบครัว หากแต่หัวใจเรียกร้องให้ต้องออกไปหาอะไรทำนอกบ้าน ในเหตุผลประการหลังต้องถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะฉะนั้น ถ้าหากคุณต้องการประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องงาน และครอบครัว ถึงเวลางาน “จงตั้งใจทำงาน” แต่เมื่อกลับถึงบ้าน ปล่อยให้เวลานั้นเป็นเวลาของครอบครัวอย่างเต็มที่เถอะค่ะ ถ้าไม่มีอะไรสำคัญค้างคาอยู่ เลิกงานปุ๊บ รีบบึ่งรถกลับไปหาคนที่เขารอเจอหน้าคุณอยู่ที่บ้านเถอะค่ะ
เมื่อมีเวลา ทำให้เป็นเวลาคุณภาพ บางครั้งคำว่า “ความรับผิดชอบ” ก็ทำให้เราวางตัวยากเหมือนกันนะ ถ้าคุณเอาแต่ให้ความสำคัญกับเรื่องงานมากจนเกินไป ก็อาจถูกเจ้านายเพ่งเล็งได้ว่าขาดความรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นเมื่อมีงานก็ทำงานให้เต็มที่ไปเถอะค่ะ เพียงแต่ว่าเมื่อคุณมีเวลา ทำ “เวลา” เหล่านั้นให้เป็นเวลาที่มีคุณภาพสำหรับสมาชิกในครอบครัวของคุณ อย่าพกเอาความหงุดหงิดใจจากที่ทำงานกลับไปทำร้ายคนที่บ้านเด็ดขาด ถ้าวันไหนรู้สึกล้ามากๆ กับเรื่องราวหนักๆ ที่ทำงาน และอยากได้กำลังใจ แย็บๆ ดูว่าสภาวะจิตใจของเขาพร้อมรับฟังจากคุณหรือเปล่า (บางทีเขาเองอาจจะเจอมาหนักกว่าคุณก็ได้) ถ้าเช็คดูแล้ว เขายังโอเค.. ก็ค่อยบอกเล่าเรื่องราวที่เจอมาให้เขาฟัง และอย่าลืมที่จะฟังความเห็นของเขาด้วยล่ะ ช่วงเวลานี้แหละ ที่เป็นช่วงเวลาคุณภาพของคุณกับเขา เพราะนอกจากเขาจะช่วยให้คุณเย็นใจขึ้นแล้ว ยังทำให้คุณและเขาเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น ความสัมพันธ์แนบแน่นยิ่งขึ้น
แม้เวลาไม่ตรงกัน แต่ใจเราสื่อถึงกัน หากคุณหาช่วงเวลาตรงกันไม่ได้จริงๆ ประเภทที่ว่าเขาอยู่บ้าน คุณต้องออกไปทำงาน แต่พอคุณมีเวลาบ้าง เขากลับต้องออกไปปฏิบัติภารกิจนอกบ้าน สวนกันไปสวนกันมาอย่างนี้ เห็นทีคงต้องพึ่งเครื่องมือ และเทคนิคนิดๆ หน่อยๆ แล้วล่ะค่ะ ก่อนออกนอกบ้าน เขียนข้อความน่ารักๆ แสดงความห่วงใยถึงอาทิ “วันนี้ต้องรีบไปแต่เช้า หาอะไรกินเองนะ แล้วเที่ยงจะโทรหา คอยรับล่ะ” แล้วแปะไว้ตรงที่ที่คุณมั่นใจว่ายังไงๆ เขาก็ต้องเห็นข้อความของคุณแน่ๆ และถ้ามีเวลาหมั่นโทรหาเขาบ่อยๆ เท่าที่คุณจะหาโอกาสได้ แต่ระวัง! อย่าให้ไปรบกวนเวลางานของคุณเข้าล่ะ
วางแผนใช้เวลาร่วมกัน นานๆ ทีจะมีช่วงเวลาที่ไม่ตรงกันบ้าง สักอาทิตย์ สองอาทิตย์ ก็คงไม่เท่าไร แต่ถ้าทำท่าว่าจะยาวนานออกไปอีก เห็นทีคุณสองคนต้องใช้เวลาคุณภาพที่มีอยู่อันน้อยนิดนั้นมานั่งวางแผนหาเวลาให้ได้ทำกิจกรรม หรือออกเที่ยวร่วมกันบ้างล่ะ พยายามเขียนตารางเวลา หรือกำหนดการนัดหมายของคุณไว้ วางแผนการทำงานให้เสร็จตามตารางที่กำหนด และที่สำคัญคุณจะต้องมีวินัยกับตารางการทำงาน และตารางนัดหมายของคุณอย่างเคร่งครัด ไม่อย่างนั้น เสียเวลาเปล่าๆ ค่ะ
จัดกิจกรรมวันหยุด อย่าปล่อยให้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณผ่านไปอย่างไร้ค่า ยิ่งถ้านานๆ ที ถึงจะได้หยุดจริงๆ จังๆ แล้วล่ะก้อ ยิ่งต้องใช้เวลาคุณภาพนี้ให้คุ้ม อย่าต่างคนต่างอยู่เด็ดขาดเชียว ถ้าไม่รู้จะทำอะไรจริงๆ ก็นั่งหันหน้าปรึกษากันว่าจะหากิจกรรมอะไรมาทำดี สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะได้มีอะไรทำร่วมกัน การที่คุณ และสมาชิกในครอบครัว มีกิจกรรมทำร่วมกัน จะทำให้เกิดความสนิทสนมกันมากขึ้น ผูกพัน และเกิดความสนุกสนาน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวมีแรงที่จะออกไปต่อสู้กับเรื่องราวต่างๆ ภายนอกบ้านได้ต่อไป
แต่ก่อนอื่นเลย คุณต้องแบ่งให้ได้ก่อนว่าเรื่องใด หรือกิจกรรมใดที่คุณต้องใช้เวลาไปเพื่อการส่วนตัว หรือเพื่อครอบครัว ซึ่งกิจกรรมหลักๆ ในชีวิตคนเรา ก็มีอยู่แค่ไม่กี่เรื่อง นั่นก็คือ เรื่องงาน เรื่องลูก และเรื่องการใช้เวลาเพื่อความบันเทิงส่วนตัว อย่างเรื่องของการทำงาน บางท่านอาจคิดไปว่าการทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว นั่นก็เพื่อความสุขของครอบครัวนั่นแหละ แบบนี้ต้องถือว่าเป็นการเล็งเป้าที่ใหญ่จนเกินไป จนละเลยรายละเอียดบางอย่างที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน การให้ความสำคัญกับงานมากกว่าครอบครัว บางครั้งก็อาจทำให้เป้าหมายเดิมของคุณเปลี่ยนไปก็ได้ ขณะที่คุณกำลังทำงานอย่างบ้าคลั่ง เคยคิด หรือถามตัวเองหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วคุณกำลังทำเพื่อครอบครัว หรือเพื่อสนองความพอใจของคุณเองกันแน่
ลองคิดดูซิว่า ถ้าเช้าคุณออกจากบ้านแต่เช้า กลับถึงบ้านอีกทีค่ำ พร้อมกับหอบงานกลับมาทำต่อที่บ้าน เสาร์อาทิตย์ ก็ออกไปอีก สิ่งที่คุณได้กลับมาอาจจะเป็น “เงิน” แต่สิ่งที่เสียไปคือความสมดุลของครอบครัว วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ หาเวลาถามสมาชิกในครอบครัวของคุณดูนะคะว่า จริงๆ แล้ววันนี้เขายังต้องการเงินทอง หรือสิ่งของอะไรอีกหรือเปล่า? บ้างทีคำตอบของเขาอาจให้แง่คิดอะไรบ้างอย่างกับคุณก็ได้
(Some images used under license from Shutterstock.com.)