© 2017 Copyright - Haijai.com
ตอบโจทย์ปัญหาสาวยุคใหม่ ผิวหลังเลเซอร์
ในปัจจุบันแสงแดด ถือเป็นตัวการทำลายผิวที่สำคัญ ทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วร สีผิวคล้ำหรือรอยเหี่ยวย่น และอาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ยิ่งเริ่มเข้าหน้าร้อนแบบนี้แสงแดดจะแผดเผาทำลายผิวของเราทุกวัน ดังนั้น ผิวจึงควรได้รับการปรนนิบัติเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผิวผู้ที่ผ่านการทำเลเซอร์ เพราะผิวจะมีสภาพบอบบางกว่าปกติ ระคายเคืองง่าย และไวต่อแสงแดดมากขึ้น รอยดำจากแสงแดดยิ่งเกิดได้ง่ายขึ้นกว่าปกติ จึงจำเป็นต้องมีการดูแลผิวพรรเป็นอย่างดี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง มีเคล็ดลับดูแลผิวให้สาวๆ รวมถึงผู้ที่ผ่านการทำเลเซอร์ได้เตรียมป้องกันแสงแดดอย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลมาฝากกัน
ปัญหาจากแสงแดดที่พบได้บ่อยๆ มักพบอาการผิวโดนแดดเผาไหม้ เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ รวมถึงอาการแพ้ระคายเคืองต่างๆ เพราะในแสงแดดมีรังสี UVA และ UVB ซึ่งรังสีนี้จะทำลายคอลลาเจน และอิลาสตินในชั้นหนังแท้ทำให้เกิดริ้วรอยต่างๆ ดังนั้น ควรทาครีมกันแดดทุกวัน และควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 20 นาที การทาครีมกันแดดที่ได้ผลดีควรทาให้เพียงพอ ไม่บางหรือหนาจนเกินไป แต่หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00 น. – 16.00 น. การเลือกใช้ครีมกันแดด ควรเลือกที่สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB และต้องไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ มีความคงตัวสูง ไม่ว่าจะโดนน้ำ หรือเหงื่อ ไม่เหนียว เหนอะหนะ
ปัจจุบันเราแบ่งครีมกันแดดเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ ครีมกันแดดแบบ Chemical Sunscreen ซึ่งมีสารกันแดดชนิดเคมีในการป้องกัน สารนี้จะซึมเข้าสู่ผิวและทำหน้าที่ช่วยดูดซับรังสี UV ไว้ และเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสารทำให้ประสิทธิภาพในการกันแดดลดลงตามระยะเวลาที่โดนแดด แต่ครีมกันแดดรุ่นใหม่จะมีสารกันแดดผสมกัน 2-3 ตัว และมีคุณสมบัติกัน UVA ได้มากขึ้น ส่วนข้อเสียคือสารที่ตกค้างในผิว อาจทำให้เกิดการแพ้ระคายเคือง และเปลี่ยนเป็นอนุมูลอิสระทำร้ายผิวได้ ครีมกันแดดกลุ่มที่ 2 คือ ครีมกันแดดแบบ Non-Chemical Sunscreen (Physical) ไร้สารกันแดดชนิดเคมี โดยมีสารป้องกันรังสียูวีจากธรรมชาติ ได้แก่ ไททาเนียม ไดออกไซด์ (Titanium Dioxide), ซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) สารเหล่านี้จะเสมือนเกราะสะท้อนรังสียูวีออกจากผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่ายไม่เกิดการแพ้และระคายเคือง ใช้ได้ทั้งเด็กรวมถึงผู้ที่ผ่านการทำเลเซอร์สามารถทาครีมแล้วถูกแดดได้ทันที โดยไม่ต้องรอ ทาครั้งเดียวปกป้องผิวได้ทั้งวัน สามารถกันได้ทั้ง UVB และ UVA ไม่เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติเมื่อโดนแดดได้นานถึง 8 ชม. ซึ่งต่างจากครีมกันแดด Chemical Sunscreen ที่ต้องทาทุกๆ 2-3 ชม. ซึ่งในปัจจุบันมีการลดขนาดโมเลกุลของสารสะท้อนแดดทำให้ความขาวลดน้อยลง จึงเป็นที่นิยมสำหรับสาวๆ ในยุคดิจิตอลเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ยังฝากข้อแนะนำสำหรับสาวๆ หลายๆ คนที่ใช้ Moisturizer และ BB ที่มีค่า SPF ผสมอยู่ ซึ่งจริงๆ แล้วยังไม่เพียงพอต่อการป้องกันผิวจากแสงแดด ควรใช้ควบคู่กับครีมกันแดดชนิด NonChemical Suncreen ปกป้องผิวเนียน ขาว ของคุณ โดยการสะท้อนรังสี UVA/UVB ออกจากผิว จึงไม่เกิดการตกค้าง ไม่ทำปฏิกิริยาเคมีกับผิวหน้าปราศจากการระคายเคือง อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบาง แพ้ง่าย และผิวที่บางจากการทำเลเซอร์ หน้าร้อนที่แสดงแดดสดใสแบบนี้ออกไปเผชิญกับแสงแดดบ้าง อย่างถูกวิธี ก็สามารถมีผิวสวยได้ โดยไม่ต้องกลัวอีกต่อไป
(Some images used under license from Shutterstock.com.)