© 2017 Copyright - Haijai.com
ลำดับเหตุการณ์พัฒนาการของเด็กทารกแรกเกิด
Becoming mobile (เริ่มเคลื่อนที่เอง)
คุณแม่มือใหม่ที่เหน็ดเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกเองบางคน อาจเคยคิดว่าเมื่อไหร่ลูกจะโตซักทีน้อ อยากให้ลูกโตเร็วๆจัง ส่วนคุณแม่ที่มีลูกโตแล้วหรือมีลูกหลายคน อาจมองย้อนกลับไป และรู้สึกว่าทำไมลูกโตเร็วจัง อยากย้อนเวลากลับไปให้ลูกเป็นเด็กน้อยน่ารักไร้เดียงสาเหมือนตอนเล็กๆอีกครั้งจัง แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน สิ่งที่คุณแม่ที่เลี้ยงลูกเองต้องได้พบเจอแน่ๆ ก็คือ ช่วงเวลาประทับใจที่แทบจะทำให้แม่บางคนถึงกับกริ๊ดออกมาดังๆ หรือตื้นตันจนต่อมน้ำตาแตก เมื่อเจ้าตัวน้อยของคุณเริ่มพูด หรือเริ่มกระดึ้บ ( เคลื่อนที่ ) ได้เองเป็นครั้งแรก
เด็กทารกจะมีพัฒนาการแบบที่ค่อยเป็นค่อยไป และมีลำดับเหตุการณ์ เช่น เด็กจะเรียนรู้การชูคอ การพลิกตัว ก่อนจะไปสู่การคืบ การคลาน การนั่งและการลุกขึ้นยืนในที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้จะใช้เวลาตลอดขวบปีแรกของชีวิตเลยทีเดียว อาจฟังดูยาวนานเมื่อเปรียบเทียบกับลูกสัตว์บางชนิด ที่สามารถเดินได้เองตั้งแต่คลอดในวันแรก แต่นั่นเป็นเพราะระบบวงจรชีวิตที่แตกต่างกัน ต้องขอบคุณความหลากหลายทางชีวภาพที่ทำให้โลกนี้น่าสนใจ มีความหลากหลายแต่สามารถอยู่ร่วมกันได้ และก่อนที่จะนอกเรื่องไปไกลกว่านี้ เรามาดูพัฒนาการด้านร่างกายของเจ้าตัวน้อยไปกันทีละขั้นตอนเลยดีกว่าค่ะ
เริ่มขยับและเรียนรู้
ในตอนแรกคลอด เจ้าตัวน้อยก็สามารถขยับคอให้หันไปทางซ้ายหรือทางขวาตามที่เราจับวางลงบนที่นอน และสิ่งแรกๆเลยที่เจ้าตัวน้อยของเราเรียนรู้ที่จะขยับเขยื้อนก็คือ ปากที่จะใช้ดูดนมคุณแม่นั่นเอง นอกจากนั้นยังรู้จักกำและแบมือ ด้วยท่าทีที่อาจดูเงอะงะทั้งแม่ทั้งลูกในการให้นมครั้งแรก แต่ในครั้งต่อๆไป ทั้งคู่ก็จะเริ่มค่อยๆทำความรู้จักและคุ้นเคยกัน ทำให้การให้นมง่ายขึ้นเรื่อยๆ เจ้าตัวน้อยของเราก็จะเริ่มมีพัฒนาการในการใช้มือมาจับ มาบีบหรือถูที่หน้าอกคุณแม่ในขณะที่ดูดนมไปด้วย เพื่อเป็นการสำรวจหรือเพื่อเป็นกล่อมตัวเองไปในตัว แต่ก็ยังเคลื่อนไหวได้เพียงร่างกายส่วนบนเท่านั้น
ในช่วงเดือนแรก เจ้าตัวน้อยจะเริ่มมองตามสิ่งที่เคลื่อนไหวในระยะใกล้ๆได้บ้างแล้ว แขนขาเริ่มขยับเองได้มากกว่าในตอนแรกคลอด แต่ยังไม่สัมพันธ์กัน และไม่ว่าจะรู้สึกอึดอัด เจ็บปวดหรือไม่สบายตัว สิ่งที่เจ้าตัวน้อยจะทำได้ก็เพียงแค่ร้อง ดิ้น หรือบิดไปมาเท่านั้นเอง พอครบสามเดือน เจ้าตัวน้อยก็จะเริ่มชันคอ ผงกศีรษะ หันไปมาได้ บังคับกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น ถีบเท้าและเล่นกับนิ้วมือตนเองได้ แถมยังแสดงความสนใจนิ้วมือตัวเองเป็นพิเศษอีกต่างหาก แต่การขยับเคลื่อนไหวทางร่างกายที่จะนำไปสู่การเคลื่อนที่จริงๆ ก็คือเมื่อเจ้าหนูค้นพบว่า ในตอนที่เธอแตะส้นเท้าลงแล้วถีบออกไปนั้น เป็นการดัน ส่งให้ตัวเธอขยับเดินหน้าไปได้หน่อยนึง ถึงแม้จะเป็นเพียงชัยชนะเล็กๆน้อยๆในการค้นพบของเจ้าตัวน้อย แต่ก็จะนำไปสู่การเรียนรู้ใหม่ต่อไปอีก
เริ่มชันคอ-ลุกครึ่งตัวและก้นโด่ง
จำตอนช่วงเดือนแรกที่เราลองวางเจ้าตัวน้อยนอนคว่ำหน้าดูได้ไหมคะ เจ้าหนูของเรายังขยับเขยื้อนด้วยตัวเองแทบไม่ได้เลย แต่ก็ยังพยายามที่จะยกหัว ชันคอและยกคางขึ้น ในทุกครั้งที่เราวางลูกคว่ำหน้าลง เจ้าตัวน้อยของเราพยายามลองของ ทั้งที่คอยังไม่แข็ง ประกอบกับศีรษะที่ใหญ่และหนัก ทำให้ความพยายามยังไม่บรรลุผล เพราะยังเกินความสามารถและเกินกำลังที่หนูจะทำได้ค่ะ
พอเข้าเดือนที่สอง เจ้าตัวน้อยก็จะเริ่มยกศีรษะขึ้นได้เองบ้างแล้วเมื่อนอนคว่ำ แต่ก็ทำได้เพียงชั่วครู่สั้นๆเท่านั้นค่ะ ก็จะหล่นตุ๊บกลับไปนอนอยู่ในท่าเดิมอย่างช่วยตัวเองไม่ค่อยได้อีกแล้ว ( เริ่มก้าวหน้ามาอีกขั้นหนึ่งแล้ว ) และเมื่ออุ้ม ก็จะสามารถชันคอได้ดีกว่าแต่ก่อน ต่อมาในเดือนที่สาม เมื่อคุณประคองตัวลูกขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง ลูกจะชันคอได้ดีขึ้น แต่ยังต้องคอยจับไว้ไม่ให้ล้ม และเมื่อวางนอนคว่ำหน้า เจ้าตัวน้อยก็จะพยายามยกหัวและหน้าอกให้พ้นพื้นได้ช่วงสั้นๆ และถ้าเราจับนอนหงาย เจ้าหนูก็จะเริ่มใช้มือปัดป่ายไปมา และเล่นนิ้วมือตัวเองอย่างสนใจ
พอเข้าเดือนที่สี่ เจ้าตัวน้อยจะสามารถยกศีรษะและใช้แขนยันหน้าอกตัวเองขึ้นได้สบายมากแล้วล่ะค่ะ หลังจากนั้นเล็กน้อย เจ้าหนูก็จะลองพยายามทำกับขาดู และก็พอจะทำได้บ้างทีละน้อย ดูเหมือนว่าเจ้าตัวน้อยของเรา กำลังเตรียมการที่จะคลานแล้วหรืออย่างไรกันนี่ แต่ยังค่ะ....ยังไม่ใช่ในตอนนี้ เพราะเจ้าตัวน้อยจะทำได้ทีละส่วน คือใช้มือยกหน้าอกพ้นพื้น เป็นการพยายามลุกขึ้นจากร่างกายท่อนบน กับการใช้เท้ายันยกก้นขึ้น เป็นการพยายามยกร่างกายท่อนล่าง เพื่อที่จะลุกขึ้น แต่ยังไม่สามารถทำพร้อมๆกัน หรือหาจังหวะวิธีประสานให้ลงตัวเข้ากันได้ ดังนั้น อาจเป็นด้วยความผิดหวัง เจ้าตัวน้อยของเราจึงเริ่มหมุนตัวออกไปทางด้านข้างแทน และถึงตอนนี้ เจ้าหนูของเราก็มีพัฒนาการขึ้นมาอีกหนึ่งขั้นแล้วล่ะค่ะ นั่นก็คือ เขาสามารถพลิกตัวไปมาได้ เพราะฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรต้องระวังเป็นพิเศษในช่วงนี้ เพราะเจ้าตัวน้อยอาจพลิกตัวตกลงมาจากเตียงหรือที่วางเขาอยู่ได้ เผลอไม่ได้เด็ดขาดเลยนะคะ
จากคืบสู่คลานและเดิน
เมื่อเจ้าตัวน้อยของเราได้ฝึกพลิกตัวคว่ำหงายได้คล่องขึ้นแล้ว ก็จะกลับมาสนใจการใช้มือยันหน้าอกเพื่อที่จะลุกขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่ทำยังไงน้า ถึงจะลุกขึ้นทั้งตัวเหมือนคุณแม่หรือคุณพ่อได้…พอใช้มือยันจนลุกขึ้นมาได้ครึ่งตัวแล้ว จากนั้นใช้ขายันเพื่อที่จะลุก..อ้าว ล้มกลับลงมาอีกแล้ว...เฮ้อ ! ถ้าอย่างนั้น ลองใช้ท้องดันดูซักหน่อยดีกว่า เอ๊ะ..มันขยับได้นิดนึงนี่นา ไหนลองใช้มือยันแล้วเท้าถีบไปด้วยดูซิ โอ้ย...มันยากมากเลย เพราะท้องและหัวเรามันหนักน่าดู ไม่เป็นไร ลองพยายามดูอีกดีกว่า
และเมื่อเจ้าตัวน้อยของเรา ได้ลองพยายามดูหลายๆครั้ง เขาก็จะพบว่าตัวเอง สามารถเริ่มเคลื่อนที่ได้เล็กน้อยแล้ว นั่นก็คือ การคืบนั่นเองค่ะ และหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหนูก็สามารถประสานจังหวะและเริ่มรู้เทคนิค ประกอบกับกล้ามเนื้อแขน-ขาที่แข็งแรงขึ้น ทำให้เจ้าตัวน้อยเรียนรู้ที่จะคลานในเวลาต่อมา โดยการยกท้องขึ้นและเดินด้วยแขน-ขาของตนเองได้แล้ว เขาจะรู้สึกภาคภูมิใจและรู้สึกถึงความสำเร็จของการเคลื่อนที่ได้ของตนเองเป็นอย่างมาก เพราะนั่นหมายถึง อิสรภาพอีกขั้นหนึ่งแล้ว เจ้าตัวน้อยสามารถเคลื่อนที่หรือเดินทางไปในทิศทางที่ตนเองต้องการได้แล้ว
พอเข้าเดือนที่เจ็ด เจ้าตัวน้อยของเราก็สามารถนั่งเองได้อย่างมั่นคง โดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่คอยประคอง หรือกลัวว่าจะล้มอีกแล้ว ร่างกายหนูน้อยเริ่มแข็งแรงมากขึ้นแล้วในตอนนี้ และพอถึงเดือนที่แปด เจ้าตัวน้อยของเรานอกจากจะนั่งเองได้ ก็สามารถคลานไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวมากขึ้นอีกด้วย และเจ้าตัวน้อยของเราก็จะใช้วิธีการคลานไปไหนมาไหน เพื่อสำรวจหรือเพื่อไปหยิบสิ่งของที่ต้องการแบบนี้ไปอีกหลายเดือน จนกว่าขาจะค่อยๆหาวิธียืดตัวลุกขึ้นมายืน ซึ่งในช่วงแรก แน่นอนว่าลูกน้อยยังต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ให้คอยประคอง จับลุกขึ้นยืน หรือยืนเกาะขอบเตียงอย่างไม่มั่นคงก่อนในตอนแรก แต่ในที่สุด เจ้าตัวน้อยของเรา ก็จะสามารถค่อยๆลุกยืนขึ้นเองได้ในที่สุด และการเดินก็จะสิ่งที่จะติดตามต่อมาในไม่ช้า ในช่วงเวลาประมาณที่เจ้าตัวน้อยมีอายุครบหนึ่งขวบปีพอดี แต่ถ้าลูกของคุณเดินได้ช้าหรือเร็วกว่านั้น ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ เพราะเด็กบางคนอาจใช้เวลามากกว่าเด็กบางคนบ้างเท่านั้นเอง
(Some images used under license from Shutterstock.com.)