
© 2017 Copyright - Haijai.com
ผ่าตัดปลูกขนตา
ทางเลือกเสริมเสน่ห์ เรียกความมั่นใจให้กลับมา
ขนตา ที่งอนงาม ย่อมเป็นความปรารถนาของหญิงสาว ที่ต้องการมีขนตาที่งอนเด้ง เงางามก่อนออกจากบ้าน เพื่อเรียกความมั่นใจให้ใบหน้าที่จัดเต็ม พร้อมปรากฏตัวต่อสาธารณะชน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนเกิดมาแล้วจะมีขนตาที่งอนงามตั้งแต่ออกจากท้องแม่ จึงต้องมีการเสริมเติมแต่งกันบ้าง บางคนโชคดีที่แม้ขนตาจะสั้น ก็สามารถใช้มาสคาร่า ปัดนิดหน่อยก็สวยเด้งขึ้นมาได้ หรือบางคนอาจจะติดขนตาปลอม ซึ่งมีให้เลือกมากมายจะเอาสั้นยาวแค่ไหนก็แล้วแต่ความปรารถนา
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ในโลกนี้ยังมีหนุ่มสาวที่ขาดความมั่นใจ ชนิดที่เรียกว่ากินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะไม่มีขนตา มิหนำซ้ำโชคยังไม่เข้าข้าง บางคนเป็นภูมิแพ้ ไม่สามารถใช้ตัวช่วยที่มีอยู่ได้เลย บ้างก็แพ้กาวที่ใช้ติดขนตา แพ้สารเคมี เครื่องสำอาง ทดลองมาหลายแบรนด์หลายยี่ห้อแล้วก็ไม่เป็นผล แถมยังพลาดทำลายขนตาธรรมชาติให้หลุดร่วงจนกลายเป็นทั้งสั้น ทั้งบาง หรือแหว่งเป็นหย่อมๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบางคน จนไม่อาจทนอยู่บนโลกใบนี้ได้ถ้าฉันไม่มีขนตา
ก่อนอื่นเราควรทำความรู้จักถึงคุณประโยชน์ที่แท้จริงของขนตาเสียก่อนว่า นอกจากจะเป็นองค์ประกอบบนใบหน้าที่ทำให้ดูดีแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นอะไรอีกบ้าง
“ขนตา” คือเส้นขนเล็กๆ ที่ทำหน้าที่ช่วยป้องกันฝุ่น ผงต่างๆ ป้องกันน้ำเข้าสู่ดวงตา ลักษณะของขนตาก็คล้ายๆ กับขนในบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย มีแตกต่างกันบ้างตามเชื้อชาติ ในเรื่องของสีขน และแน่นอนว่ามันคือองค์ประกอบชิ้นสำคัญในการเสริมความมั่นใจให้กับใบหน้า ทั้งนี้โดยธรรมชาติ ขนตาเมื่อได้รับการขยี้อย่างรุนแรง หรือเมื่อถึงเวลาย่อมหลุดร่วง ดังนั้น แม้จะได้ชื่อว่าขนตาถาวรก็ยังต้องหลุดร่วงไปตามกาลเวลาและสถานการณ์
Eyelash Thansplation การผ่าตัดปลูกขนตา
ในการปลูกขนตานั้นก็ขึ้นอยู่กับระดับความบาง โดยขึ้นอยู่กับเชื้อชาติและพันธุกรรมด้วย อีกประการคือเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ และอุบัติเหตุต่างๆ ที่ส่งผลต่อการมีขนตาที่บาง แหว่ง หรือโกร๋นได้ อย่างกรณีในต่างประเทศมีหญิงสาวคนหนึ่งป่วยโดยโรคไตรโคทิลโลมาเนีย (Trichotillomamnia) ซึ่งเป็นภาวะที่ผู้ป่วยเกิดอาการเครียดจนกระทั่งดึงขน และผมของเธอเอง ไม่เว้นแม้แต่ขนตา ส่งผลให้เธอมีขนตาที่แหว่งหายและไม่งอกขึ้นมาใหม่ เมื่อเธอรับการรักษาบำบัดโรคจนหาย ด้วยสภาพขนตาที่แหว่งส่งผลให้เธอเสียความมั่นใจ ไม่กล้าแม้แต่ออกไปนอกบ้าน และรู้สึกอาย แม้จะติดขนตาปลอม ปัดอายไลน์เนอร์แล้วก็ตามเธอก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี สุดท้ายเธอก็เข้ารับการผ่าตัดปลูกขนตากับคลินิกแห่งหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมีในกรณีของการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ผู้ป่วยที่ถูกไฟคลอกหรือคนที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับดวงตาแต่กำเนิด ทั้งนี้ วิธีการ การปลูกขนตานั้น ก็จะใช้รากของเส้นผมในการปลูกเช่นเดียวกับการปลูกคิ้วและจะต้องปลูกให้ขนตานั้นยาวหรือเติบโตได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยการปลูกขนตาจะใช้รากเส้นผมจากบริเวณท้ายทอย และนำมาผ่านกรรมวิธีแยก และเลือกเอาเส้นที่แข็งแรงมาทำการปลูกเหมือนกับการปลูกต้นไม้ ซึ่งขั้นตอนการปลูกถ่ายลงเข็มจะต้องคำนึงถึงทิศทางและความหนาแน่นของการปลูกด้วย โดยจะเลียนแบบขนตาธรรมชาติและตามมุมของไรขน โดยจะมีการฉีดยาชาแค่บริเวณชั้นตา เพื่อการป้องกันสายตาหรือดวงตาให้ปลอดภัย ซึ่งวิธีการนี้ต้องทำความเข้าใจว่ารากเส้นผมที่นำไปปลูก จาก 100 เส้น ก็อาจจะไม่ขึ้นทั้ง 100 เส้นก็เป็นได้ ซึ่งวิธีการผ่าตัดปลูกขนตานี้ ใช้เวลาในการทำไม่นาน โดยขึ้นอยู่กับจำนวนของเส้นที่ปลูกว่าเยอะหรือไม่ ส่วนใหญ่จะอยู่ 3-4 ชั่วโมง และเมื่อผ่าตัดปลูกขนตาเสร็จนั่งพักไม่นาน ก็สามารถกลับบ้านได้ ส่วนการดูแลหลังจากนี้ทำได้เฉกเช่นเดียวกับคนที่ทำตาสองชั้นในการดูแลแผลผ่าตัด เช่น ประคบเย็น เพราะอาจมีอาการบวมบ้างเล็กน้อย และล้างแผลตามปกติ
ถึงแม้ว่าวิธีการนี้จะใช้เวลาไม่นาน แต่เมื่อทำออกมาแล้วอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนได้ โดยสิ่งที่ตามมาคือเรื่องของการดูแลรักษา ซึ่งเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสิ่งที่นำมาปลูกคือเส้นผม คุณสมบัติทุกอย่างก็ยังคงความเป็นเส้นผมทุกประการ ทั้งเรื่องของระดับความยาว ขนาดเส้นขน สิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้คือการตัดเล็มทุกสัปดาห์ เพื่อให้มีขนาดความยาวที่พอเหมาะและต้องจัดแต่งทรงอยู่เสมอ เนื่องจากเส้นผมที่นำมาปลูกไม่ได้มีความงอนขึ้นเหมือนขนตาตามธรรมชาติที่หลบลูกตาเราโดยตรงปลายจะไม่เรียง จะมีลักษณะเป็นดุ้นๆ ทื่อๆ ไม่งอน จึงอาจส่งผลต่อการทิ่มลูกตาได้ รวมถึงขนจากที่เกิดจากรากผมนั้นจะมีต่อมเหงื่อที่เยอะกว่าส่งผลให้เกิดการอักเสบเป็นสิวได้ มีรังแคได้เช่นเดียวกับเส้นผม ซึ่งหลักการผ่าตัดปลูกขนตาประมาณ 3-4 เดือนก็จะเห็นผลแล้ว ซึ่งถ้ามีผลข้างเคียงเช่นเกิดสิวอย่างที่กล่าวมา ก็อาจจะต้องทายารักษาสิวในการดูแลร่วมด้วย แม้ว่าการผ่าตัดปลูกขนตาดูเหมือนว่าจะไม่สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด แต่ก็ยังเห็นผลได้ดีในกรณีที่ต้องการให้มีขนตาที่ยาวขึ้น แต่สำหรับคนที่มีขนตาบาง มีจำนวนเส้นขนน้อยกว่าปกติเท่านั้น แพทย์จะไม่นิยมทำให้เนื่องจากไม่คุ้มค่า เพราะว่าภาวะแทรกซ้อนที่ตามมาจะเยอะ หากพอที่จะสามารถใช้เครื่องสำอางช่วยได้ หรือติดขนตาปลอมได้ แนะนำให้เลือกใช้ทางออกนั้น เพราะเป็นทางหนึ่งหนทางของการเสริมสร้างความสวยความงามได้โดยที่ไม่ต้องดูแลมากนัก
ปัจจุบันมีเข้ารับการรักษาผ่าตัดปลูกขนตาในจำนวนที่ไม่มากนัก เนื่องจากคนที่มีขนตาบางหรือแหว่งจริงๆ ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ได้มีผลเสียอะไรต่อการดำเนินชีวิต แต่ถ้าไม่มั่นใจเลย อยู่ไม่ได้จริงๆ ถ้าฉันไม่มีขนตา แพทย์ก็จะทำให้โดยที่จะระบุว่า เขาต้องดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ในทางการแพทย์ หากคนเราต้องการมีขนตาที่ดกดำเงางาม ปัจจุบันก็มีตัวยาช่วยกระตุ้นได้ (Bimatoprost) โดยตัวยานี้แต่เดิมใช้ในการรักษาต้อหิน ปัจจุบันได้มีการประยุกต์นำมาใช้ทาเพื่อให้ขนตาหนาขึ้น ซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี แต่ก็มิได้เห็นผลในระดับถาวร คือเมื่อหยุดใช้ ก็จะกลับไปเป็นเช่นเดิมอีก
ทำความรู้จักตัวยาบำรุงขนตายาว (Bimatoprost)
ตัวยาชนิดนี้นิยมมาระยะหนึ่งแล้วในอเมริกา เพื่อช่วยยืดกระบวนการเติบโตของขนตาให้นานขึ้น ส่งผลให้ขนตาค่อยๆ ดูหนา ยาว และดกดำขึ้น ซึ่งส่วนผสมของตัวยานี้เป็นตัวยาหนึ่งที่ใช้ในการรักษาโรคต้อหิน เป็นสาร Bimatoprost ที่นอกจากบรรเทาอาการต้อของดวงตาแล้ว ยังมีผลข้างเคียงที่ทำให้ขนตาของผู้ป่วยยาวและหนาขึ้นด้วย จึงได้มีผู้ผลิตยาหลายๆ เจ้า ดึงสารที่ใช้ในยารักษาต้อหินดังกล่าว มาเป็นส่วนผสมของเซรั่มขนตายาวนั่นเอง ซึ่งสารตัวนี้ก็ได้ถูกจับตามองเป็นพิเศษจาก FDA หรือองค์การอาหารและยาของอเมริกา แต่สุดท้าย FDA ก็ออกมาอนุมัติผ่าน ให้กับเซรั่มจากบางบริษัทที่นำสารนี้มาเป็นส่วนผสมในเซรั่มสำหรับบำรุงให้ขนตายาวหนาได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรอยู่ในดุลพินิจของแพทย์เท่านั้น
ใครบ้างที่สมควรใช้วิธีการผ่าตัดปลูกขนตา
1.ผู้ป่วยที่เป็นโรค ทั้งโรคเกี่ยวกับผิวหนัง พันธุกรรม หรือเกิดอุบัติเหตุแล้วขนตาหายหมด หรือ แหว่ง
2.ผู้ที่มีความพร้อมในเรื่องของทุนทรัพย์ เนื่องจากราคาค่อนข้างสูงอยู่ในหลักแสนบาท
3.ผู้ป่วยที่มีผลกับสภาพจิตใจ ขาดความมั่นใจอย่างหนักหากไม่มีขนตา
เรียกได้ว่าการผ่าตัดปลูกขนตา ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของสาวๆ ที่ขาดความมั่นใจเอามากๆ แต่ทั้งนี้การดูแลรักษาขนตาให้คงอยู่ไปอีกยาวนานคงความเงางาม ดกดำได้ ก็ต้องหมั่นดูแลรักษา โดยทั่วไปแล้วสาวๆ ที่ขนตาบาง ก็มักพึ่งเครื่องสำอางอย่างมาสคาร่า แต่สิ่งที่พึงระวังคือเรื่องของการดูแลรักษา
ดูแลขนตาอย่างไร ให้ดูดี
1.ความสะอาด คือ ควรทำความสะอาด ก่อนที่จะเข้านอน หลังจากปัดมาสคาร่ากันมาทั้งวัน เพราะมาสคาร่า มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายกับดวงตา ดังนั้น การทิ้งมาสคาร่าไว้ข้ามคืนนอกจากจะทำร้ายขนตา ให้หลุดล่วงได้ง่ายแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อดวงตาได้อีกด้วย
2.เลือกติดขนตาปลอมที่มีคุณภาพ อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่า สาวขนตาบางอาจจะเลือกวิธีการติดขนตาปลอมก็ได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกในแบบที่มีคุณภาพด้วย เพราะตาปลอมที่คุณภาพไม่ดีนั้น เป็นอันตรายต่อดวงตาอย่างมาก เนื่องจากกาวติดขนตาปลอมบางชนิดมีคุณภาพต่ำ เป็นสาเหตุให้เกิดการแพ้บริเวณขอบตา บางครั้งรุนแรงจะทำให้ขนตาร่วงและกระจกตาอักเสบได้ รวมไปถึงการดึงขนตาปลอมออกเวลาไม่ใช้งาน หากดึงแรงและกาวไม่มีคุณภาพ อาจทำให้ขนตาจริงหลุดติดมาด้วย
3.สารอาหาร แม้ว่าจะไม่มีสารอาหารที่มีผลต่อขนตาโดยตรง แต่การรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ก็ช่วยให้ขนตาแข็งแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะในกลุ่ม โปรตีนจากเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู อาหารประเภทไข่ นม เนย ผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง คะน้า บรอคโคลี ถั่วเปลือกแข็ง ธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินบี วิตามินซี และควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทหมักดอง อาหารกระป๋องที่อาจส่งผลต่อการแพ้อย่างรุนแรง ที่สามารถทำให้ ผม ขน หรือแม้แต่ขนตาร่วงได้
“ในความเป็นจริงแล้ว ขนตาตามธรรมชาติมีประโยชน์ของมันในการปกป้องดวงตา จากฝุ่นละออง แมลง และจากเหงื่อที่มีสารเคมีที่อันตรายขับออกมาจากร่างกาย แต่เมื่อมันมาอยู่บนหน้าตาแล้ว อดไม่ได้ที่จะต้องดูแลให้ดี ในบางรายอาจโชคร้ายมีขนตาที่บางตั้งแต่กำเนิด หรืออุบัติเหตุ หรือการถูกสารเคมี รวมไปถึงโรคชอบถอนขนคิ้ว ขนตา แต่ความปรารถนาของสาวๆ ทุกคน คงไม่มีใครที่ชอบไม่ให้มีขนตาปล่อยให้ขนตาโกร๋น จึงเป็นที่มีของสารพัดวิธีให้มีขนตา กลับเข้ามาเป็นองค์ประกอบบนใบหน้า โดยในทางการแพทย์ การศัลยกรรมเพิ่มเสน่ห์ให้กับดวงตาด้วยการต่อขนตานั้น ทำได้ด้วยวิธีการปลูกถ่ายเซลล์เส้นผมจากท้ายทอย และปลูกลงในบริเวณที่ต้องการ ทว่าวิธีการนี้ไม่เป็นที่นิยมเท่าใดนักเนื่องจาก สภาพเส้นผมจะมีความยาวไม่จำกัด ต่างจากขนตาเมื่อถึงเวลาหนึ่งความยาวจะชะงักคงที่ ดังนั้นการต่อขนตาด้วยเส้นผมจริง จึงต้องหมั่นตัดเล็มปลายผมสม่ำเสมอและอาศัยขั้นตอนการดูแลที่พิถีพิถันเป็นพิเศษ”
พญ.กุลกานต์ อมรพัฒนา
แพทย์ด้านศัลยกรรมปลูกถ่ายรากผม
(Some images used under license from Shutterstock.com.)