© 2017 Copyright - Haijai.com
แม่ทำงานก็ให้นมลูกได้นะ
ใครก็รู้ว่านมแม่ดีที่สุดสำหรับทารก แต่เมื่อคุณแม่ต้องกลับไปทำงาน ก็คงอดวิตกไม่ได้ว่าจะให้นมลูกได้อย่างไร ปั๊มนมตอนไหน จะให้ลูกดูดนมจากขวดดีหรือเปล่า แล้วขวดนมที่ใช้จะควรค่าเท่ากับความสะอาดบริสุทธิ์ของน้ำนมแม่หรือเปล่า อย่าเพิ่งกังวลไปไกลค่ะ เพราะจริงๆ แล้ว คุณแม่ทำงานก็สามารถให้นมลูกได้ แค่รู้วิธี
ปั๊มน้ำนมแม่
คุณแม่ที่ให้นมลูกส่วนใหญ่ต้องรู้จักกับเครื่องปั๊มนมแม่อยู่แล้วค่ะ โดยอาจจะเลือกใช้แบบปั๊มมือ หรือเครื่องปั๊มแบบไฟฟ้า ก็สะดวกและประหยัดเวลาไปได้เยอะทีเดียว วิธีการปั๊มก็คือ ปั๊มเวลาเดียวกับที่ลูกดูดนมเป็นประจำ เมื่อปั๊มแล้วก็เก็บใส่ถุงบรรจุน้ำนม เขียนวันที่ จำนวนออนซ์ หากคุณอยู่ที่ทำงานก็แช่ในกระติกน้ำแข็งไว้ก่อน พอกลับมาบ้านจึงนำเข้าช่องแช่แข็งในตู้เย็น ไว้อุ่นให้ลูกเมื่อคุณไม่อยู่บ้านค่ะ
เตรียมน้ำนมแม่ ให้ลูกรัก
ขั้นตอนการเตรียมน้ำนมแม่ จริงๆ แล้วไม่ยากอย่างที่คิดไม่เชื่อลองดู
• เริ่มจากอุ่นขวดนมที่คุณเลือกแล้ว และมั่นใจว่าปลอดภัยต่อลูกน้อยมานึ่งหรืออบเพื่อฆ่าเชื้อโรค
• ระหว่างที่อบหรือนึ่งขวดนม ให้นำถุงเก็บน้ำนมแม่มาแช่ไว้ในน้ำอุ่นให้พอละลาย เมื่อเหลวพอจะเทออกจากถุงได้จึงเทนมใส่ขวดนมที่นึ่งหรืออบแล้ว
• วางขวดนมลงในหม้อที่ใส่น้ำอุ่น เปิดไฟอ่อนๆ ไม่ควรนำนมแม่ใส่ภาชนะไปอุ่นกับไฟโดยตรง เพราะความร้อนจะทำลายสารอาหารในนมแม่ และห้ามอุ่นน้ำนมแม่ในไมโครเวฟ
• เช็กอุณหภูมิน้ำนมว่าอุ่นพอดีหรือยัง ด้วยการหยดน้ำนมลงบนหลังมือ
• เพียงเท่านี้ เจ้าตัวดีก็จะได้อิ่มอุ่นกับน้ำนมแม่ แม้ว่าคุณแม่ต้องออกไปทำงาน
ความปลอดภัยอีกระดับของลูกน้อย
การเลือกขวดนมที่มีความปลอดภัยสูง ปราศจากสารบิสฟีนอล เอ หรือ บีพีเอ (Bisphenol A: BPA) จะช่วยป้องกันลูกน้อยจากการได้รับสารเคมีตกค้าง เพราะเมื่อบริโภคอาหารและเครื่องดื่มจากบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจาก BPA สารนี้ก็จะเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจากการศึกษาของ The Yale School of Medicine, USA. พบว่า สารบิสฟีนอล เอ (BPA) มีส่วนทำให้เกิดการสูญเสียการพัฒนาของการสร้างเซลล์สมอง ซึ่งเป็นผลต่อระบบประสาท ความทรงจำ การเรียนรู้ และการมีแนวโน้มในเด็กที่เริ่มเป็นหนุ่มสาวเร็วเกินไป ดังนั้นคุณแม่ควรเลือกขวดนมที่ปราศจากสาร BPA (BPA – Free) เพื่อความมั่นใจของคุณแม่ และความปลอดภัยอีกระดับของลูกน้อย
ลองหันมามองดูอีกครั้ง ว่าสิ่งที่ลูกรักของคุณใช้อยู่ทุกวัน ปลอดภัยแน่หรือเปล่า ??
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มุ่งมั่นจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ประสบความสำเร็จ และไม่ต้องการให้น้ำนมของคุณต้องเจือปนด้วยสารตกค้าง การเลือกขวดนมที่ปราศจากสาร BPA หรือ BPA-Free ก็น่าจะทำให้คุณกลับไปทำงานได้ โดยปราศจากความกังวลใจเรื่องขวดนม ซึ่งเป็นผู้ช่วยในการให้นมแม่ไปได้มากทีเดียว
More About BPA
น้ำนมแม่นั้น มีคุณประโยชน์ต่อลูกทั้งทางร่างกาย สติปัญญา และจิตใจ แล้วคุณจะยอมได้หรือหากน้ำนมแม่ต้องแปดเปื้อนสารตกค้าง ที่อาจทำอันตรายลูกน้อยของคุณได้ ต่อไปนี้คือผลการวิจัย และรายงานทางการแพทย์ เกี่ยวกับสาร BPA ที่เป็นวัตถุดิบในการใช้ทำพลาสติก ที่นำมาทำเป็นขวดนมสำหรับเด็ก
• บิสฟีนอล เอ (BPA) มีคุณสมบัติหลัก คือ ช่วยให้พลาสติกมีความแข็ง ใสเหมือนแก้ว และแข็งแรงไม่ค่อยแตกหัก แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีรายงานจากหลายสถาบันว่า ภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ ที่ผลิตจากโพลีคาร์บอเนตนั้น เมื่อทำการต้มหรือนึ่ง สารบิสฟีนอล เอ (BPA) จะแทรกซึมลงในของเหลวและอาหารที่บรรจุอยู่ภายในได้เมื่อใช้งาน
• บิสฟีนอล เอ (BPA) เป็นสารเคมีที่ใช้ทั่วไปในการผลิตภาชนะ, บรรจุภัณฑ์ หรือผลิตภัณฑ์พลาสติก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมากที่สุดในโลก และที่สำคัญที่สุด คือ เป็นสารสำคัญที่ใช้ในการผลิตขวดนมสำหรับเด็กที่ใช้กันทั่วไป
• สำนักงานควบคุมโรคระบาดของสหรัฐอเมริกา (CDC – The U.S. Centers for Disease Control) ซึ่งได้ทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างละเอียด พบข้อสรุปอีกข้อที่น่าตกใจคือ เด็กมีระดับบิสฟีนอล เอ (BPA) ในร่างกายมากกว่าวัยรุ่น และวัยรุ่นมีระดับบิสฟีนอล เอ (BPA) ในร่างกายมากกว่าผู้ใหญ่
• นับว่าเป็นข่าวดีที่รัฐบาลในบางประเทศเริ่มมีนโยบายต่อต้านการใช้พลาสติกที่มีส่วนผสมของ บิสฟีนอล เอ (BPA) แล้ว เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2551 ที่ผ่านมา นายโทนี่ คลีเมนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศว่า “ประเทศแคนาดาสั่งห้ามการนำเข้า ขาย และโฆษณาขวดนมเด็กที่ผลิตจากโพลีคาร์บอเนต” เพราะกังวลว่า อาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางสมอง และพฤติกรรมของเด็กเล็ก ที่จะเติบโตต่อไปในวันข้างหน้า
• ในขณะเดียวกัน ห้างวอลมาร์ต (Wal-Mart)* ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศเช่นเดียวกันว่าจะยกเลิกการขายขวดนมเด็กและถ้วยหัดดื่มที่ผลิตจากโพลีคาร์บอเนตในแคนาดาในทันที และจะทยอยลดปริมาณการขายสินค้าในกลุ่มนี้ในสหรัฐ โดยตั้งเป้ายกเลิกการขายทั้งหมดในปี 2552 รวมไปถึงทอยส์ อาร์ อัส (Toy R us) ที่มีถึง 1,256 สาขา ใน 36 ประเทศทั่วโลก ก็ปฏิเสธที่จะขายขวดนมที่ทำจากโพลีคาร์บอเนตในทันทีแล้วเช่นกัน
• นักวิจัยยังพบผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคหัวใจ มีสารบิสฟีนอล เอ (BPA) ในปัสสาวะสูงกว่าคนทั่วไป อาจเชื่อได้ว่าสารอันตรายในพลาสติก บิสฟีนอล เอ (BPA) มีส่วนทำให้เกิดโรคและความผิดปรกติในร่างกาย แต่ยังต้องศึกษาต่อเพื่อความแน่ชัด ทั้งยังชี้แนะให้ลดปริมาณการใช้พลาสติกชนิดที่มีส่วนผสมของสารอันตรายนี้ลงด้วย
ที่มา : สำนักข่าวต่างประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
(Some images used under license from Shutterstock.com.)