
© 2017 Copyright - Haijai.com
ท้องร่วงจากไวรัสโรต้า ทำให้ลูกเตี้ยลงจริงหรือ ?
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะมีความกังวลมากเป็นพิเศษ ในเรื่องของพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์ การดูแลสุขภาพก่อนการตั้งครรภ์ ด้วยการตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ตามคำแนะนำของคุณหมอ จะช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้อย่างสบายใจ และมั่นใจได้ว่าจะช่วยลดความเสี่ยงจากความผิดปกติต่างๆ ลงได้ การดูแลสุขภาพร่างกายที่ดีของคุณแม่ ยังส่งผลให้ลูกน้อยในครรภ์แข็งแรงด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเมื่อถึงเวลาที่ลูกออกมาลืมตาดูโลก วินาทีแรกคุณแม่ควรให้อาหารที่ดีที่สุดกับลูก นั่นคือ น้ำนมแม่ เพราะน้ำนมแม่มีส่วนช่วยให้ลูกมีภูมิคุ้มกันที่ดีได้คะ
ถึงแม้ว่าคุณแม่จะดูแลลูกเป็นอย่างดี ก็ใช่ว่าลูกจะปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ ไปได้ ในเด็กเล็กๆ จะเจ็บป่วยได้ง่าย เพราะร่างกายยังมีภูมิคุ้มกันที่ไม่มากพอเหมือนกับผู้ใหญ่ และอย่างที่ทราบกันดีว่าในเด็กเล็กๆ มักที่จะหยิบ จับ สิ่งของต่างๆ ที่อยู่ใกล้ตัวเข้าปากอยู่เสมอ ซึ่งสิ่งของที่ลูกหยิบ จับเข้าปากนั้น มีเชื้อโรคปะปนอยู่ด้วย เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ปาก สู่กระเพาะ สู่ลำไส้ ย่อมทำให้ลูกเจ็บป่วยได้ และเชื้อโรคที่ว่านี้คือ เชื้อไวรัสโรต้า ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอุจจาระร่วงในเด็กทารก และเด็กเล็ก เด็กที่ติดเชื้อโรต้าไวรัสจะมีอาการไข้ อาเจียน และท้องร่วง ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ดี และในเด็กบางรายที่มีอาการอาเจียนหนักๆ และถ่ายมากๆ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมาก ส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งหากปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำมากๆ จะทำให้เสียชีวิตลงได้
มีการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในเด็กที่ติดเชื้อในลำไส้ อย่างการติดเชื้อไวรัสโรต้า พบว่าเด็กที่เกิดอาการท้องร่วงจะส่งผลให้เด็กเตี้ยกว่าเด็กทั่วไป 8.2 เซนติเมตรในวัยก่อน 7 ปี และอาการท้องร่วงยังมีผลกระทบต่อสมรรถภาพทางร่างกาย กระบวนการคิด การเรียนรู้ ความพร้อมในการเรียนรู้จะช้ากว่าเด็กทั่วไปในช่วงที่ต้องเข้าโรงเรียน ในเด็กที่ท้องร่วงซ้ำๆ ก่อนอายุ 2 ปี จะทำให้มีพัฒนาการทาง IQ ต่ำกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ทั้งนี้เนื่องจากเด็กเล็กในช่วงวัย 1-2 ปี เป็นวัยที่ร่างกาย สมอง และระบบประสาทกำลังเจริญเติบโตนั่นเอง หากเด็กติดเชื้อในระบบทางเดินลำไส้ ที่มีผลต่อการดูดซึมสารอาหารย่อมส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เชื้อไวรัสโรต้านั้นมีอยู่ตามสิ่งแวดล้อมทั่วไป การป้องกันจึงทำได้ค่อนข้างยาก ฉะนั้นคุณแม่จึงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขอนามัย อาหาร น้ำดื่มของลูก ให้สะอาดปราศจากเชื้อโรค รวมทั้งคุณแม่ต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังจากที่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกเสร็จแล้ว ที่สำคัญต้องทำความสะอาดของเล่น ของใช้ทุกอย่างของลูกทุกครั้งที่ใช้เสร็จ
ป้องกันลูกให้เร็ว เพื่อลดความเสี่ยงจากโรต้าไวรัส
คุณแม่สามารถป้องกันลูกจากไวรัสโรต้าได้ตั้งแต่ลูกมีอายุได้ 2 เดือน และหากเป็นไปได้ควรให้ลูกได้รับวัคซีนที่ครบคอร์สตั้งแต่ 4 เดือน เพราะหากลูกได้กับการป้องกันเร็ว ลูกก็จะมีภูมิคุ้มกันที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกจะปลอดภัยจากเชื้อโรค และยังมั่นใจได้ลูกจะมีพัฒนาการด้านต่างๆ เป็นไปอย่างสมบูรณ์แข็งแรง เติบโตได้สมวัยคะ
(Some images used under license from Shutterstock.com.)