สารพัดความเรื่องตั้งครรภ์ (นานาชาติ)

สารพัดความเรื่องตั้งครรภ์ (นานาชาติ)

คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ว่าจะมือใหม่ มือเก๋า ก็คงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าต่างความเชื่อเกี่ยวกับช่วงเวลาของการตั้งครรภ์กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ส่วนใครจะเชื่อไม่เชื่อก็คงต้องขึ้นอยู่กับวิจารณาญาณการตัดสินใจของแต่ละคน แต่ความเชื่อมักมาพร้อมกับความเป็นจริงที่ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน เราก็จะได้ยินรุ่นคุณย่า คุณยาย ที่ท่านมักจะเตือนให้ระวังนั้น ระวังนี่ ห้ามทานนั่น ห้ามทานนี่ ห้ามไปนั่น ห้ามไปนี่ แต่เอ๊ะใครเคยนึกสงสัยบ้างหรือเปล่าคะว่า ความจริงแล้วเหตุผลที่แท้จริงเกี่ยวกับความเชื่อนั้นคืออะไรกันแน่   ความจริงแล้วไม่ใช่เฉพาะคนไทยเท่านั้นที่มีความเชื่อในเรื่องตั้งครรภ์ เพราะคนต่างชาติต่างภาษาเขาก็มีหลักความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องตั้งครรภ์เหมือนกัน มาดูกันคะว่าความเชื่อนี้จะเหมือน หรือคล้ายกันมากน้อยเพียงใด

ความเชื่อแบบแม่ท้องคนไทย

ความเชื่อ : ห้ามเตรียมหรือซื้อของใช้ให้ลูกไว้ล่วงหน้า

ความจริง : คุณแม่สามารถเตรียมอุปกรณ์ของใช้ให้ลูกได้ โดยไม่ต้องกังวล เนื่องจากวิทยาการทางการแพทย์ที่ทันสมัยในปัจจุบันทำให้คุณแม่สามารถคลอดลูกได้อย่างปลอดภัย แข็งแรง

ความเชื่อ : กินยาบำรุงเลือดที่หมอให้แล้วจะทำให้อ้วน

ความจริง : ยาบำรุงเลือดที่คุณหมอให้คุณแม่กลับมารับประทานนั้น ไม่ได้ทำให้อ้วนแต่อย่างใด แต่สาเหตุส่วนใหญ่มาจากฮออร์โมนจากการตั้งครรภ์ และพฤติกรรมการทานของแต่ละคน อย่างคุณแม่ท้องบางคนอาจทานได้มาก สนุกกับการทาน เพราะไม่มีอาการแพ้ท้อง เบื่ออาหาร ก็จะทำให้ทานได้อย่างเอร็ดอร่อย แล้วก็มาจากการที่ไม่ได้ออกกำลังกาย นอนซะเป็นส่วนใหญ่ในระหว่างวัน แบบนี้น้ำหนักก็ต้องขึ้นมามากอย่างแน่นอน

ความเชื่อ : กินน้ำมะพร้าวมากๆ แล้วลูกจะตัวขาว และไม่มีไขเกาะหลังคลอด

ความจริง : สีผิวของเด็กขึ้นอยู่กับลักษณะที่สืบทอดกันมาทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ น้ำมะพร้าวไม่มีส่วนช่วยให้ผิวพรรณของเด็กขาวขึ้นแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ได้ส่งผลต่อไขมันบนผิวหนังด้วย น้ำมะพร้าวมีส่วนประกอบของสารอาหารที่มีประโยชน์ คือ โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม เหล็ก และกลูโคส ที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้เป็นพลังงานได้ คุณแม่ก็ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินความต้องการของร่างกาย

ความเชื่อ : ห้ามเย็บปักถักร้อย การเย็บผ้าระหว่างตั้งครรภ์ จะทำให้ลูกเกิดมาแล้วปากแหว่ง เพดานโหว่

ความจริง : ปากแหว่งเพดานโหว่ในเด็กแรกเกิด แม้จะยังไม่มีผลที่แน่ชัดว่ามาจากสาเหตุใด แต่ก็มีการศึกษาว่า บางส่วนเกิดจากพันธุกรรม และการพัฒนาของตัวอ่อนในช่วง 3 เดือนแรกมีความผิดปกติ และอีกงานวิจัยคือ การที่คุณแม่สูบบุหรี่ที่มีผลทำให้ลูกเพดานโหว่ กว่าแม่ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 3 เท่า และยังไม่มีงานวิจัยใดที่บอกว่าสาเหตุเกิดจากคุณแม่เย็บผ้าระหว่างที่ท้อง แต่คำเตือนโบราณอาจมีนัยให้คุณแม่ระมัดระวังในการทำงาน เพราะต้องนั้งนานๆ ก้มๆ เงยๆ ทำให้หน้ามืด เวียนหัวได้ง่าย หรือถ้าเย็บผ้าด้วยจักรเย็บผ้าก็อาจทำให้ร่างกายสั่นสะเทือนอยู่ตลอด เวลาที่ถีบฝีจักร คงไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของคุณแม่อย่างแน่นอน

ความเชื่อแบบแม่ท้องนานาชาติ

• ในเขตชนบทของกรีซ คุณพ่อจะต้องปลดเข็มขัดให้หลวมตลอดเวลาที่ภรรยาตั้งครรภ์ เพื่อทำให้เด็กคลอดออกมาอย่างง่ายดาย

• ในวัฒนธรรมอเมริกาใต้ คุณพ่อจะต้องทานอาการแบบเดียวกับภรรยา หรือถ้าอดก็ต้องอดเหมือนกัน และในเวลาที่ภรรยาคลอดลูก คุณพ่อต้องแยกตัวไปอยู่ในกระท่อมร่วมกับผู้ชายคนอื่นๆ และต้องแสดงอาการเจ็บปวดไปด้วย เพื่อเป็นการแบ่งเบาความเจ็บปวดจากภรรยาที่กำลังคลอดลูก

• ชาวยุโรป เชื่อว่าถ้ามีนะกระสาสองผัวเมียมาทำรังในบ้าน แล้วถ้าครอบครัวนั้นมีลูกก็จะมีแต่ความโชคดี

• ประเทศเกาหลี ถ้าต้องการให้เด็กที่เกิดมาสมบูรณ์ เชื่อว่าจะต้องทานไข่ และปลาแห้ง ถ้าทานเนื้อนกกระจอกกับเต้าเจี้ยว เด็กที่เกิดมาจะมีจุดดำที่หน้า ถ้าทานเนื้อสุนัขหรือเนื้อกระต่าย เด็กที่เกิดมาจะเป็นใบ้หรือหูหนวก ถ้าเอาสมุนไพรแขวนไว้ที่เอวก็จะได้ลูกชาย

• ประเทศมาเลเซีย คุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องทานแต่ของร้อนๆ เท่านั้น

• ชาวทานาล่าในมาลากาซี จะไม่ทานถั่วที่มีจุด เพื่อกันว่าถ้าทานไปแล้วจะทำให้เด็กตาบอด

เสริมให้ครบเพื่อร่างกายที่แข็งแรง

ฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินเค เนื่องจากลูกน้อยในครรภ์จะดึงเอาแคลเซียมจากร่างกายของคุณแม่มาเพื่อเสริมสร้างกระดูก ฟัน และอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย คุณแม่จึงควรได้รับแคลเซียมและฟอสฟอรัสจากปลาตัวเล็กตัวน้อย ถั่ว และดื่มนมในระหว่างตั้งครรภ์ให้มากๆ เพื่อป้องกันไม่ให้คุณแม่กระดูกเปราะ กระดูกพรุนได้ในอนาคต จึงจำเป็นอย่างมากที่คุณแม่จะต้องเติมแคลเซียมให้กับร่างกาย ทั้งก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ และหลังคลอดลูกแล้ว สำหรับวิตามินเค มีส่วนช่วยในการช่วยลดการสลายแคลเซียมในร่างกาย มีมากในเนื้อสัตว์ และผักใบเขียว