Haijai.com


ป้องกันโรคไข้เลือดออกด้วยการแพทย์แผนจีน


 
เปิดอ่าน 2404

ยาจีนลดความร้อนป้องกันไข้เลือดออก

 

 

ใกล้ถึงฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่ยุงลายชุกชุม เราควรเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกกันให้ดี

 

สำหรับโรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่มีการบันทึกอยู่ในคัมภีร์ เวินอี้ลุ่น และคัมภีร์ เวินปิ้งเถียวเปี้ยน โดยคนไข้ในประเทศจีนมักใช้วิธีรักษาด้วยยาจีน การฝังเข็ม ครอบแก้ว ควบคู่กับการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบัน

 

 

นอกจากนี้มีงานวิจัยพบว่า คนที่เป็นโรคไข้เลือดออกส่วนใหญ่มีสภาพร่างกายอยู่ใน กลุ่มภาวะโรคร้อนชื้น รองลงมาคือ กลุ่มภาวะโรคเสมหะแล้วความชื้นสะสม แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเรามีสภาวะร่างกายอยู่ในกลุ่มไหน วิธีเช็กดังนี้ค่ะ

 

 

กลุ่มภาวะโรคร้อนชื้น

 

จะเป็นผื่นง่าย หิวน้ำบ่อย น้ำหนักตัวมาก ตัวบวม ปัสสาวะเหลือง ถ่ายไม่สะดวก อุจจาระเหนียว ลิ้นเป็นฝ้าหนาสีเหลือง ลิ้นแดง ชีพจรลื่นเร็ว เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น มักเกิดเป็นโรคในกลุ่มร้อนชื้นได้ง่าย เช่น ฝี หนอง ผดผื่นคัน โรคดีซ่าน

 

 

กลุ่มภาวะโรคเสมหะและความชื้นสะสม

 

เป็นคนอ้วน ท้องใหญ่ น้ำลายเหนียว สภาพร่างกายที่มีความชื้นสะสมอยู่มาก เมื่อเข้าฤดูฝนยิ่งทำให้ร่างกายมีความชื้นมากขึ้นไปอีก ทำให้เป็นโรคอ้วนและโรคในระบบทางเดินหายใจง่ายขึ้น

 

 

ป้องกันโรคไข้เลือดออกด้วยการแพทย์แผนจีน

 

ในมุมมองการแพทย์แผนจีนพบว่า กลุ่มคนที่มีภาวะโรคร้อนชื้นและภาวะโรคเสมหะและความชื้นสะสมมีความเสี่ยงในการเป็นโรคไข้เลือดออก และมีอาการที่รุนแรงกว่าคนทั่วไป ดังนั้นจึงต้องป้องกันไม่ให้ยุงกัด หรือกินยาจีนเพื่อปรับสมดุลร่างกาย ก็จะช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคได้

 

 

ในช่วงที่ไข้เลือดออกระบาด แนะนำให้กินยาจีนที่มีสรรพคุณขับพิษร้อน ลดความร้อน ห้ามเลือด และขับชื้น ซึ่งในชุดหนังสือ จงอีเย่าเสวเกาจี๋ฉงซู ฉบับ เวินปิ้งเสว ระบุว่าให้ต้มตัวยา 4 ชนิดดังนี้

 

1.ป่านหลานเกิน (Isatis Root) 30 กรัม

 

2.หนิวจินฉ่าว (Eleusine Indica) 30 กรัม

 

3.ตี้ต่านโภว (Scabrous Elephant-Foot Herb) 30 กรัม

 

4.กันเฉ่า (Licorice Root) 3 กรัม

 

 

รวมถึงต้องมีการฝังเข็มในจุดต่างๆ เพื่อขับความร้อน ลดพิษ และเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย ส่วนแนวทางการรักษาโรคไข้เลือดออกตามแพทย์แผนจีน ยังต้องแบ่งระยะการดำเนินโรคเพื่อปรับการใช้ยา การฝังเข็ม ให้เหมาะสมกับร่างกายคนไข้แต่ละคน ร่วมกับการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันด้วย

 

 

ในอนาคตประเทศไทยจะพัฒนา ให้มีการใช้แพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบันมารักษาคนไข้แบบบูรณาการ เพื่อประโยชน์ของคนไข้ วงการแพทย์ และระบบสาณารณสุขต่อไป

 

 

แพทย์จีนนภษร แสงศิวะฤทธิ์

(Some images used under license from Shutterstock.com.)