
© 2017 Copyright - Haijai.com
พาลูกไปเที่ยว
ใกล้ช่วงเทศกาลแล้ว บรรยากาศวันหยุดยาวๆ คงชวนให้คุณพ่อคุณแม่อยากปล่อยวางความสับสนแตกแยกของผู้คนในสังคม แล้วพาเจ้าหนูไปท่องเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง การท่องเที่ยวให้คุณค่าการเรียนรู้กับเด็กๆ มากมายค่ะ
แม้ว่าการท่องเที่ยวอาจมีข้อจำกัดอยู่บ้างสำหรับทารกขวบปีแรกๆ เพราะหนูน้อยยังป้อแป้ ต้องการการดูแลใกล้ชิด กินบ่อย ถ่ายบ่อย และบอบบางต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว พ่อแม่จึงอาจรู้สึกว่าการเดินทางขลุกขลักมากกว่าสนุกสนาน หากไม่ใช่ขาลุยตัวจริง หลายคนจึงมักเลือกใช้เวลาสาละวนดูแลเจ้าตัวเล็กที่บ้าน หรือพาไปพักผ่อนหย่อนใจช่วงสั้นๆ ในระยะทางใกล้ๆ มากกว่า
แต่เมื่อหนูน้อยของเราเริ่มสื่อสารได้ เดินคล่อง วิ่งทนและสนุกกับสิ่งแปลกใหม่รอบตัว นั่นก็หมายถึงสัญญาณความพร้อมของเจ้าหนูที่จะเปิดประตูการเรียนรู้ด้วยการท่องเที่ยวแล้วค่ะ
เจ้าหนูวัยเตาะแตะมักเห็นการท่องเที่ยวเป็นโอกาสยิ่งใหญ่ของความสนุกสนาน และด้วยแรงดึงดูดจากความสนุกสนานนี้เอง ที่เจ้าหนูจะสนอกสนใจต่อการแต่งเติมมิติของประสบการณ์ความรู้ จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากจินตนาการของนิทาน หรือหนังสือที่พ่อแม่เคยถ่ายทอดให้รับรู้
หนูน้อยเคยรับรู้เรื่องราวจากมิติของการฟังหรือการมองรูปภาพเท่านั้นจากที่พ่อแม่อ่านหนังสือเรื่องทะเลให้ฟัง แต่การท่องเที่ยวช่วยให้เกิดการรับรู้ของประสาทสัมผัสครบแทบทุกมิติพร้อมกัน
หนูๆ จะได้สัมผัสกับพื้นทรายนุ่มเท้า รับรู้ได้ถึงแสงแดดอบอุ่น ได้ยินเสียงหัวเราะแทรกแซมด้วยเสียงซ่าซัดของเกลียวคลื่น สูดกลิ่นอายและมองเห็นความเบิกบานในบรรยากาศทะเลอย่างครบถ้วน
ความอ่อนโยนจากธรรมชาติค่อยๆ ถักทอในจิตใจของหนูน้อย พร้อมกับความเฉลียวฉลาดจากจินตนาการที่เปิดกว้างก็พัฒนาต่อเนื่องไปอย่างงดงาม เป็นความลงตัวของการเติบโตทั้งทางสติปัญญาและอารมณ์ที่ประมาณค่ามิได้ ในช่วงที่เจ้าหนูเข้าสู่วัยก่อนอนุบาล การท่องเที่ยวจะเริ่มกลายเป็นเหมือนห้องทดลองขนาดใหญ่
หนูน้อยจะเริ่มเรียนรู้ความเป็นเหตุเป็นผลจากปรากฏการณ์มากมายขณะท่องเที่ยว การไหลลงจากที่สูงสู่ที่ต่ำของน้ำตก การกระทบหรือการเคลื่อนไหวจากน้ำทำให้เกิดเป็นเสียงเซ็งแซ่ หรือแม้แต่ละอองไอของน้ำที่ต้องแสงแดดจนมองเห็นเป็นเกล็ดสีรุ้งงดงาม ต้นไม้ ดอกไม้รอบตัวที่มีลักษณะเหมือนหรือแตกต่าง ด้วยวัตถุประสงค์แยบยลที่ธรรมชาติจัดวางไว้ให้
ยิ่งถ้ามีคุณพ่อคุณแม่ช่างเล่าช่างคุยแล้วละก็ นักวิทยาศาสตร์หรือกวียิ่งใหญ่ในอนาคต ก็มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่เจ้าตัวเล็กช่างเจื้อยแจ้วเจรจาข้างกายคุณพ่อคุณแม่นี่เอง
เมื่อเจ้าตัวเล็กของเราเติบโตจนเข้าสู่รั้วโรงเรียน การท่องเที่ยวอาจเป็นประเด็นที่มีข้อจำกัดมากขึ้นในเรื่องของเวลา เพราะจะต้องมีความลงตัวจากเวลางานของคุณพ่อคุณแม่ และไม่ควรกระทบกระเทือนต่อตารางเรียนของเจ้าตัวเล็กด้วย เพราะทั้งวัยอนุบาลและวัยเรียนนั้น ต้องเข้าใจเรื่องของกฎเกณฑ์สังคมและวินัยเพิ่มขึ้น
ซึ่งหากรู้จักใช้เรื่องนี้ในมุมบวก กลับยิ่งเป็นผลดีต่อเจ้าตัวเล็กในเรื่องของการฝีกความคิด เพราะนี่เป็นโอกาสของการวางแผนการท่องเที่ยวร่วมกับคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง
เด็กๆ ยังสามารถรับรู้เพิ่มเติมได้อีกว่า นอกเหนือจากเรื่องของเวลาแล้ว การวางแผนยังต้องคำนึงถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องของสถานที่ ระยะทาง ฤดูกาล ค่าใช้จ่าย รวมไปถึงการจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ แผนการดีๆ แบบนี้ จะช่วยให้ช่วงเวลาสั้นๆ ของการท่องเที่ยวนั้น ตอบสนองทั้งการเรียนรู้และความสุขของสมาชิกครอบครัวทุกคนได้มากที่สุด
การวางแผนร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ ยังมีเกร็ดเล็กน้อยที่เป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการอีกหลายด้าน เช่น การช่วยให้เจ้าตัวเล็กรู้จักคาดการณ์ล่วงหน้า และเพิ่มทักษะการบริหารจัดการในการเชื่อมโยงหรือเรียงร้อยจัดลำดับความสำคัญของปัจจัยเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีผลให้เด็กๆ รู้จักแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา และมีความยืดหยุ่นทางอารมณ์ด้วย
เมื่อลูกเติบโตมากขึ้น มีความพร้อมจากวุฒิภาวะทางวัยสูงขึ้นจนพร้อมต่อการดูแลตัวเอง พ่อแม่ควรสนับสนุนให้เจ้าตัวเล็กเรียนรู้การจัดกระเป๋าเดินทางของตัวเองด้วย เพราะงานน่ารักๆ นี้สามารถนำไปสู่การจูงใจให้เด็กๆ พยายามจัดกระเป๋านักเรียนของตนเองได้อย่างต่อเนื่องและภูมิใจ
ถึงแม้การจัดกระเป๋าเดินทางในครั้งแรกๆ อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ ต้องหงุดหงิดบ้าง หรืออมยิ้มบ้างกับ “ของจำเป็น” ที่เจ้าตัวเล็กอยากพาไปเที่ยวด้วย จนเกิดเป็นเรื่องเล่าหรือความทรงจำสวยงามของครอบครัวตราบนานเท่านาน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรปล่อยให้เหตุการณ์ความประทับใจนี้ มีที่อยู่แค่ในความทรงจำเท่านั้นนะคะ เราสามารถเริ่มฝึกเจ้าตัวเล็กของเราให้เก็บถนอมภาพสดใสเหล่านี้ไว้ด้วยกล้องถ่ายรูปหรือวิดีโอด้วยค่ะ
เทคโนโลยีที่ใช้ง่ายและราคาไม่แพงเหล่านี้สามารถทำให้เจ้าตัวเล็กภาคภูมิใจหนักหนากับการเป็นช่างภาพประจำครอบครัวและฝึกความรับผิดชอบในการดูแล “อุปกรณ์ช่างภาพ” ของตนเองภายใต้การกำกับดูแลด้วยรอยยิ้มและความชื่นใจของพ่อแม่
ในช่วงวัยนี้ เด็กๆ อาจสนุกยิ่งขึ้น หากพ่อแม่สามารถรวบรวมสมัครพรรคพวกหรือญาติมิตรไปเที่ยวด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้น ขณะที่ผู้ใหญ่บันเทิงกับการสังสรรค์พูดคุย เด็กๆ ก็สามารถเป็นเพื่อนเล่นกันเองพร้อมกับเรียนรู้การปรับตัวกับกลุ่มเพื่อนในสถานการณ์แตกต่าง
การพักผ่อนหย่อนใจรูปแบบนี้ จึงช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ทักษะการอยู่ร่วมกัน และยังเปิดโอกาสให้พ่อแม่ได้เข้าถึงรายละเอียดของทักษะทางสังคมของลูกอย่างแท้จริง
ก็การท่องเที่ยวมีคุณค่ามากมายถึงเพียงนี้ ต่อให้ต้องลงทุนลงแรงและใช้เวลาบ้าง คุณพ่อคุณแม่ก็คงไม่ลังเลที่จะทุ่มเทจัดสรรให้เกิดขึ้นอย่างสอดคล้องเหมาะสมกับความต้องการของลูก และครอบครัวที่เรารัก ใช่ไหมคะ
พ.ญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์
(Some images used under license from Shutterstock.com.)