
© 2017 Copyright - Haijai.com
ช่วยด้วย จมูกเอียงหลังผ่าตัดเสริมจมูก
เรามาพูดถึงเรื่องราวการศัลยกรรมบนใบหน้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาการทำศัลยกรรมทั้งหมด นั่นก็คือการเสริมจมูก ถึงแม้ว่าการเสริมจมูกจะดูเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปซะแล้ว แต่การทำศัลยกรรมประเภทนี้ก็ยังพบปัญหาพลังทำได้มาก อย่างเช่นจมูกเอียง เป็นต้น บางคนคิดถึงแต่ว่าเสริมยังไงให้โด่งให้โค้งสวย แต่ลืมนึกไปว่าไม่ใช่แค่ความโด่งอย่างเดียวที่จะทำให้เสริมจมูกออกมาแล้วสวยรับกับใบหน้า แต่ความได้สัดส่วน ไม่เอียง ไม่เบี้ยว ก็ยังเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้การเสริมจมูกประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ว่าเสริมเสร็จแล้วเอียง ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนทักจนทำให้เกิดความไม่มั่นใจ
จมูก เป็นอวัยวะที่สำคัญไม่แพ้อวัยวะส่วนอื่นๆ บนใบหน้า ดังนั้น การทำศัลยกรรมเสริมจมูกที่ดี จมูกมีสัดส่วนสวยงามรับกับใบหน้าแลดูแล้วเป็นธรรมชาติไม่ขัดตา ก็จะทำให้ใบหน้าของคุณดูโดดเด่นสวยงามและหล่อเหลามากยิ่งขึ้น นอกจากความสวยงามบนใบหน้าแล้ว จมูกยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับโหงวเฮ้งอีกด้วย แต่ในบางคนอาจเกิดปัญหาจมูกเอียงหลังทำการผ่าตัดเสริมจมูก ทำให้ใบหน้าดูเปลี่ยนไป ไม่ได้สัดส่วนอย่างที่ควรจะเป็น หากเป็นเช่นนั้นต้องพบแพทย์เพื่อทำการแก้ไขกันแล้วล่ะ
กายวิภาคและสรีรวิทยาของจมูก
จมูกประกอบด้วยโครงสร้าง 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกเป็นดั้งจมูกที่เป็นกระดูกแข็ง (Nasal Bone) เป็นส่วนดั้งจมูกช่วง 1 ใน 3 ตอนบนของจมูก ไม่สามารถขยับได้ ส่วนที่สองเป็นดั้งจมูกตอนกลาง เป็นกระดูกอ่อนอยู่ช่วงกลางของจมูกเป็นสันบนของกระดูกอ่อนผนังกั้นกลางจมูกสามารถโยกได้เล็กน้อย ส่วนที่สามคือส่วนปลายจมูก เป็นกระดูกอ่อนเล็กๆ 2 ชิ้น ประกบกันเป็นรูปปีกผีเสื้อ (Lower lateral cartilage) แขวนอยู่ช่วงล่างสุดของจมูก สามารถบิดจับไปมาได้ ขนาดของปลายจมูกเกิดจากความหนาของเนื้อปลายจมูกรวมกับขนาดของกระดูกอ่อนรูปปีกผีเสื้อ ปลายจมูกใหญ่อาจเกิดจากโครงสร้างเดียวหรือทั้งสองโครงสร้างที่ว่าก็ได้
ลักษณะของเสริมแล้วจมูกเอียง
จมูกเสริมเอียง เป็นอีกหนึ่งผลข้างเคียงที่สามารถพบได้ทั่วไปหลังการเสริมจมูกด้วยแท่งซิลิโคน นอกเหนือจากผลข้างเคียงอื่นๆ ที่หลายคนพอจะทราบกันมาบ้าง อย่างเช่น จมูกทะลุ จมูกเบี้ยว จมูกบวม จมูกเน่า เป็นต้น โดยลักษณะการเอียงของจมูกนั้น สามารถพบได้ 3 แบบด้วยกัน ได้แก่
(1) โคนเอียง ลักษณะคือ บริเวณระหว่างคิ้วและหัวตาเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
(2) ปลายเอียง ลักษณะคือ บริเวณโคนตรง แต่ปลายจมูกเอียง และ
(3) เอียงทั้งแท่ง ลักษณะคือ ทั้งบริเวณโคนและปลายไหลไปอยู่อีกด้านหนึ่งของจมูก
(4) ซิลิโคนที่เสริมตรงแต่กระดูกจมูกธรรมชาติเอียง (ภาวะนี้แก้ไขด้วยการผ่าตัดกระดูกจมูก ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่ยากกว่าการเสริมจมูก)
การเอียงนี้บางคนสามารถสังเกตเห็นได้ชัด ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนมองหน้าแล้วเดินเข้ามาทักว่าจมูกเอียงหรือเปล่า ทำให้หมดความมั่นใจไปตามๆ กัน หรือบ้างคนก็อาจจะมองไม่ค่อยออก เพราะเอียงเพียงเล็กน้อย ซึ่งหลังการผ่าตัดเสริมจมูกควรสังเกตตัวเองเป็นประจำ เมื่อพบว่ามีความผิดปกติใดๆ หรือมีความเอียงเกิดขึ้นและสร้างความไม่พึงพอใจ จึงอาจกลับไปปรึกษาแพทย์ เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุของจมูกเอียงและทำการแก้หากอยู่ในวิสัยที่แก้ไขได้ (บางรายอาจแก้ไขยากเพราะโครงจมูกเดิมไม่ดี)
สาเหตุที่ทำให้จมูกเสริมเอียง
จมูกเสริมเอียงเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกได้แก่สันเดิมคด คนไข้บางคนมีสันจมูกที่คดอยู่แล้ว ซึ่งอาจเกิดจากได้รับแรงกระแทกจากอุบัติเหตุ เช่น หกล้มแล้วจมูกกระแทก หรือเกิดจากความผิดปกติของการเจริญของผนังกั้นช่องจมูกแต่กำเนิด เมื่อวางแท่งซิลิโคนลงไปแล้ว จึงทำให้จมูกเอียง เนื่องจากมีสันที่คดตั้งแต่แรก สาเหตุต่อมาก็คือเงี่ยงกลางจมูกคนไข้บางราย อาจมีเงี่ยงกระดูกนูนตรงกลางจมูกมองเห็นเป็นโหนกนูนขึ้นมา เมื่อวางแท่งซิลิโคนไปแล้วจะทำให้แท่งซิลิโคนไหลเลื่อนไปด้านหลัง ซิลิโคนยาวเกินไปก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้จมูกเอียง อาจเกิดขึ้นหากแพทย์ไม่มีความชำนาญในการผ่าตัด ซึ่งกะความยาวไม่ถูกทำให้แท่งซิลิโคนที่ใช้เสริมยาวเกินไปไม่พอดีกับสันจมูก และอาจดันแล้วทำให้เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง แต่ในกรณีนี้พบได้น้อย เพราะถ้ายาวเกินไปมักทำให้ทะลุมากกว่า และสาเหตุสุดท้ายคือโพรงไม่สมดุล การเสริมจมูกด้วยแท่งซิลิโคน แพทย์ทำการเลาะโพรงจมูกตั้งแต่ข้างบนจนถึงปลายจมูก โดยจะต้องเลาะเนื้อเยื่อด้านข้างออกทั้งสองข้างในปริมาณที่เท่ากัน เพื่อให้โพรงได้สัดส่วนสมดุล เพราะหลังจากเสริมไปแล้วเนื้อเยื่อที่ปกคลุมซิลิโคนต้องยืดขยายทั้งสองข้างในปริมาณที่เท่ากัน ดังนั้น หากเลาะออกไม่เท่ากัน จะทำให้โพรงด้านที่เลาะน้อยกว่าตึงแข็งและดันแท่งซิลิโคนไปในโพรงด้านที่หลวมกว่า
การแก้ไขจมูกเอียง
ก่อนอื่นต้องมาวิเคราะห์ว่าจมูกของคุณเอียงหรือไม่ โดยสามารถสังเกตได้จากแนวเส้นตรงที่ลาก จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้วและหัวตา และจุดกึ่งกลางของปลายจมูก ซึ่งตรงกับจุดกึ่งกลางของปากบน มีข้อสังเกตเล็กน้อยว่าบางรายปลายจมูกเอียงไปด้านข้างได้เช่นกัน เมื่อแท่งซิลิโคนอยู่กลางจะทำให้ดูเอียง เพราะปลายจมูกเอียงนั่นเอง บางกรณีแท่งซิลิโคนอยู่ตรงกลางจมูกแล้ว แต่จมูกด้านข้างซ้าย-ขวามีความชันไม่เท่ากัน ทำให้จมูกดูเลี้ยว มองเห็นเป็นจมูกเอียง โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะทำการวินิจฉัยจมูกเอียงโดยดูแนวกึ่งกลางหน้าตรงกับแนวกึ่งกลางของแท่งซิลิโคน จะถือได้ว่าจมูกตรง ไม่เอียง หากพบว่าจมูกเอียงแพทย์จึงทำการแก้ไขตามสาเหตุ ถ้าเกิดจากสันเดิมคด ซึ่งโดยปกติแล้วในบริเวณนี้มักไม่ค่อยได้รับการแก้ไขยกเว้นในบางกรณีที่ผนังกั้นกลางจมูกคด ซึ่งอาจเกิดจากการได้รับแรงกระแทกจากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุ ทำให้ผนังจมูกคดไปอีกด้านหนึ่ง เมื่อเสริมด้วยแท่งซิลิโคนเข้าไปแล้วจะทำให้ไหลไปตามความเอียงของผนังกั้นกลางจมูก จึงต้องทำการผ่าตัดย้ายผนังกั้นกลางจมูกทั้งหมดให้กลับมาอยู่ตรงกลาง ซึ่งใช้เทคนิคในการผ่าตัดย้ายผนังกั้นกลางจมูกทั้งหมดให้กลับมาอยู่ตรงกลาง ซึ่งใช้เทคนิคในการผ่าตัดแบบเปิดรูจมูกทั้งสองข้างถึงด้านบนของจมูก (Open Rhinoplasty/Septorhinoplasty/Osteotomy) ในกรณีที่จมูกเอียงเกิดจากเงี่ยงกระดูกลางจมูก แพทย์จะทำการตะไบเงี่ยงกลางจมูกออกก่อนใส่แท่งซิลิโคน หากซิลิโคนปลายเอียง แพทย์จะทำการเย็บแท่งซิลิโคนยึดไว้กับเนื้อในรูจมูก เพื่อป้องกันไม่ให้ปลายซิลิโคนเลื่อน ส่วนจมูกเอียงที่เกิดจากซิลิโคนยาวเกินไปแล้วดันให้ไหลไปข้างใดข้างหนึ่ง สามารถแก้ไขโดยการผ่าตัดเปลี่ยนซิลิโคนแท่งใหม่และตัดแต่งให้พอดี และจมูกเอียงที่เกิดจากโพรงไม่สมดุล สามารถแก้ไขโดยทำการเลาะโพรงใหม่ให้เท่ากันทั้งสองข้าง เพราะเมื่อแท่งซิลิโคนเอียงมาด้านใดด้านหนึ่ง ก็จะทำให้โพรงเบี้ยวตามและมีพังผืดรอบๆ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องรื้อโพรงเก่าขยายเป็นโพรงใหม่ที่สมดุล ในกรณีที่จมูกด้านข้างมีความชั้นไม่เท่ากัน ด้านหนึ่งยุบแต่อีกด้านหนึ่งนูนกว่า และแกนแท่งซิลิโคนไม่เอียง อาจแก้ไขโดยการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อเติมเต็มข้างที่ยุบทำให้ได้สัดส่วนสมดุล
ขั้นตอนการผ่าตัดแก้ไขจมูกเอียง
การผ่าตัดเพื่อปรับแก้รูปทรงจมูกที่เอียง สามารถทำได้ทั้งเทคนิคการผ่าตัดแบบเสริมจมูกทั่วไป หรือการผ่าตัดแบบเปิด (Open Rhinoplasty) ขึ้นอยู่กับปัญหาของผู้ป่วยที่ตรวจพบ หากทำแบบผ่าตัดทั่วไปมีขั้นตอนการผ่าตัดโดยย่อคือ
1.การผ่าตัดโดยการใช้ยาชาเฉพาะที่หรือการดมยาสลบ
2.ลงแผลที่ด้านในขอบจมูก ให้รอยผ่าตัดห่างจากขอบจมูกเข้าไปด้านในประมาณ 2 มิลลิเมตร
3.เลาะเข้าไปในโพรง เพื่อนำซิลิโคนแท่งเดิมออก แล้วทำการแก้ไขสาเหตุที่ทำให้จมูกเอียง ได้แก่ สันเดิมคด เงี่ยงกลางจมูก ซิลิโคนยาวเกินไป และโพรงไม่สมดุล อาจต้องมีการตัดและปรับบางส่วนของกระดูกอ่อนแกนกลางหรือผนังกั้นกลางจมูกที่คดให้ตรง จากนั้นจึงปรับบริเวณฐานจมูก เพื่อขยับแกนจมูกอยู่ตรงกลางให้มากที่สุด
4.หลังทำการแก้ไขสาเหตุแล้ว จึงทำการเลาะโพรงใหม่ให้สมบูรณ์
5.ทำการเย็บแผลหรือเย็บแท่งซิลิโคนติดกับปลายจมูก ซึ่งขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์แต่ละท่าน หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์จึงมาตัดไหม ส่วนการผ่าตัดแบบเปิดปลายจมูกหรือตัดแต่งกระดูกจมูก ถือเป็นการผ่าตัดแบบยาก มีศัลยแพทย์จำนวนไม่มากที่เชี่ยวชาญ โดยทั่วไปต้องปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งหรือศัลยแพทย์ตกแต่งใบหน้า โดยทั่วไปหากศัลยแพทย์มีความชำนาญก็จะไม่ค่อยมีปัญหา และถือว่าเป็นการผ่าตัดที่ปลอดภัย แต่หากไม่ชำนาญก็อาจเกิดปัญหาร้ายแรงได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นการผ่าตัดในบริเวณที่อยู่ใกล้ตาและสมอง ซึ่งการผ่าตัดอาจมีผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ คือ ไม่หายเอียง การติดเชื้อมีเลือดออก ซิลิโคนเสียรูป จมูกคดไม่เรียบ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดคนไข้ควรแจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ยาและอาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันให้แพทย์ทราบ ให้งดยาแอสไพริน (Aspirin) ยาต้านเกล็ดเลือดทุกตัว, ยากลุ่ม NSAID และวิตามินอี อาหารเสริมยาบำรุงทุกชนิดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังการผ่าตัด 2 สัปดาห์ หากมีแผลหรือสิวบริเวณจมูก หรือโรคอื่นๆ ควรรักษาให้หายหรือสามารถควบคุมโรคได้
หลังผ่าตัดคนไข้ควรดูแลตัวเองด้วยการนอนยกศีรษะให้สูงกว่าปกติและประคบเย็นในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม หลีกเลี่ยงการนอนเอียงหรือนอนตะแคงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพราะอาจมีผลทำให้จมูกเคลื่อนที่เนื่องจากน้ำหนักของซิลิโคน หากไม่ได้ทำการเย็บซิลิโคนไว้ ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรเช็ดแผล เพราะอาจทำให้ติดเชื้อและไหมเย็บแผลหลุด คนไข้ควรงดทานอาหารร้อน อาหารรสจัด เพราะอาจทำให้มีน้ำมูกและไหลไปโดนแผล ทำให้แผลหายช้าและติดเชื้อได้ และควรระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ หลังการผ่าตัดในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก แผลจะยุบบวมไม่เท่ากัน จมูกจึงดูคล้ายกับเอียงได้ ต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนหลังผ่าตัดแพทย์จึงจะประเมินผลการผ่าตัดได้ถูกต้อง โดยรูปจมูกจะเข้าที่ใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งแพทย์จะนัดตรวจหลังผ่าตัดตามความเหมาะสม จนกระทั่งผลลัพธ์ในการผ่าตัดอยู่ในขั้นปลอดภัยและเป็นที่พอใจของแพทย์และคนไข้
ถึงแม้ว่าการเสริมจมูกจะเป็นการทำศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถทำการผ่าตัดเสริมจมูกได้เป็นจำนวนมาก็ตาม แต่ทว่าผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนที่ตามมาก็ยังมีมาก เนื่องจากการผ่าตัดไม่ได้ขึ้นอยู่กับแพทย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงวัสดุที่ใช้เสริม ความพร้อมของคนไข้ การดูแลตัวเองของคนไข้หลังทำ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หากปัจจัยทุกอย่างพร้อม จึงจะทำให้ผลลัพธ์ในการผ่าตัดเสริมจมูกนั้นประสบความสำเร็จมากที่สุด เกิดความพึงพอใจทั้งคนไข้และแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด
"เรื่องการทำศัลยกรรมจมูกเอียงนี้ ขึ้นอยู่ที่ความพอใจของคนไข้ เพราะคนไข้บางคนมีจมูกเอียงแต่ก็แฮปปี้ ไม่ได้เป็ฯปัญหาในการดำเนินชีวิตแต่อย่างใด เพราะแต่ละคนให้ความสำคัญในเรื่องจมูกไม่เท่ากัน บางคนไม่ได้สนใจว่าจมูกเอียง แต่บางคนเอียงนิดนึงก็ไม่ได้ ดังนั้น เมื่อคิดว่าไม่ชอบ อยากหาทางแก้ ก็ให้สอบถามเทคนิคการทำศัลยกรรมจากหลายๆ แห่ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ๆ จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงไปตรงมาเพื่อเปรียบเทียบกัน ทำความเข้าใจศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เมื่อเข้าใจแล้วก็มาตัดสินใจว่าจะเชื่อใคร อย่าเชื่อคำโฆษณา ให้ดูเหตุผลคำอธิบายและตรวจสอบจากฐานข้อมูลวิชาการเท่าที่หาได้ก่อน อย่าพิจารณาจากคำโฆษณาว่าเก่ง ทำมากที่สุด ซึ่งไม่ได้แปลว่าผลการรักษาจะดี
แพทย์ที่ดีก็จะอธิบายให้คนไข้ฟังว่าทำอย่างไร และแจ้งผลที่อาจเป็นไปได้ในทางบวกและทางลบ แต่ถ้าแพทย์คนไหนไม่ตอบคำถามคนไข้ ก็อาจจะต้องไปถามกับแพทย์ท่านอื่นๆ จนกระทั่งได้ข้อมูล เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวคนไข้เอง เพราะเมื่อตัดสินใจผ่าตัดแล้ว ทั้งคนไข้และแพทย์เองก็ไม่อยากให้ผลที่ออกมาไม่ดี แต่ความจริงไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนก็สามารถเกิดปัญหาขึ้นได้ แต่อย่างน้อยต้องมีความปลอดภัย เพื่อให้การตัดสินใจถูกต้องมากที่สุด จึงอย่าเชื่อเพราะมีคนเชียร์ มีคนรับรอง รับประกัน หรือชักชวนไป มีผู้ป่วยบางรายที่ไม่อาจปฏิเสธแรงกระตุ้นจากคำพูดชักชวน สุดท้ายก็เสียใจ บางครั้งเกิดความผิดพลาดขึ้นและไม่อาจแก้ไขให้เหมือนเดิมได้อีกเลย ร่างกายมนุษย์ไม่ใช่รถยนต์ ที่จะเปลี่ยนอะไหล่แล้วเหมือนใหม่ หลายๆ อวัยวะเสียแล้วก็เสียเลย มีเงินเท่าไรก็ซื้อคืนไม่ได้ จึงต้องระมัดระวังรักษาไว้ให้ดี อย่าประมาทครับ"
ผศ.นพ.ถนอม บรรณประเสริฐ
ศัลยแพทย์ตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า
(Some images used under license from Shutterstock.com.)