Haijai.com


ศัลยกรรมทรวงอก (ผ่าตัดเสริมหน้าอก) เสริมเสน่ห์ความเป็นหญิง


 
เปิดอ่าน 9522

ศัลยกรรมทรวงอก (ผ่าตัดเสริมหน้าอก) เสริมเสน่ห์ความเป็นหญิง

 

 

สาวๆ เดี๋ยวนี้นิยมมีรูปร่างผอมบางหุ่นดีไม่มีไขมัน แต่รูปร่างดีไม่ใช่เพียงแค่ผอมเพรียวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ต้องมีหน้าอก มีสะโพก มีส่วนเว้าส่วนโค้งดึงดูดสายตาแสดงถึงความงามแห่งสรีระความเป็นหญิงด้วย และนี่เป็นปัญหาของผู้หญิงหลายๆ คนที่อยากมีรูปร่างที่ดูดีสมส่วน เพราะว่าเมื่อไหร่ที่น้ำหนักลดลง หน้าอกที่เคยมีก็แฟ่บหายไปด้วย ทีนี้ก็เลยต้องคิดหนักว่าจะเอาไงดี ระหว่างหุ่นดีกับมีหน้าอก ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์อันล้ำสมัยในปัจจุบัน วงการแพทย์จึงมีวิธีที่สามารถเนรมิตหน้าอกให้สาวๆ ให้อวบอึ๋ม หุ่นสะบึมขึ้นได้อย่างใจด้วยการทำศัลยกรรมทรวงอกนั่นเอง

 

 

การทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกในปัจจุบันก็ได้รับความนิยมแบบไม่เป็นสองรองใคร เพราะผู้หญิงสมัยใหม่นิยมเสริมหน้าอกเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองกันมากขึ้น และอายุที่เริ่มทำศัลยกรรมหน้าอกก็น้อยลงเรื่อยๆ จากเมื่อก่อนผู้หญิงที่นิยมเสริมหน้าอกจะอยู่ในวัย 25 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันตัวเลขที่น้อยที่สุดของผู้หญิงที่เสริมหน้าอกอยู่ที่ 18 ปี ซึ่งในกรณีที่อายุยังน้อยแบบนี้จะต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองด้วย

 

 

เหตุผลที่ทำให้หญิงหลายคนต้องการเสริมหน้าอกนั้น เนื่องมาจากปัญหาของหน้าอกทั้งหลาย โดยอาจแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มที่ไม่มีหน้าอกหรือหน้าอกเล็ก ส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ 18 ถึง 30 ปี และกลุ่มที่หน้าอกหย่อนคล้อย มีอายุตั้งแต่ 30 ถึง 50 ปี สาเหตุเนื่องจากผู้หญิงในวัยนี้ผ่านการให้นมบุตรมาแล้ว จึงประสบกับปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยได้มาก อีกกลุ่มปัญหาหนึ่งก็คือหน้าอกทั้งสองข้างไม่เท่ากัน นอกจากนี้ผู้หญิงไทยในยุคปัจจุบันต่างนิยมมีรูปร่างผอมบาง จึงคอยควบคุมน้ำหนักและกำจัดไขมันออกด้วยวิธีการต่างๆ นานา แต่เมื่อรูปร่างดีแล้ว หน้าอกที่เคยมีกลับหดหายไปด้วย เพราะหน้าอกประกอบไปด้วยไขมันในปริมาณมากพอสมควร ดังนั้น ถ้ามีรูปร่างที่ผอมเพรียวมีไขมันน้อยก็จะทำให้ไม่มีหน้าอก นอกจากนี้ กรรมพันธุ์ยังมีส่วนที่ทำให้ผู้หญิงไทยมีหน้าอกไม่สะบึมเร้าใจอย่างสาวๆ ชนชาติอื่น ดังนั้น “การผ่าตัดเสริมหน้าอก” จึงเป็นการแก้ปัญหาเรื่องหน้าอกที่ได้ผลจริง ทำให้สาวไทยมีหน้าอกที่ดูเต็มอิ่ม เต่งตึง แสดงถึงสรีระที่งดงามแห่งความเป็นหญิงมากยิ่งขึ้น

 

 

การเสริมหน้าอก (Breast Augmentation)

 

ปัจจุบันการเสริมด้วยวัสดุจำพวกกลุ่มซิลิโคนเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก โดยซิลิโคนสำหรับเสริมหน้าอกได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องในสมัยก่อนจะมีลักษณะผิวเรียบ ซึ่งข้อเสียก็คือเกิดพังผืดรัดได้ค่อนข้างมาก ต่อมาจึงพัฒนามาเป็นผิวเนื้อทราย มีลักษณะผิวขรุขระ ทำให้เกิดพังผืดรัดน้อยลง ปัจจุบันซิลิโคนใหม่ล่าสุดที่ถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับเสริมหน้าอกเรียกว่า โพลียูรีเทน (Polyurethane) ทำให้เกิดพังผืดรัดน้อยมาก เมื่อเทียบกับซิลิโคนในอดีต ซึ่งลักษณะผิวของถุงซิลิโคนนี้ จะมีผลต่อการเกิดพังผืดหุ้มรอบซิลิโคนภายหลังการผ่าตัด

 

 

ประเภทของซิลิโคนเสริมหน้าอก

 

ซิลิโคนสำหรับเสริมหน้าอกในปัจจุบัน สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่

 

1.ถุงน้ำเกลือ (Saline Implants) ลักษณะของถุงน้ำเกลือมีสองชั้น ผิวด้านนอกเป็นซิลิโคน ด้านในเป็นน้ำเกลือ ในระหว่างการผ่าตัดจะเป็นการเติมน้ำเกลือเข้าไปหลังจากสอดถุงซิลิโคนเข้าไปแล้ว ข้อดีคือแผลผ่าตัดเล็กมาก เพราะถุงซิลิโคนสามารถพับได้ จึงเป็นที่นิยมค่อนข้างสูงในต่างประเทศ เพราะสามารถเพิ่มหรือลดขนาดของถุงซิลิโคนได้ โดยไม่ต้องมีการผ่าตัดใหญ่ แต่ในเมืองไทยยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร

 

 

2.ถุงซิลิโคนเจล (Silicone Gel Implants) ลักษณะของถุงซิลิโคนเจล ผิวด้านนอกเป็นซิลิโคนที่มีความทนทานสูง มีโมเลกุลแน่นหนาป้องกันการรั่วไหลของเนื้อซิลิโคนเจลที่อยู่ด้านใน ด้านในถุงซิลิโคนบรรจุซิลิโคนเจลเป็นซิลิโคนที่มีความคงตัวสูง ถึงแม้ว่าจะผ่าครึ่งถุงซิลิโคนเนื้อซิลิโคนเจลที่อยู่ด้านในก็จะไม่ไหล

 

 

ทั้งสองแบบไม่มีความแตกต่างกันมากนักในเรื่องของการสัมผัส จับ คลำ แต่ถุงซิลิโคนเจลอาจรู้สึกแน่นและตึงมากกว่า

 

 

สำหรับรูปทรงสามารถแบ่งออกคร่าวๆ ได้เป็นทรงกลมและทรงหยดน้ำ โดยทรงกลมจะมีลักษณะเหมือนเป็นครึ่งวงกลมมาปิดทับหน้าอกเดิมของคนไข้เอาไว้ ทำให้หน้าอกดูเด่นตั้งตรง แต่ทรงหยดน้ำจะมีลักษณะที่คล้อยลง ซึ่งเป็นซิลิโคนที่พัฒนาขึ้นมาในระยะหลัง เพื่อเลียนแบบหน้าอกธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เพราะโดยธรรมชาติแล้วหน้าอกของผู้หญิงจะไม่ใช่ทรงกลมเสียทีเดียว แต่มีความคล้อย (Slope) พอสวยงาม ดังนั้น ทรงหยดน้ำจะมีความคล้ายคลึงหน้าอกตามธรรมชาติมากกว่า แต่มีข้อจำกัดคือต้องใส่ให้พอดี เพราะถ้าวางผิดตำแหน่งก็อาจทำให้ซิลิโคนเบี้ยวหรือเอียงได้ โดยการเลือกว่าจะใช้ซิลิโคนแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ความต้องการ และงบประมาณของคนไข้ แต่ซิลิโคนที่นำมาเสริมต้องมีการรับรองโดยองค์การอาหารและยา (อย.) หรือ FDA Approve เพื่อความปลอดภัย ซิลิโคนที่นำมาใช้เสริมหน้าอกในปัจจุบันมีรายงานการศึกษาว่า ไม่มีการกระตุ้นให้เกิดมะเร็ง จึงปลอดภัยสำหรับการนำมาเสริมหน้าอก โดยสิ่งที่สำคัญในการผ่าตัดเสริมหน้าอก คือ ความแม่นยำในการลงแผล ความแม่นยำในการวางตำแหน่งซิลิโคน ดังนั้น การพิจารณาถึงประสบการณ์ เทคนิคและความชำนาญของศัลยแพทย์ก่อนทำการผ่าตัดจึงเป็นสิ่งสำคัญ

 

 

3 ทางเลือกในการผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

วิธีการผ่าตัดเสริมหน้าอกสามารถทำได้ 3 วิธี คือ

 

1.เสริทางรักแร้ ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดเพราะซ่อนแผลได้ค่อนข้างดี

 

 

2.เสริมทางฐานนม เหมาะสำหรับการใส่ซิลิโคนทรงหยดน้ำ เพราะการใส่ทรงหยดน้ำต้องมีความแม่นยำสูงในการวางซิลิโคน แต่ไม่ว่าจะใส่ทรงอะไรก็ตาม การเปิดแผล เพื่อใส่ซิลิโคนทางฐานนม เป็นการวางซิลิโคนได้แม่นยำที่สุด แต่มีข้อเสียคืออาจมองเห็นแผลได้ค่อนข้างชัด

 

 

3.ใส่รอบปานนม วิธีนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แต่ซ่อนแผลเป็นได้ค่อนข้างดี ข้อเสียคือเนื่องจากเป็นการเลาะบริเวณฐานนม จึงอาจมีอาการชาที่หัวนม หรืออาจต้องมีการตัดผ่านเนื้อเต้านมเข้าไปด้วย

 

 

โดยทั้ง 3 วิธี เป็นวิธีที่นิยมใช้ในการผ่าตัดเสริมหน้าอกแต่การที่จะเลือกวิธีไหนนั้น จะเป็นการพิจารณาจากลักษณะของฐานหน้าอกแต่ละข้าง เนื้อและรูปทรงของหน้าอกเดิมของคนไข้เป็นหลัก ไลฟ์สไตล์ของคนไข้ เช่น ถ้าใส่เสื้อแขนกุดบ่อย บางคนอาจจะไม่อยากมีแผลบริเวณรักแร้ หรือบางคนไม่อยากมีแผลบริเวณหน้าอก ก็จะเลือกใส่ทางรักแร้มากกว่า เป็นต้น รวมถึงความถนัดของศัลยแพทย์

 

 

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

การผ่าตัดเสริมหน้าอกใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยส่วนใหญ่มักใช้การดมยาสลบและอาจมีการฉีดยาชาเฉพาะที่เข้าไปด้วย ก่อนการผ่าตัดศัลยแพทย์จะทำการวัดขนาดของหน้าอกและรอบตัวของคนไข้ จากนั้นจึงเปิดแผลเพื่อใส่ซิลิโคน โดยส่วนใหญ่การเสริมหน้าอกจะเป็นการใส่ซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อ แต่ต้องพิจารณาจากลักษณะของหน้าอกเป็นหลัก เช่น คนที่หน้าอกคล้อยมากๆ อาจจะไม่ได้ใส่ไว้ชั้นใต้กล้ามเนื้อ รวมทั้งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศัลยแพทย์ หากเป็นการเสริมด้วยซิลิโคนแบบถุงน้ำเกลือ เมื่อใส่ถุงน้ำเกลือเข้าไปแล้ว ศัลยแพทย์จะทำการเติมน้ำเกลือเข้าไป โดยถุงน้ำเกลือจะมีหลากหลายขนาดแตกต่างกันออกไป เช่น ถุงขนาด 300 ซีซี ต้องเติมน้ำเกลือ 300 ซีซี แต่สามารถเพิ่มได้อีกเล็กน้อยประมาณ 310 ซีซี แต่ไม่สามารถใส่ถึง 350 ซีซีได้ แต่ถ้าถุงมีขนาดใหญ่แล้วเติมน้ำเกลือน้อย ก็จะทำให้หน้าอกดูไม่เต่งตึง เมื่อเติมน้ำเกลือในปริมาตรที่เหมาะสมแล้วจึงเย็บปิดแผล สำหรับซิลิโคนเจล เมื่อวางในตำแหน่งที่ต้องการแล้ว จึงทำการเย็บปิดแผล ปัจจุบันด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย ทำให้มีการศัลยกรรมเสริมหน้าอกโดยการผ่าตัดผ่านกล้อง (Endoscopic Breast Augmentation) ข้อดีคือทำให้แผลเป็นมีขนาดเล็ก ใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อย ลดความเจ็บปวดในการผ่าตัด ฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่าการผ่าตัดแบบปกติ และปัญหาอย่างหนึ่งของการเสริมหน้าอก คือ เสริมออกมาแล้วสูงต่ำไม่เท่ากัน การผ่าตัดผ่านกล้องจะทำให้มองเห็นบริเวณที่ทำการผ่าตัดได้อย่างชัดเจน ดังนั้น โอกาสที่จะโดนเส้นเลือดและเส้นประสาทก็จะน้อยลง ทำให้เลือดออกน้อยลง ความแม่นยำในการเลาะโพรงมีมากขึ้น ทำให้ความแม่นยำในการผ่าตัดดีขึ้น ผลลัพธ์ก็คือเต้านมทั้งสองข้างก็จะอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกันมากที่สุด

 

 

ภาวะแทรกซ้อนและผลข้างเคียงการผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

ภาวะแทรกซ้อนและผลข้างเคียงปัจจุบันเกิดขึ้นน้อยด้วยเทคโนโลยีของการผ่าตัด แต่ที่สามารถเกิดขึ้น ได้แก่ เลือดออกมาก แผลบวมอักเสบ ติดเชื้อ เต้านมสูงต่ำไม่เท่ากัน อาการหัวนมชา มองเห็นหน้าอกเป็นสองชั้น (Double Bubble) เกิดพังผืดรัดรอบซิลิโคน มองเห็นหน้าอกเป็นบล็อก ซิลิโคนไหล เหล่านี้โดยส่วนใหญ่แล้วจะสังเกตได้ภายหลังการผ่าตัด เนื่องจากการผ่าตัดทุกชนิดจะมีการบวมเกิดขึ้น จึงทำให้คนไข้ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ในช่วงแรก ปัญหาที่พบได้บ่อยหลังการผ่าตัดคือซิลิโคนไม่สัมพันธ์กับหน้าอก มองเห็นหน้าอกเป็น Double Bubble หรือสองชั้น เนื้อเต้านมอยู่ส่วนหนึ่ง ถุงซิลิโคนอยู่ส่วนหนึ่ง ซึ่งเกิดจากความไม่ชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด ส่วนอีกปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยก็คือ เสริมออกมาแล้วหน้าอกสูงต่ำไม่เท่ากัน ในกรณีนี้คนไข้ต้องกลับมาผ่าตัดแก้ไขเพื่อเลาะโพรงให้เท่ากัน สำหรับเรื่องซิลิโคนไหล เคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม ปัญหานี้พบได้น้อยมาก เพราะโดยส่วนใหญ่ศัลยแพทย์จะระมัดระวังในเรื่องนี้ สิ่งสำคัญก็คือการเย็บปิดแผลต้องเย็บให้ถูกชั้น จะช่วยป้องกันซิลิโคนเคลื่อนตัวไปตำแหน่งอื่นได้ ซึ่งกรณีเหล่านี้สามารถผ่าตัดแก้ไขให้กลับมาเป็นปกติได้ แต่ถ้ามีอากรหัวนมชา ต้องพิจารณาว่าเป็นการชาในลักษณะไหน เนื่องจากเส้นประสามีขนาดเล็กและมีความบอบช้ำค่อนข้างง่าย หากมีการยึดเส้นประสาทมากๆ จึงทำให้เส้นประสาทบอบช้ำ โดยส่วนใหญ่หลังผ่าตัด 6 สัปดาห์ก็จะดีขึ้น การใส่ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่ในช่วงแรกคนไข้อาจมีอาการชาที่หัวนมได้ หากอาการชาเกิดจากการตัดโดนเส้นประสาท โดยส่วนใหญ่ไม่ได้มีการกลับเข้าไปต่อใหม่ หากเส้นประสาทขาดแล้วอยู่ในตำแหน่งใกล้เคียงกัน อาจเชื่อมต่อกันได้เอง แต่ถ้าขาดแล้วแยกออกจากกันมาก มักจะเป็นการชาแบบถาวร ต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของศัลยแพทย์ แต่โดยส่วนน้อยที่จะมีการตัดโดนเส้นประสาท ส่วนใหญ่จะเป็นการชาจากเส้นประสาทถูกยึดขณะทำการผ่าตัด ส่วนการเกิดพังผืดรัดรอบซิลิโคน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่เสริมหน้าอก แต่จะเกิดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของซิลิโคนที่ใหญ่เกินไป การไม่นวด ไม่ดูแลเต้านมหลังผ่าตัด เลือดออกมาก หรือเคยมีการติดเชื้อในระหว่างการผ่าตัด ซึ่งจะทำให้เกิดพังผืดมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ศัลยแพทย์จึงแนะนำให้นวดหน้าอกตลอดระยะเวลาที่เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกหลังผ่าตัดที่ต้องนวดอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

 

 

เมื่อเสริมไปแล้วคนไข้จะต้องเปลี่ยนซิลิโคนในระยะเวลา 10-15 ปี หลังจากเสริมครั้งแรก เนื่องจากเมื่อระยะเวลาผ่านไปเนื้อเยื่อหรือพังผืดจะรัดซิลิโคนมากขึ้น จนทำให้ซิลิโคนมีลักษณะเป็นก้อนหรือผิดรูปขึ้นมาทำให้หน้าอกมีการหดรั้ง มองดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งถือว่าเป็นข้อบ่งชี้ที่จะต้องผ่าตัด และหลายคนก็อาจจะกลัวว่าเสริมไปแล้วซิลิโคนจะแตกหรือไม่ ปัจจุบันซิลิโคนได้รับการพัฒนาให้มีความคงทนแข็งแรง โอกาสที่ซิลิโคนจะแตกคือมีของแหลมคมเข้าไปทิ่มแทง ดังนั้น มีโอกาสน้อยมากที่ซิลิโคนจะแตก

 

 

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกและการดูแลหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก

 

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดนั้น หากคนไข้มีโรคประจำตัวต้องคุมโรคให้อยู่ในภาวะปกติ งดอาหารเสริมและยาบางชนิดที่ทำให้เลือดออกมาก รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เตรียมสภาพจิตใจให้พร้อมกับผลหลังการผ่าตัด ไม่ควรคาดหวังว่าการผ่าตัดจะออกมาเหมือนอย่างที่คิดไว้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และควรมีระยะเวลาพักฟื้นหลังการผ่าตัดประมาณ 3-5 วัน โดยหลังผ่าตัดคนไข้จะค่อนข้างเจ็บในช่วงสัปดาห์แรก โดยเฉพาะการผ่าตัดใส่ซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ อาจมีความรู้สึกแน่น ตึง ค่อนข้างมากประมาณ 2 สัปดาห์อาการจะดีขึ้น สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ ทานอาหารได้ตามปกติ งดการออกกำลังกายที่ลงน้ำหนักมาก และสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติหลังผ่าตัด 1 เดือน การผ่าตัดเสริมหน้าอกหลังทำต้องมีการนวดอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีวิวัฒนาการทางการแพทย์ต่างๆ มากมาย แต่ซิลิโคนถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม ไม่ว่าจะเป็นซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูก เสริมคาง หรือเสริมหน้าอก โดยร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อมาห่อหุ้มเกิดเป็นพังผืด ดังนั้น จึงต้องทำการนวดเพื่อไม่ให้เนื้อเยื่อพังผืดรัดซิลิโคนมากเกินไป

 

 

ทำอย่างไรให้ “อกสวยเนียน เป็นธรรมชาติ”

 

นอกจากขนาดที่เพิ่มขึ้นแล้ว การดูแลหลังผ่าตัดซึ่งหมายถึงการดูแลในหน้าอกมีขนาดและรูปทรงที่ดูเป็นธรรมชาติ มีผิวพรรณที่เรียบเนียนสีผิวสม่ำเสมอ ก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องแผลเป็นหลังผ่าตัด ที่ไม่ว่าจะทำศัลยกรรมประเภทไหนก็ต้องมีรอยแผลเป็นเกิดขึ้น การรักษารอยแผลเป็นให้ได้ผลดีนั้น อันดับแรกต้องเริ่มตั้งแต่การเลือกศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของการเกิดรอยแผลเป็น คือ ต้องเย็บแผลให้ดี เย็บให้แผลเนียนที่สุด ซึ่งเทคนิคการเย็บแผลเพื่อลดการเกิดแผลเป็นคือต้องเย็บให้มีแรงตึงที่ชั้นผิวหนังให้น้อยที่สุด โดยส่วนใหญ่ศัลยแพทย์ตกแต่งจะเย็บแผลอย่างละเอียดและเย็บได้เนียนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามการผ่าตัดทุกชนิดต้องมีรอยแผลเป็นเกิดขึ้น เพียงแต่จะเป็นแผลเป็นที่มีระยะสั้น เป็นเส้นตรง ขอบเรียบเสมอกัน แผลไม่กว้างออกหรือไม่ หลังการผ่าตัดไปแล้วเป็นหน้าที่ของคนไข้ที่ต้องดูแลเรื่องรอยแผลเป็นให้ออกมาเรียบเนียนสวยงามมากที่สุด โดยมีทั้งการทายาแผลเป็นที่อาจช่วยในเรื่องของการป้องกันการเกิดแผลเป็นนูน ลดการเกิดสีแดงหลังการผ่าตัด การใช้เลเซอร์ลบรอยแดงและรอยดำ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แนะนำให้ทำหลัง 6 สัปดาห์ ถึง 1 เดือนหลังการผ่าตัด การทาครีมบำรุงผิวบริเวณหน้าอกเป็นประจำ ดูแลเรื่องความเรียบเนียนและสม่ำเสมอของสีผิว ก็จะทำให้หน้าอกดูสวยเนียนเป็นธรรมชาติอย่างต้องการได้

 

 

นอกจากนี้การสวมเสื้อชั้นในก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยในช่วงแรกหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก คนไข้อาจรู้สึกว่าหน้าอกอยู่สูงกว่าปกติ คนไข้อาจไม่ต้องใส่เสื้อชั้นใน แต่ใช้การพันผ้าเพื่อล็อกซิลิโคนไว้ให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากนั้นจึงอาจใส่เสื้อชั้นแบบกีฬา (Sport Bra) แต่ไม่แนะนำให้ใส่เสื้อชั้นในที่มีโครง เพราะอาจไปกดซิลิโคนให้เสียรูปทรงหรือขอบเสื้อชั้นในไปกดตรงแผลเป็นได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แผลออกมาไม่สวย หลังจากนั้นประมาณ 2-3 เดือนขึ้นไป จึงสามารถใส่เสื้อช้นในได้ตามปกติ

 

 

การมีหน้าอกที่งดงาม ได้รูป และเนียนสวย เป็นยอดปรารถนาของผู้หญิงทุกคน เพราะหน้าอกเป็นส่วนหนึ่งของเรือนร่างที่แสดงถึงเสน่ห์ของความเป็นหญิง คนที่มีหน้าอกสวยงามเหมาะสมกับรูปร่าง จึงมีความมั่นใจในตัวเอง สวมใส่เสื้อผ้าอะไรก็สวย และยังเป็นที่ปรารถนาของคนใกล้ชิด การทำศัลยกรรมทรวงอกในปัจจุบัน มีความปลอดภัยสูง ดังนั้น คนที่มีปัญหาทั้งหน้าอกเล็ก หน้าอกหย่อนคล้อย และหน้าอกไม่เท่ากัน จึงสามารถแก้ไขได้ด้วยการเสริมหน้าอกให้เต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น สำหรับค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก โดยประมาณอยู่ที่ 1-2 แสนบาท

 

 

“คนที่อยากทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ควรศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ควรพิจารณาถึงศัลยแพทย์ตกแต่ง ตรวจสอบประวัติและผลงานของแพทย์สถานพยาบาลที่ให้การผ่าตัด ดูรูปก่อนและหลังทำเปรียบเทียบกัน ตรวจสอบวัสดุที่ใช้เสริม ขอดูฉลากรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) จากแพทย์ เพราะปัจจุบันอาจมีบางคลินิกที่ยังใช้ซิลิโคนที่ไม่ผ่าน อย. ซึ่งโดยส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจีน ทำให้ส่งผลต่อการเสริมหน้าอกให้มีความสวยงาม ควรปรึกษาศัลยแพทย์ให้เรียบร้อย ทั้งเรื่องของขนาดและรูปทรงของซิลิโคน และการลงแผลผ่าตัดก่อนที่จะตัดสินใจทำค่ะ”

 

 

“สำหรับการเสริมหน้าอกออกมาแล้ว ทำให้ดูเป็นธรรมชาตินั้น การนวดหลังทำการผ่าตัดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก บางคนหลังเสริมหน้าอกมาแล้วในช่วงแรกๆ อาจจะรู้สึกเหมือนซิลิโคนอยู่สูง ซึ่งต้องมีการนวดดูแลที่ดี จึงจะทำให้หน้าอกออกมาสวยงาม อีกหนึ่งเรื่องก็คือการเลาะโพรงให้เท่ากัน ให้ซิลิโคนอยู่ในตำแหน่งที่เท่ากัน อีกปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยก็คือหน้าอกของผู้หญิงทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ดังนั้น อาจจะต้องใส่ซิลิโคนในขนาดที่ไม่เท่ากันให้เหมือนกับหน้าอกตามธรรมชาติด้วย การศัลยกรรมทรวงอกให้สวย สำคัญคือเรื่องของการวางตำแหน่งซิลิโคน ให้เหมาะสมคะ จึงจะทำให้ดูอวบอิ่มเต่งตึงแลดูเป็นธรรมชาติ”

 

 

พญ.ดารินทร์ ม่วงไทย

ศัลยแพทย์ตกแต่ง ผู้อำนวยการบริหาร The Sib Clinic

(Some images used under license from Shutterstock.com.)





ลดไขมันหน้าท้อง นวดสลายไขมัน ผลไม้ลดความอ้วน ลดน้ำหนักเร่งด่วน อาหารคลีน กินคลีนลดน้ำหนัก ลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน กินคีโต วิธีลดความอ้วนเร็วที่สุด อาหารลดความอ้วน วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน วิธีลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน ลดความอ้วนเร่งด่วน ผลไม้ลดน้ำหนัก อาหารเสริมลดความอ้วน วิธีลดความอ้วน เมนูลดความอ้วน วิธีการสลายไขมัน ลดความอ้วน สลายไขมัน ลดน้ำหนัก สูตรลดน้ำหนัก Exilis Elite Thermage Body ออฟฟิศซินโดรม Inbody Vaginal Lift Morpheus Pro Oligio Body IV Drip Emsella เลเซอร์นอนกรน Indiba ปากกาลดน้ำหนัก Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting romrawin รมย์รวินท์ ร้อยไหมหน้าเรียว ไหมหน้าเรียว ร้อยไหมเหนียง ไหมเหนียง ร้อยไหมยกหางตา ไหมยกหางตา Foxy Eyes ร้อยไหมปีกจมูก ไหมปีกจมูก ร้อยไหมกรอบหน้า ไหมกรอบหน้า ร้อยไหมร่องแก้ม ไหมร่องแก้ม ร้อยไหมก้างปลา ไหมก้างปลา ร้อยไหมคอลลาเจน ไหมคอลลาเจน ร้อยไหมจมูก ร้อยไหม ฟิลเลอร์คอ ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์มือ ฟิลเลอร์หน้าใส หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันหายบวม ฟิลเลอร์ร่องแก้มราคา ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์หลุมสิว หลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฟิลเลอร์ปากกระจับ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC ฟิลเลอร์จมูกราคา ฟิลเลอร์กรอบหน้า ฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฟิลเลอร์น้องสาวกี่ CC ฟิลเลอร์ราคา ฟิลเลอร์จมูก ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์แก้มส้ม ฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์น้องชาย ฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ ฉีดโบลดริ้วรอยหางตา ฉีดโบหางตา ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ฉีดโบหน้าผาก ฉีดโบยกมุมปาก ฉีดโบปีกจมูก ฉีดโบลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว ฉีดโบลดริ้วรอยใต้ตา ฉีดโบลดกราม ฉีดโบรักแร้ ฉีดโบลดริ้วรอย ดื้อโบลดริ้วรอย Volnewmer Linear Z ยกมุมปาก Morpheus Morpheus8 ลดร่องแก้ม Ultraformer III Ultraformer MPT Emface Hifu ยกกระชับหน้า Ultherapy Prime อัลเทอร่า Ulthera Thermage FLX BLUE Tip Thermage FLX Oligio เลเซอร์รักแร้ขาว เลเซอร์ขน กำจัดขน เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนน้องสาว เลเซอร์ขนหน้า เลเซอร์บิกินี่ เลเซอร์ขนบราซิลเลี่ยน เลเซอร์ขนขา เลเซอร์หนวด เลเซอร์เครา เลเซอร์รักแร้ เลเซอร์ขนรักแร้ กำจัดขนถาวร เลเซอร์ขนถาวร เลเซอร์ขน กำจัดขน เลเซอร์รอยสิว Pico Laser Pico Majesty Pico Majesty Laser Pico Pico NCTF 135 HA Rejuran Belotero Revive Glassy Skin Juvederm Volite Gouri Exosome Harmonyca Profhilo Skinvive Sculptra Sculptra Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse Radiesse UltraClear Aviclear Laser AviClear Laser Aviclear Aviclear AviClear Accure Laser Accure สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Fit Firm Emsculpt สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting Elite NAD+ therapy NAD+ ดีท็อกลำไส้ EIS BIO SCAN ICELAB IV DRIP ดริปวิตามิน Vaginal Lift Apex