Haijai.com


เรื่องกลัวกลัว เมื่อยามตั้งครรภ์


 
เปิดอ่าน 1438
 

เรื่องกลัวกลัว เมื่อยามตั้งครรภ์

 

 

น่าเห็นใจอยู่คะ กับว่าที่คุณแม่หลายคนที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ขณะนี้ เพราะการตั้งครรภ์ของผู้หญิงนั้นถือได้ว่าเป็นการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ และตลอดระยะเวลาช่วง 9 เดือนที่ผู้หญิงท้องนั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย และรวดเร็วด้วย จนทำให้ว่าที่คุณแม่เกิดอาการกลัว ไม่ชินกับเรื่องที่ตัวเองนั้นต้องเผชิญ ความกลัวเหล่านี้อาจส่งผลถึงทารกในครรภ์ได้ หากว่าที่คุณแม่ทั้งหลายไม่มีความรู้ หรือการเข้าใจถึงอาการต่างๆ ขณะตั้งครรภ์ที่ถูกต้อง การทำความเข้าใจก่อนตั้งครรภ์ถึงลักษณะอาการที่จะเกิดในช่วง 9 เดือนนี้ ก็จะสามารถช่วยให้คลายความกังวล และความกลัวลงได้บ้างคะ

 

 

แน่นอนคะว่าการทำความเข้าใจกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์จะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ กับว่าที่คุณแม่ และควรที่จะปฏิบัติตามด้วยความมั่นใจ และความสุขคะ รวมถึงว่าที่คุณพ่อด้วย ควรที่จะทำความเข้าใจไปพร้อมกันกับคุณแม่ เพื่อที่เวลามีปัญหาจากอาการต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น จะได้ช่วยกันปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง เรื่องกลัวของคุณแม่อย่าปล่อยไว้นาน มิเช่นนั้นอาจจะส่งผลได้ทั้งต่อตัวคุณแม่เอง แล้วก็ส่งผลถึงทารกน้อยในครรภ์ด้วย ดังนั้นเรามาไขข้อข้องใจจากอาการเหล่านี้ที่เกิดขึ้นให้กับว่าที่คุณแม่ได้โล่งใจกันนะคะ

 

 

เรื่องหนัก หนัก ของน้ำหนักตัว จะทำไงดี

 

ตามธรรมดาทั่วไป คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรมีน้ำหนักขึ้นอยู่ระหว่างที่ 10-15 กิโลกรัม ในระยะ 3 เดือนแรก น้ำหนักตัวอาจขึ้นน้อยหรือไม่ขึ้นเลย บางรายที่แพ้ท้องมาก น้ำหนักตัวอาจลดลง ซึ่งในกรณีหลังนี้ควรไปปรึกษาคุณหมอที่คุณแม่ได้ฝากกครรภ์ไว้ หลังจาก 3 เดือนไปแล้วน้ำหนักจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยสัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัม น้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น หรือน้อยเกินไป อาจมีผลต่อการตั้งครรภ์ได้ ในรายที่มีปัญหาแพทย์ที่ดูแลครรภ์มักจะแนะนำเรื่องของการบริโภคอาหารที่ถูกต้องในแต่ละมื้อ ว่าคนที่ตั้งครรภ์นั้นควรมีอุปนิสัยในการทานอย่างไร เพื่อจะได้มีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ถูกต้อง

 

 

ท้องนี้ปัสสาวะบ่อย จะเป็นอะไรมั้ยนะ

 

อาการปวดปัสสาวะเกิดจากกระเพาะปัสสาวะเต็มปรี่อันเป็นอาการเริ่มแรกของการตั้งครรภ์นั่นเอง กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะจะเริ่มคลายตัวลงเมื่อฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มมากขึ้น คุณแม่อาจจะรู้สึกว่าเอ๊ะปวดฉี่อีกแล้ว มดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นจะไปกดกระเพาะปัสสาวะ จึงทำให้คุณแม่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย อาการปัสสาวะบ่อยนี้จะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อย่างเข้าการตั้งครรภ์ระยะที่สอง ซึ่งมดลูกจะสูงขึ้นมาถึงระดับโพร่งช่องว่างในท้องจนรู้สึกสบายขึ้น

 

 

มือบวมเป็นสัญญาณอันตราย อะไรหรือเปล่า

 

อาการมือบวมนี้ เป็นอาการบวมจากน้ำในตัวซึ่งเป็นอาการข้างเคียงปรกติในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ด้วยมีสาเหตุมาจากโซเดียมในตัวมีปริมาณสูง ฉะนั้นควรที่จะเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด เพราะจะทำให้น้ำในตัวมากขึ้นตามไปด้วย  ถ้าคุณแม่มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มพรวดมากขึ้น และมีอาการบวม นั่นเป็นสัญญาณอันตรายของอาการครรภ์เป็นพิษ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ควรที่จะแจ้งคุณหมอที่ดูแลครรภ์คุณแม่ทันที

 

 

ครรภ์เป็นพิษ อะไรกันเนี่ย คืออะไร อันตรายหรือเปล่า

 

ครรภ์เป็นพิษ หรือที่เรียกว่า ภาวะความดันเลือดสูงเนื่องจากการตั้งครรภ์ มักจะพบได้ร้อยละ 5-10 ของการตั้งครรภ์ พบในหญิงตั้งครรภ์ที่มีความดันเลือดสูงมาก่อน ภาวะแทรกซ้อนนี้จะพบได้มากในหญิงตั้งครรภ์แรกอายุครรภ์ 20  สัปดาห์ขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ที่มีการฝากครรภ์สม่ำเสมอจะตรวจพบอาการแทรกซ้อนนี้ได้เร็ว และป้องกันการเกิดภาวะนี้ได้ ดังนั้นการตรวจครรภ์อย่างสม่ำเสมอโดยที่ไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใดจะให้ประโยชน์ในเรื่องนี้ได้มาก เพราะจะสามารถตรวจพบอาการของโรคแทรกซ้อนนี้ได้ในระยะเริ่มเป็น นอกจากนี้คุณแม่อาจตรวจสอบตัวเองได้ เช่น มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่คุณไม่ได้กินอาหารเพิ่มมากไปจากเดิมเลย มีอาการบวมที่ใบหน้า และมืออย่างมาก ปวดศีรษะโดยไม่ทราบสาเหตุ ตาพร่ามัว ทันทีที่มีอาการเหล่านี้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งควรที่จะปรึกษาแพทย์ทันที

 

 

อยากสุขภาพดีทั้งแม่ และลูกในครรภ์ จะออกกำลังกายได้หรือเปล่า

 

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์สามารถออกกำลังกายได้ประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง การเริ่มต้นออกกำลังกายควรเริ่มจากวันเว้นวัน หรืออาทิตย์ละ 3  ครั้ง อย่าหักโหม และค่อยๆ เพิ่มขนาดตามความสามารถ ก่อนออกกำลังกายควรปรึกษาแพทย์ว่าสามารถออกกำลังกายได้หรือไม่ และควรออกอย่างไร กีฬาสำหรับคุณแม่ครรภ์ คือ การว่ายน้ำ การออกกำลังกายในน้ำ การเดิน ถีบจักรยานบนบก และการเต้นแอโรบิคในน้ำ เป็นต้น เพราะคุณแม่จะไม่บาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ไม่ต้องลงน้ำหนัก ไม่ต้องกระแทก แต่เป็นการออกกำลังกายเพื่อให้เลือดได้มีการหมุนเวียน การออกกำลังกายสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องไม่ทำแบบหักโหมจนเกินไป ควรปริมาณจากการที่เคยออกไว้ตอนก่อนยังไม่ตั้งครรภ์ ให้เหลือเพียงร้อยละ 75-80 และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ทำให้ตัวคุณแม่บาดเจ็บ

 

 

กีฬาต้องห้าม ยามตั้งครรภ์

 

 วิ่งเหยาะมากกว่า 1 กิโลเมตร

 

 

 ขี่ม้า

 

 

 สกีน้ำ

 

 

 ดำน้ำ หรือกระโดดน้ำ

 

 

 ดำน้ำลึก

 

 

 ขี่จักรยานแข่ง หรือในทางที่เปียก ในลู่วิ่งแข่ง

 

 

 กีฬาที่มีการจับต้องตัวบุคคล เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล

 

 

 กาบบริหารทุกชนิดที่ไม่ได้เป็นแบบเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ เช่น การทำซิตอัป การโหนบาร์ เป็นต้น

 

 

การออกกำลังกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

(Some images used under license from Shutterstock.com.)