
© 2017 Copyright - Haijai.com
สมองทำให้เห็นสวรรค์
ศาสนิกชนหลายศาสนาได้รับแนวคิดเรื่องพระเจ้า นรก สวรรค์ จากคำสอนในคัมภีร์ของศาสนาที่ตนนับถือ เขาทั้งหลายจึงเชื่อไปตามนั่น แต่ก็มีหลายคนที่ไม่เชื่อ ไม่แน่ใจ บางคนเป็นนักเรียนทางวิทยาศาสตร์ จะเชื่ออะไรต้องพิสูจน์ได้ เขาจึงพยายามจะพิสูจน์ให้เห็นทางวิทยาศาสตร์ว่าสวรรค์มีจริง บางคนเชื่อมากเพราะเหตุการณ์ในชีวิตบางอย่างทำให้เชื่อ เช่น นพ.อีเบน อเล็กซานเดอร์ ซึ่งเคยเป็นคริสตศาสนิกชน แต่เพียงในบัญชีรายชื่อเท่านั้น ไม่ค่อยเชื่อถือเรื่องพระเจ้าหรือสวรรค์มาก่อน แต่ตอนนี้ชีวิตพลิกผัน จึงเริ่มเชื่อว่าสวรรค์มีจริง เขาอ้างว่ามีประสบการณ์จริงจนอดรนทนไม่ได้ต้องเขียนออกมาเป็นหนังสือชื่อ Proof of Heaven
หมออเล็กซานเดอร์ เป็นอาจารย์ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมองที่โรงพยาบาลลินช์เบิร์ก เจเนอรัลฮอสปิตัล มลรัฐเวอร์จิเนียร์ เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่เคยเชื่ออะไรง่ายๆ จนกระทั่งเมื่อหลายปีก่อนเขาป่วยหนัก เพราะโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (meningitis) จากเชื้ออีโคไล ทำให้หมดสติโคม่า หลังจากโคม่าอยู่ 7 วัน ขณะทที่หมอประจำตัวของเขากำลังคิดว่าจะเลิกรักษาดีหรือไม่ เขาก็ลืมตาฟื้นขึ้นมา เขาเล่าว่าในขณะที่เขากำลังโคม่าไม่ไหวติงอยู่นั้น สติของเขายังทำงานอยู่ อัตตาภายในของเขาได้ท่องไปในจักรวาลกว้างไกลที่ไม่เคยแม้แต่จะฝันเห็นมาก่อน เป็นภาพที่คนที่เคยใกล้ตายหลายคนเคยบรรยายไว้ แต่เขาว่ายังไม่มีใครที่มีประสบการณ์เหมือนเขาหลายอย่างคือ
1) สมองส่วนนอก (cortex) ได้หยุดการทำงานจากการติดเชื้อ ซึ่งได้รับการยืนยันจากการทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง และ
2) ร่างกายได้รับการเฝ้าระวังดูแลใกล้ชิดจากแพทย์และพยาบาล
เขาได้เห็นภาพที่แจ้งชัดจนต้องเชื่อ มันเป็ฯสถานที่ที่มีเมฆขนาดใหญ่สีชมพูปนขาว ซึ่งตัดกับฉากหลังสีฟ้าของนภากาศ เหนือขึ้นไปมีภาพลางๆ ของสิ่งมีชีวิตมีปีก ซึ่งอาจจะเป็นนกหรือเทวดานางฟ้าออกันอยู่เป็นทิวโค้งทอดยาวไปสุดสายตา มีเสียงทุ้มกังวานราวกับว่านางฟ้าหรือเทวดามีปีกกำลังสวดมนต์แสดงความสุขใจไร้ความทุกข์ ที่ยืนเคียงข้างกายเขาคือหญิงสาวผมยาวสีทองร่างกายสีเงิน ขณะที่เขากำลังเดินทางไปนั้นมีผีเสื้อมากมายบินมาห้อมล้อม เธอกล่าวแก่เขาโดยไม่ได้ออกเสียงแต่เขาเข้าใจข้อความได้ว่า
“มีคนที่เขารักคุณ ชื่นชมคุณ ชั่วนิรันดร์”
“คุณไม่มีอะไรต้องกลัว”
“ไม่มีอะไรที่คุณจะทำผิดได้”
ข้อความนี้ถาโถมท่วมท้นเขาด้วยความรู้สึกโล่งอกโล่งใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
มีหลายคนที่เคยมีประสบการณ์ใกล้ตายแล้วเอามาเขียนเล่าแปลกๆ อย่างนี้ คนไทยก็มีเหมือนกัน แต่นี่บังเอิญเป็นศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง ซึ่งเคยทำงานอาชีพผ่าเปิดกระโหลก จับต้องเชือดเฉือนเนื้อสมองอยู่เป็นประจำ จึงมีความมั่นใจมาก มีคำอธิบายว่าภาพที่เขาเห็นมันชัดเจนแจ่มแจ๋วไม่มีทางเป็นเท็จไปได้ ไม่มีทางเป็นภาพหลอนหรือความหลงผิดคิดไปเอง (delusion) เขาจึงเชื่อว่าสวรรค์มีจริงแท้แน่นอน
สมองของคนเราเมื่อได้รับการกระตุ้นจากสารเคมีหรือยาที่มีผลต่อระบบประสาทจะทำให้คนเรามีความรู้สึก (senses) นึกคิดธรรมารมณ์ (imagination) ที่ผิดเพี้ยนไปได้ เช่น สารเสพติดอย่างกัญชา ทำให้คนเสพเห็นช้างเท่าหมู เห็นใบไม้ไหวแล้วหัวเราะอารมณ์ดี ส่วนสารแอลเอสดีเมื่อเสพแล้วทำให้เสียงที่มากระตุ้นโสตประสาทถูกตีความโดยสมองเป็นแสงสีแวบวาบ ปรากฏการณ์ทางสมองจึงเป็นสังขารที่ปรุงแต่งขึ้นมา ไม่ใช่ตัวตนที่แน่นอนถาวร
คนบางคนที่เคยศึกษาและฝึกวิปัสสนากรรมฐานมาแล้วย่อมต้องรู้ว่าเวลาเข้าสมาธิอาจจะเห็นเป็นนิมิตเห็นภาพโอปปาติกะ เห็นเทวดา นางฟ้า ฯลฯ วิปัสสนาจารย์กล่าวว่าภาพนิมิตต่างๆ เหล่านั้นมันไม่ใช่ความจริง บางคนเวลาเข้าสมาธิแล้วมักจะเห็นนิมิต บางคนเข้าสมาธิเก่งอย่างไรก็เห็นนิมิต เหมือนกับที่บางคนเวลาหลับแล้วมักจะฝันเป็นตุเป็นตะ แต่บางคนไม่ฝันเลย ฝรั่งที่เคยมาฝึกวิปัสสนากับพระไทยบางคนเล่าว่าเห็นนิมิตเป็นพระเยซู เห็นนางฟ้านุ่งห่มผ้ามากมายแบบนางฟ้าฝรั่งในเมืองหนาว แต่คนไทยที่นั่งวิปัสสนาแล้วเห็นนิมิต มักจะเห็นนางฟ้าไทยนุ่งห่มน้อยกว่า อาจารย์วิปัสสนาจึงกล่าวว่าการเห็นภาพนิมิตนั้นเกิดมาจากจิตใต้สำนึกตามความเคยชิน ไม่ควรยึดติด ฝรั่งเห็นพระเยซูหรือสวรรค์นางฟ้าแบบฝรั่ง ส่วนคนไทยก็มีจิตใต้สำนึกความทรงจำแบบไทยๆ ฝรั่งอย่างหมออีเบน อเล็กซานเดอร์ เห็นนางฟ้าเทวดามีปีกตามแนวคิดของฝรั่งที่คุ้นเคยมาแต่อ้อนแต่ออก แต่คนไทยเวลาเห็นนางฟ้าเทวดาจะเห็นเหมือนที่เคยเห็นตามภาพฝาผนังโบสถ์ที่ตนเคยจำได้มาตั้งแต่เด็ก สิ่งใดที่เห็นไม่เหมือนกันอย่างนี้คงไม่ใช่สัจธรรมเป็นแน่
ในบทสวดมนต์แปลเรื่อง มรรคมีองค์แปด ตอน สัมมาสมาธิ (ความตั้งใจมั่นชอบ) อธิบายเกี่ยวกับการบรรลุฌานในระดับต่างๆ ของการเข้าสมาธิที่ถูกต้องเป็น “สัมมา” ไม่มีการกล่าวถึงนิมิตเลย ในทัศนะของชาวพุทธเราจึงเชื่อว่าสวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจมากกว่าที่เห็นในนิมิต สำหรับฝรั่งคงเชื่อเรื่องสวรรค์มากกว่าเรา ถ้าสวรรค์มีจริงพระผู้เป็นเจ้าก็ต้องมีจริงด้วย เวลาฝรั่งมีความทุกข์จึงคิดถึงพระเจ้า สวดมนต์อ้อนวอนขอพรพระเจ้า ทำให้เกิดความสุขใจ สบายใจ ลดความกังวลลง
ในสังคมผรั่งมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อพระเจ้ากันมาก เราจึงมักพบข้อความที่เขียนเกี่ยวกับสวรรค์ในทางจริงจังอย่างเช่นที่หมออีเบน อเล็กซานเดอร์ เขียนเรื่อง Proof of Heaven หรือที่คนอื่นเขียนในเชิงขำขันกันมาก ตัวอย่าง เช่น ในอีเมลที่ผมได้รับเมื่อวันก่อนนี้ เพื่อนเขาแปลและส่งต่อกันมาวเมริกันนายหนึ่งพบพระเจ้าแล้วถามว่า
“เมื่อไหร่เศรษฐกิจของสหรัฐจะกลับมาปกติ”
พระผู้เป็นเจ้าตอบว่า “อีก 100 ปี”
อเมริกันนายนั้นเริ่มร้องไห้แล้วบอกว่า “ผมคงอยู่ไม่ถึงตอนนั้น”
ชาวกรีกคนหนึ่งถามพระเจ้าว่า “เมื่อไหร่เศรษฐกิจของกรีกจะกลับมาปกติ”
พระผู้เป็นเจ้าตอบว่า “อีก 50 ปี”
กรีกนายนั้นก็เริ่มร้องไห้แล้วบอกว่า “ผมคงไม่ได้เห็นวันนั้นแน่เลย”
แล้วก็มาถึงคนไทยนายหนึ่งถามพระเจ้าว่า “เมื่อไร การขายเสียงจะหมดไปจากเมืองไทยครับ”
พระผู้เป็นเจ้าได้ยินดังนั้น ก็เริ่มร้องไห้แล้วว่า “ฉันคงอยู่ไม่ถึงตอนนั้นหรอก” แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณจึงว่า “เอาอย่างนี้แล้วกัน เอาไอ้นี่ไปแจกให้คนไทยกิน เผื่อว่าการขายเสียงจะหมดไปเร็วขึ้น” ว่าแล้วก็ส่งขวดไอโอดีนขวดใหญ่ลงมาให้คนไทยกินเสริมอาหาร
อ่านถึงตรงนี้ สมองของท่านคิดว่ามีสวรรค์ไหม
นพ.นริศ เจนวิริยะ
ศัลยแพทย์
(Some images used under license from Shutterstock.com.)